นอกเหนือจากผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเทพ มีคนย่างกรายเข้ามายังสถานที่ประเภทนี้น้อยมาก หลัวซิวค้นพบวัตถุดิบธาตุไฟไม่น้อยเลย แม้นจะไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อตน ทว่าเขาก็เก็บมันมาโดยที่ไม่คิดอะไรมากอยู่
หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง หลัวซิวก็มาถึงสุดปลายขอบเขตของเขตอัคคีเทพสีดำม่วง หากมุ่งหน้าเดินไปข้างหน้าอีกละก็ ก็จะเป็นเปลวไฟสีม่วงแล้ว มันเทียบเท่าอัคคีเทพระดับหก ซึ่งไม่ใช่เขาในตอนนี้สามารถต้านทานได้
ดวงจิตอัคคีเทพร้องอ้อ ๆ แอ้ ๆ พลางชี้ไปข้างหน้า อิงจากกระแสสัมผัสของมัน มีสมบัติที่ไม่สามารถประมาณค่าได้หนึ่งชิ้นอยู่ตรงหน้า
แต่หลัวซิวกลับส่ายหน้า เขาไม่ทราบรายละเอียดที่ตั้งของสมบัติชิ้นนั้นไม่ว่า ถึงแม้เขาจะอาศัยอุบายบางอย่างสามารถฝืนบุกเข้าไปในเขตเปลวไฟม่วงได้ แต่ก็ประคองได้ไม่นานแน่นอน อีกทั้งราคาที่ต้องแลกด้วยยังไม่ต่ำ
หากกลับมามือเปล่าละก็ เช่นนั้นมันก็จะได้ไม่คุ้มเสียแล้วจริง ๆ
ในขณะที่เขากำลังเตรียมพร้อมที่จะยอมแพ้ แล้วอนาคตค่อยกลับมาใหม่อยู่นั้น หัวใจเขาก็สั่นไหวขึ้นมากะทันหัน ก่อนจะหันหลังแล้วมองกลับไปด้านหลัง
มีเงาดำร่างหนึ่งบินตรงเข้ามาด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก ๆ เพียงเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น ก็ปรากฏตรงหน้าเขาแล้ว
“เจ้าเองหรือ?”
เงาร่างที่บินมาไม่ใช่ผู้อื่น ซึ่งนางก็คือไป๋เฟยชิงที่ถูกหลัวซิวช่วยชีวิตไว้ครั้นเมื่ออยู่ในเขาผีเก้านั่นเอง
หลัวซิวพบว่าสภาพอาการบาดเจ็บของนางฟื้นฟูกลับคืนมาโดยสิ้นเชิงแล้ว ก่อนจะพูดอย่างเรียบนิ่ง “ดูเหมือนกับว่าแม่นางไป๋ไม่อยากพบหน้าข้ามาก ๆ เลยนะ?”
เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว ไป๋เฟยชิงจึงขมวดคิ้วที่โค้งได้รูปงามนั่นลง คำพูดของหลัวซิวตรงกับสิ่งที่นางคิดจริง ๆ เพราะขอแค่เจอหน้าเขา ก็จะทำให้ตัวนางนึกถึงไผ่เทวดวงครามที่ตนได้รับมาอย่างยากลำบากถูกเจ้าหมอนี่ได้รับไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...