เมื่อเห็นว่าคำพูดของตนได้ดึงดูดความสนใจของทุกคน ซ่งเฉิงจึงอมยิ้มพลางหยิบกล่องหยกที่ประณีตออกมาพลางพูด: “ภายในกล่องหยกใบนี้มีม้วนหยกหนึ่งชิ้น สิ่งที่บันทึกอยู่ภายในม้วนหยกมิใช่วรยุทธ์ และมิใช่พลังอมตะเช่นกัน แต่เป็นการตระหนักรู้ในกฎของผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพท่านหนึ่ง”
“ว่าอย่างไรนะ?!”
เมื่อซ่งเฉิงพูดคำพูดดังกล่าวออกมา ทุกคนในงานก็รู้สึกช็อกจริง ๆ ด้วย เหล่าคนใหญ่คนโตที่นั่งอยู่ในห้องพิเศษ ก็มีคลื่นออร่าของบางคนสั่นไหวเช่นกัน การตระหนักรู้ในกฎของผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพ นี่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถประมาณค่าได้เชียวนะ!
อย่างไรก็ตามก็มีคนบางส่วนที่ยังคงนิ่งเงียบเช่นกัน เล่ากันว่าเจ้าเมืองมังกรครามยักษ์ก็อยู่ในแดนกึ่งจ้าวมหาเทพเช่นกัน สำหรับจอมยุทธ์ที่อยู่ในแดนระดับนี้แล้ว สิ่งที่ต้องการและรอคอยมากที่สุดในชั่วชีวิตนี้ก็คือตามหาโอกาสในการบรรลุสู่จ้าวมหาเทพ หากมีการตระหนักรู้ในกฎเช่นนี้หนึ่งชิ้น แล้วเขาจะปล่อยให้ผู้อื่นได้ครอบครองได้อย่างไร?
ดูเหมือนกับว่าซ่งเฉิงที่อำนวยการการประมูลอยู่บนเวทีสามารถคาดการณ์ความคิดของผู้คนได้ จึงยิ้มพลางอธิบาย: “ขอบอกความจริงกับทุกท่านก็ได้ขอรับ สิ่งที่บันทึกอยู่ในม้วนหยกชิ้นนี้คือการตระหนักรู้ในกฎเพลิงอัคคี น่าเสียดายที่มันไม่เหมาะสมกับเจ้าเมืองของเรา มิเช่นนั้นเจ้าเมืองมังกรครามยักษ์ของเราก็คงไม่เอาออกมาประมูลแล้ว”
เมื่อพูดคำพูดนี้ออกมา คนจำนวนไม่น้อยในงานต่างก็เข้าใจอย่างฉับพลัน เนื่องจากคนส่วนมากล้วนทราบอยู่ว่าสิ่งที่เจ้าเมืองมังกรครามยักษ์ฝึกคือกฎธาตุลม เห็นได้ชัดเจนเลยว่ากฎเพลิงอัคคีไม่สอดคล้องกับกฎที่เขาฝึก มิน่าล่ะเขาถึงเต็มใจเอามันออกมาประมูล
ภายในเวลาชั่วขณะ จู่ ๆ งานประมูลที่เสียงดังในตอนแรกก็เงียบสงบลง ทุกคนล้วนเข้าใจดีมากว่าม้วนหยกชิ้นนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคนส่วนมาก เนื่องจากพวกกึ่งจ้าวมหาเทพและมกุฎเทพขั้นสูงที่ฝึกกฎเพลิงอัคคีต้องทุ่มทุนแก่งแย่งมันมาแน่นอน
น่าจะมีเพียงหลัวซิวเท่านั้นที่ดูถูกม้วนหยกชิ้นนี้ อย่าว่าแต่การตระหนักรู้ของแดนจ้าวมหาเทพเลย เขามีความทรงจำของไท่ซ่างฉิง มาตรแม้นว่าเป็นการตระหนักรู้ของผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับเก้า เขาก็สามารถเอาออกมาได้
แต่ว่าการปรากฏของม้วนหยกชิ้นนี้กลับเตือนสติหลัวซิว หากมีโอกาสละก็ เขาจะสร้างม้วนหยกที่เป็นทำนองนี้ออกมา เหล่าผู้คนที่ผลการฝึกตนถูกพันธนาการมานานหลายปีแล้วเฝ้าบรรลุสู่แดนที่สูงกว่าต้องยินดีทุ่มทุกอย่างเพราะมันแน่นอน!
ครั้นเมื่ออยู่ประเทศเทียนหวูแห่งโลกแสงดาวเมื่อปีนั้น เขาก็ให้จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำสร้างประสบการณ์การฝึกของแดนมกุฎยุทธ์นี่แหละ ก็ทำให้เหล่าผู้แข็งแกร่งมกุฎยุทธ์ดุจได้รับสิ่งล้ำค่า
“ข้าเสนอแก้วเทวชั้นสุดยอดห้าล้านชิ้น!”
ไม่พูดถึงห้วงดาราโลกาดาราอื่น แค่ในโลกะดาราอัมพรเทวและโลกะดาราคุนหลุน ผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งจ้าวมหาเทพและมกุฎเทพขั้นสูงก็มีไม่น้อยแล้ว ซึ่งในจำนวนทั้งหมดยังไม่ขาดแคลนผู้ฝึกกฎเพลิงอัคคีด้วย
จอมยุทธ์ที่ผลการฝึกตนบรรลุถึงแดนระดับนี้ แค่ขยับตัวก็ฝึกตนมาเป็นล้านปีแล้ว สั่งสมทรัพย์สินมามากจนน่าทึ่ง เพื่อเป็นการตามหาโอกาสในการบรรลุสู่จ้าวมหาเทพ พวกเขาก็เต็มใจเอาทรัพย์สินที่สั่งสมมานานหลายปีจนนับไม่ถ้วนออกมาเช่นกัน
ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กระทั่งมาถึงช่วงท้าย ราคาก็พุ่งขึ้นถึงขั้นแก้วเทวชั้นสุดยอด 20 ล้านชิ้นแล้ว
ถัดจากนั้น ก็มีของประมูลปรากฏอย่างต่อเนื่อง ทุกชิ้นล้วนเป็นสมบัติระดับจ้าวมหาเทพ มียาเซียนที่ใช้สำหรับกลั่นยา และมีเหล็กเศษณ์ทองเซียนที่ใช้สำหรับหลอมอาวุธเช่นกัน
มีความผิดหวังเล็กน้อยปรากฏบนใบหน้าหลัวซิว หากมีเพียงสิ่งของเหล่านี้ละก็ เช่นนั้นเขาก็คงได้พาเสี่ยวเจียงหมิงมาเปิดหูเปิดตาในงานประมูลครั้งนี้จริง ๆ แล้วล่ะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...