“น่าขำชะมัด! เจ้าบอกว่าข้าเหลวไหลอย่างนั้นหรือ? ข้ายังรู้สึกว่าเจ้าเป็นผู้เหลวไหลซะอีก! เจ้าบอกว่าเจ้าเห็นเองกับตา ข้านั้นก็เห็นเองกับตาเช่นกัน หรือว่าสิ่งที่เจ้ามองเห็นนั้นเป็นเรื่องจริง แต่สิ่งที่ข้ามองเห็นนั้นเป็นเรื่องหลอก?”
จี้หยวนฉงยิ้มเยาะ “มิหนำซ้ำหลัวซิวแค่อยู่ในแดนมกุฎเทพ ถ้าเกิดบอกว่าเขาสามารถข้ามขั้นสังหารผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพ เจ้าคิดว่าทุกท่านที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ล้วนคือคนโง่หรือ?”
“เจ้า……”ผู้อาวุโสตระกูลหงโกรธมากจนตัวสั่น เขานึกไม่ถึงเลยว่าเผ่าจี้จะหน้าด้านไร้ยางอายเช่นนี้ นี่มันเป็นการกลับถูกเป็นผิด กลับผิดเป็นถูกชัด ๆ
“ผู้อาวุโสหง คงไม่ได้เป็นเพราะเจ้าอายุมากแล้ว จึงตาลายมองไม่ชัดเจนหรอกกระมัง?”
“มกุฎเทพข้ามขั้นสังหารจักรพรรดิเทพ? นี่คือมุกตลกที่ไม่น่าขำที่สุดที่ข้าเคยได้ยินในชั่วชีวิตนี้!”
“......”
เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ หลังจากจี้หยวนฉงพูดคำพูดเช่นนี้ออกมาแล้ว จักรพรรดิเทพจำนวนมากที่อยู่ในที่เกิดเหตุล้วนเห็นด้วย เนื่องจากมกุฎเทพข้ามขั้นสังหารจักรพรรดิเทพนั้น มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากเกินไปจริง ๆ ตั้งแต่โบราณกาลมา ยังไม่เคยมีตัวอย่างใดที่เป็นทำนองนี้มาก่อน
จี้หยวนฉงไม่สนใจสีหน้าของผู้อาวุโสตระกูลหงเลยด้วยซ้ำ เขากวาดตามองดูรอบ ๆ พลางพูดอย่างเรียบนิ่ง: “เห็นแก่ไมตรีจิตที่ทุกท่านล้วนอยู่บนวิถีเดียวกัน หลังจากผู้อาวุโสตระกูลมู่เสียชีวิตไปแล้ว ข้าจึงช่วยตระกูลมู่เก็บรักษาเรือม่วงทองไว้ชั่วคราว จักคืนมันให้เจ้าของบัดนี้แหละ”
ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น จี้หยวนฉงก็ยกมือโบกทีหนึ่ง เรือม่วงทองที่มีขนาดเท่าฝ่ามือหนึ่งจึงบินออกมา แล้วบินลอยไปทางมู่เทียนฮั๋ว
การกระทำทั้งหมดนี้ของเผ่าจี้ ทำให้แววตาของผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพจำนวนมากในที่เกิดเหตุดูเข้มงวดขึ้น
เรือรบม่วงทองลำนี้คือสมบัติที่มหาจักรพรรดิยุทธ์์สรรพสิทธิ์ทิ้งไว้ เผ่าจี้ได้รับมันไปแล้วแต่กลับไม่นำมันเป็นของตนเอง แต่กลับคืนให้ตระกูลมู่อีกอย่างนั้นหรือ?
ณ บัดนี้วินาทีนี้ มู่เทียนฮั๋วจะยังไม่เข้าใจอีกได้อย่างไร การกระทำที่เผ่าจี้และหลัวซิวคืนเรือม่วงทองและมู่จื่อเซียวให้พวกเขา ทำให้ตระกูลมู่ของพวกเขาไม่มีทางหาข้ออ้างมาทำให้พวกเขาลำบากใจได้อีก มิเช่นนั้นละก็ ตระกูลมู่ของพวกเขาไม่เพียงจะดูไร้เหตุผล และจะดูเป็นการใช้วาจาทำให้ผู้อื่นลำบากใจอย่างเห็นได้ชัดด้วย
ในส่วนของเรื่องการคืนเรือม่วงทองกลับคืนสู่เจ้าของนั้น มันไม่มีค่าอะไรต่อหลัวซิวและเผ่าจี้เลยด้วยซ้ำ ตระกูลมู่มองว่ามันเป็นเศษณ์ทักษาพันธุ์ แต่ไม่ว่าจะเป็นหลัวซิวหรือเผ่าจี้ ต่างมีสมบัติที่ทรงพลังกว่าเรือม่วงทองลำนี้
“เช่นนั้นข้าก็ขอเป็นตัวแทนตระกูลมู่ ขอบพระคุณเผ่าจี้ที่อยู่บนวิถีเดียวกัน!”
มู่เทียนฮั๋วสูดหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง ก่อนจะทำท่าคารวะไปทางนายแห่งเผ่าจี้และเหล่าผู้อาวุโส แล้วกลับเข้าที่นั่งใหม่
เรือม่วงทองและมู่จื่อเซียวต่างกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว ตระกูลมู่ไม่มีเหตุผลในการทำให้ฝ่ายตรงข้ามลำบากใจได้อีก ในส่วนเรื่องการตายของมู่ช่าวหวงนั้น ทำได้เพียงพิจารณาตัดสินอย่างสุขุมรอบคอบ หรือไม่ก็ไม่สนใจเรื่องนี้อีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...