มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2355

“ถอย!”

ร่างกายของเจ้าหอยอดอัมพรถอยหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว แต่ปราณกระบี่กลับไล่ติดตามไปเหมือนเงา ผนึกเขาเอาไว้แน่น ๆ ราวกับไม่มีโอกาสที่จะหลบหลีกได้เลยด้วยซ้ำ

ฉึก!

รัศมีเทวที่สาดส่องออกมาจากไม้เซียนถูกทลาย เมื่ออยู่ต่อหน้าปราณกระบี่ที่เฉียบคมถึงขีดสุดนั่นแล้ว การป้องกันทั้งหมดของเขาล้วนเปราะบางดั่งกระดาษขาว

ฟึ่บ!

เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูด มือข้างหนึ่งบินลอยขึ้นฟ้าแล้วระเบิดแตกเป็นหมอกเลือดภายในพริบตา ปราณกระบี่พุ่งตรงผ่านไป ตัดแขนข้างหนึ่งของเจ้าหอยอดอัมพรลงมา!

และในเวลานี้เอง อานุภาพของปราณกระบี่ที่พุ่งตรงไปไม่ลดลง ฉีกกระชากอนัตตา พุ่งตรงไปยังหีบศพทมิฬที่ตั้งอยู่กลางส่วนบนแท่นบูชานั่นโดยตรง

เสี้ยววินาทีที่ปราณกระบี่ประชิดใกล้หีบศพทมิฬ ออร่าอันน่าทึ่งที่มากมายมหาศาลจึงระเบิดออกมาจากหีบศพทมิฬ ราวกับผู้แข็งแกร่งแห่งยุคที่นอนหลับใหลมายาวนานอย่างไม่รู้จบฟื้นคืนสติแล้ว!

เงาร่างสีดำที่เลือนลางปรากฏแล้วบินออกมาจากหีบศพทมิฬ ยกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นมาแล้วต้านทานปราณกระบี่โดยตรง คลื่นพลังที่สามารถมองเห็นได้ด้วยเนื้อตาเปล่าปะทุออกมา ม้วนซัดพื้นที่ทั้งส่วนบนแท่นบูชา

ในเวลาเดียวกัน ก็มีเงาร่างสีดำอีกแปดร่างบินออกมาจากหีบศพทมิฬติดต่อกัน ร่างกายของทุกร่างล้วนลางเลือนไม่ชัดเจน ออร่าลึกซึ้งดุจเหว มีออร่าที่เก่าแก่และผ่านโลกมาอย่างโชกโชนแผ่กระจายออกมาจากตัว

“จิตตั้งร่างผันของผู้แข็งแกร่งแห่งยุค 9 คน!”

เมื่อหลัวซิวเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว แววตาจึงดูเข้มงวดขึ้นมากะทันหัน เขาเคยศึกษาเรียนรู้ภาพจิตรกรรมฝาผนังสี่ภาพ ทราบว่าภาพจิตรกรรมฝาผนังสองภาพสุดท้ายในปราบสวรรค์และฌาปนนภาสวรรค์ เกิดจากการร่วมมือกันของผู้แข็งแกร่งแห่งยุค 9 คน

และหีบศพทมิฬโลงนี้ในฌาปนนภาสวรรค์ ก็ถูกหลอมสร้างมาจากร่างแห่งเลือดเนื้อของผู้แข็งแกร่งแห่งยุค 9 คน!

ถึงแม้ผู้แข็งแกร่งแห่งยุค 9 คนจะดับสลายสูญสิ้นมานานมากจนจำไม่ได้แล้ว แต่เศษปณิธานของพวกเขาที่หลงเหลืออยู่ในหีบศพทมิฬ กลับเป็นพลังโจมตีที่คงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์ ทรงพลังมากจนเหลือเชื่อ

ปราณวิถีกระบี่ที่เทียบทัดพลังโจมตีของเทพมารระดับเจ็ด ถูกจิตตั้งร่างผันของผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งทลายด้วยฝ่ามือเดียว จิตตั้งร่างผันของผู้แข็งแกร่งแห่งยุค 9 คนปรากฏพร้อมกัน พลานุภาพที่มากมายมหาศาลอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ทำให้หลัวซิวทั้งสามคนที่อยู่ส่วนบนของแท่นบูชา ล้วนรู้สึกว่าร่างกายหนักอึ้ง ขยับร่างไม่ได้เลย

และนี่คือการกดอัดอย่างแน่นอนของแดนยุทธ์ มาตรแม้นว่าเป็นเจ้าหอยอดอัมพรที่มีผลการฝึกตนสูงที่สุด ใบหน้าก็เปี่ยมล้นไปด้วยความหวาดกลัว หวาดผวาอย่างยิ่ง

“ผู้ที่บุกรุกเข้ามาในสถานฌาปนนภาสวรรค์จาลึกหีบศพโดยพลการ ตาย!”

เสียงที่เย็นเยือกไร้ความปราณีดังก้องขึ้นมา จิตตั้งร่างผันของผู้แข็งแกร่งแห่งยุค 9 คนลงมือโจมตีภายในพริบตา

เจ้าหอยอดอัมพรอยู่ใกล้หีบศพทมิฬมากที่สุด จึงเป็นคนแรกที่ประสบพบเจอกับหายนะ!

ตู้มม!

หอยอดอัมพรเศษณ์มหาจักรพรรดิยุทธ์ถูกโจมตีจนแตกสลายเป็นชิ้น ๆ ไม้เซียนยอดอัมพรถูกกดอัดจนกลายเป็นฝุ่นผง จิตตั้งร่างผันของผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งมาถึงด้านหน้าภายในพริบตา ก่อนจะยื่นฝ่ามือออกมา เจ้าหอยอดอัมพรที่อยู่ในแดนจักรพรรดิเทพขั้น 9 ไม่มีแรงต่อต้านเลยแม้แต่น้อย ร่างกายระเบิดกลายเป็นหมอกเลือด

“เผ่น!”

เมื่อหลัวซิวเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว สีหน้าจึงเปลี่ยนไปอย่างมาก หันหน้ามองไปทางผู้อาวุโสเผ่าจี้แล้วตะคอกเสียงดังลั่น

ผู้อาวุโสเผ่าจี้นั่นก็ตกใจจนอกสั่นขวัญหายไปแล้วเช่นกัน เห็นว่าหลังจากเงาดำ 9 ร่างนั้นสังหารเจ้าหอยอดอัมพรเสร็จแล้ว ก็มุ่งหน้าตรงไปทางหลัวซิว สีหน้าของเขาจึงเปลี่ยนแปลงไป ทราบอยู่ว่าตัวเองช่วยเหลืออะไรไม่ได้ จึงควบคุมรูปปั้นบรรพบุรุษสุดกำลังสามารถ แล้วรีบหนีไปทางบันไดแท่นบูชาอย่างรวดเร็ว

เมื่อเผชิญหน้ากับจิตตั้งร่างผันของผู้แข็งแกร่งแห่งยุค 9 คน หลัวซิวรู้อย่างลึกซึ้งว่าตนต้านทานไม่ไหวแน่นอน เจ้าหอยอดอัมพรยังไม่มีแม้แต่แรงที่จะต่อต้าน เขาอ่อนกว่าเจ้าหอยอดอัมพรไม่น้อยเลย จึงเป็นสภาพการณ์ที่ต้องได้ตายอย่างแน่นอน

“ตราประทับปรปักษ์สวรรค์!”

“หมัดจ้านเทียน!”

ในนาทีเป็นตายที่วิกฤตอันตรายมาก หลัวซิวทุ่มวางเดิมพันทั้งหมด ทำได้เพียงลองพนันดูสักตั้ง เมื่ออยู่ภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้ มาตรแม้นว่าเป็นปราณกระบี่ของตู๋กูเจี้ยนเฉินก็ไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่น้อย

หนึ่งในผู้แข็งแกร่งแห่งยุคทั้ง 9 คนนี้ แข็งแกร่งกว่าตู๋กูเจี้ยนเฉินมาก ๆ!

ผู้แข็งแกร่งที่สามารถสังหารสวรรค์ในยุคไท่ชู ฌาปนนภาสวรรค์เข้าโลง ต้องเป็นผู้แข็งแกร่งความสามารถเลิศล้ำที่อยู่เหนือมหาจักรพรรดิยุทธ์์ระดับเก้าอย่างแน่นอน!