ตอน บทที่ 2401 จาก มหายุทธ์ สะท้านภพ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 2401 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ มหายุทธ์ สะท้านภพ ที่เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตลอดเวลาที่ผ่านมา วังอัมพรกลียุคอาศัยภัณฑ์เศษณ์ชิ้นนี้ตั้งตระหง่านและมั่นคงดั่งขุนเขาอยู่ในโลกหล้า เรียกได้เลยว่าเป็นหนึ่งในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสรรพมหาโลกาที่เป็นรองเพียงตระกูลมู่ ถึงแม้จะไม่มีจักรพรรดิเทพคอยคุ้มกันรักษา เหล่ากองกำลังใหญ่ที่มีจักรพรรดิเทพคอยปกปักรักษาก็ไม่กล้ารุกรานวังอัมพรกลียุคง่าย ๆ เช่นกัน
นำผังเทวะเบิกฟ้ามอบให้หลัวซิว ฉินเฟยเสว่ไม่ได้ขอให้หลัวซิวปกป้องคุ้มกันนาง ก่อนจะหันหลังกลายร่างเป็นแสงกลแล้วบินเข้าไปยังส่วนลึกของห้วงดารา
หลัวซิวส่ายหน้าพลางเพ่งมองเงาหลังของฉินเฟยเสว่ที่จากไป เขาดูออกอยู่ว่าฉินเฟยเสว่อยากให้ตัวเองช่วยนางแก้แค้นอยู่ แต่ไม่ว่าจะทำเพื่อตนเองหรือคำนึงถึงการพัฒนาในอนาคตของเผ่าจี้และตระกูลเทพสงคราม เห็นได้ชัดเจนเลยว่าการเป็นศัตรูกับตระกูลมู่เวลานี้ มันไม่ใช่การตัดสินใจชาญฉลาดมากนัก
หากฉินเฟยเสว่ขอให้เขาช่วยปกป้องคุ้มกันละก็ หลัวซิวก็ไม่มีทางปฏิเสธเช่นกัน ทว่าสตรีนางนั้นกลับมีอุปนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์มาก จากไปโดยไม่หันหน้ากลับมาอีกเลย
จะว่าไปการช่วยชีวิตนางในครั้งนี้ ก็ถือเป็นการตอบแทนบุญคุณเมื่อครั้นนั้นเช่นกัน นางไม่ได้เป็นฝ่ายขอการคุ้มครองปกป้องจากตนเอง หลัวซิวจึงไม่มีทางไปพูดถึงเรื่องนี้เองอยู่แล้ว ในชั่วชีวิตของคนคนหนึ่งต้องเผชิญกับการตัดสินใจหลายครั้งมาก สำหรับฉินเฟยเสว่แล้ว นี่คือการตัดสินใจของนาง
หลัวซิวไม่ได้คิดอะไรมากนัก เก็บผังเทวะเบิกฟ้า ก่อนจะร่วงลงบนคูเมืองที่อยู่บนหินอุกกาบาตด้านล่างชั่วคราว
เมื่อเปรียบเทียบกับการบอกว่ามันคือคูเมือง จะดีกว่าหากบอกว่ามันคือตลาดแห่งหนึ่ง ในกองกำลังทั้งหลายมีทั้งคนดีและคนเลวอยู่ปะปนกัน มีจอมยุทธ์ไม่น้อยที่กลับมาจากดาราเมฆาทมิฬเดินทางเข้าออกร้านค้าต่าง ๆ เพื่อทำการขายสมบัติที่ตัวเองหามาได้
เมื่อหลัวซิวมาถึงที่นี่ ผู้คนที่เดินอยู่บนถนนก็ต่างพากันถอยหลังกลับไปยืนทั้งสองข้างทาง ผู้แข็งแกร่งที่ทำให้ผู้คุมกฎจ้าวมหาเทพแห่งตระกูลมู่ยังเกรงกลัว ไม่ว่าจะไปถึงที่ใดก็ล้วนเป็นผู้ที่สามารถทำให้ผู้คนเคารพยำเกรงได้อย่างแน่นอน
หลัวซิวรู้สึกคุ้นชินกับสิ่งนี้ตั้งนานแล้ว ในโลกของนักยุทธ์ผู้แข็งแกร่งเป็นเจ้าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ก่อนที่เขาจะผนึกเป้าหมายไปที่เหล่าร้านค้าที่ประกอบธุรกิจยาเซียนในตลาดอย่างรวดเร็ว
แท้จริงแล้วนี่ก็เป็นปรากฏการณ์ที่ปกติมาก ๆ เช่นกัน ยิ่งเป็นยาเซียนที่ระดับสูง ก็ยิ่งเก็บสะสมวัตถุดิบที่ใช้ในการกลั่นยาก ยาเซียนที่อยู่ในระดับเดียวกัน ยาเซียนที่สามารถกลั่นร่างกลั่นวิญญาณจะมีมูลค่าสูงที่สุด วัตถุดิบก็หายากมากที่สุดด้วย บวกกับหาตำรับยายาก แม้ปรมาจารย์ยาเซียนระดับเจ้ายุทธจักรจำนวนมากจะหาวัตถุดิบมาได้แล้ว แต่อัตราการกลั่นสำเร็จก็ต่ำมากจนน่าสงสารเช่นกัน
ดังนั้นจำนวนจอมยุทธ์กลั่นร่างและกลั่นวิญญาณในมหาโลกาพันสามก็ค่อนข้างน้อยด้วย ซึ่งประเด็นหลัก ๆ ก็คือการขาดแคลนทรัพยากร
ไม่พบสิ่งที่ตัวเองต้องการในยาเซียน หลัวซิวจึงทำได้แค่ถามหายาเซียนที่ค่อนข้างดี: “ในร้านค้าของพวกเจ้า มีสมุนไพรมังกรสามสีขายหรือไม่?”
“สมุนไพรมังกรสามสี?”เมื่อได้ยินคำถามของหลัวซิวแล้ว เจ้าของร้านก็ชะงักงันลงไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มอย่างขมขื่น “ท่านผู้อาวุโสอาจจะยังไม่ทราบขอรับ มาตรแม้นว่าในดาราเมฆาทมิฬจะเคยมีสมุนไพรมังกรสามสีปรากฏก็จริง ทว่าการที่อยากจะเก็บเกี่ยวยาเซียนระดับนี้นั้น มันยากเกินไปจริง ๆ ขอรับ โดยส่วนใหญ่แล้วอุปทานมักจะไม่พอกับอุปสงค์น่ะขอรับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
Good...
ทำไมอ่านต่อไม่ได้...
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...