เขายกมือขึ้นมาโบกทีหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือขนาดใหญ่ออกไปเช่นกัน กดอัดไปทางหลัวซิว
พลังโจมตีของผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพ ทำให้จอมยุทธ์จำนวนมากที่มุงดูอยู่รอบ ๆ สัมผัสได้ถึงพลังออร่าที่น่าเกรงขาม แม้แต่บรรพอาจารย์ระดับกึ่งจ้าวมหาเทพก็ถอยหลังกลับอย่างควบคุมไม่ได้เช่นกัน เนื่องจากมาตรแม้นว่าเป็นพวกเขา ทันทีที่ถูกควันหลงจากผู้แข็งแกร่งจ้าวมหาเทพกระทบกระเทือนเข้าละก็ ต้องแบกรับไม่ไหวแน่นอน
ในส่วนของหลัวซิวนั้น ถึงแม้บรรพอาจารย์ในตระกูลสำนักใหญ่ทั้งหลายแห่งโลกะดาราอัมพรเทวจะรู้อยู่ว่าคนดังกล่าวเก่งกาจมาก ๆ ทว่าเมื่อปีนั้นอย่างมากสุดเขาก็แค่สามารถต่อกรกับกึ่งจ้าวมหาเทพเท่านั้นแหละ นี่เพิ่งผ่านไปแค่ไม่กี่ปีเอง และเขาก็ไม่มีทางมีกำลังรบที่เทียบทัดจ้าวมหาเทพแน่นอน
มิหนำซ้ำที่นี่คือห้วงดาราระดับล่าง มีเพียงจ้าวมหาเทพแห่งเกาะเทียนเหอเท่านั้นที่สามารถเคลื่อนไหวลงมือได้ตามอำเภอใจ ซึ่งผู้อื่นจะกระทำเช่นนี้ไม่ได้หรอกนะ
ตู้มม!
พลังฝ่ามือทั้งสองพุ่งชนกันกลางอากาศ จิตสังหารที่บ้าระห่ำม้วนซัดออกไป เงาร่างของหลัวซิวไม่มีการเคลื่อนไหวเลยแม้แต่
ส่วนสีหน้าของผู้อาวุโสแห่งเกาะเทียนเหอนั่นกลับเปลี่ยนไปอย่างมาก เนื่องจากพลังฝ่ามือของเขาถึงขั้นถูกโจมตีจนแตกสลายภายในเสี้ยววินาที ส่วนมือใหญ่ของฝ่ายตรงข้ามกลับไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่น้อย ยังคงขยำมาทางเขาโดยที่พลานุภาพไม่ลดน้อยลงเลย
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!?”
ผู้อาวุโสเกาะเทียนเหอนั่นตกตะลึงมากจนหน้าถอดสี เขาอยากจะหลบหลีก แต่พลังออร่าที่แข็งแกร่งกลับผนึกร่างเขาให้นิ่งอยู่กับที่ ราวกับมีอาณาจักรไร้รูปแผ่คลุมเขาอยู่ ปริภูมิบริเวณรอบ ๆ ล้วนถูกผนึก
เขาอุทานคำว่าแย่แล้วในใจ การที่ฝ่ายตรงข้ามสามารถปลดปล่อยอุบายเช่นนี้ออกมาได้นั้น อย่างน้อยก็เป็นผู้แข็งแกร่งจ้าวมหาเทพช่วงปลายแล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ตกคือในโลกหล้านี้ นอกจากเกาะเทียนเหอของพวกเขา ยังมีจ้าวมหาเทพคนอื่นที่สามารถมองข้ามข้อจำกัดของกฎจักรวาลฟ้าดินได้อีกอย่างนั้นหรือ?
มือใหญ่ของหลัวซิวประชิดใกล้เข้าไปถึงตรงหน้า ภายใต้การคุมขังและพันธนาการจากกฎปริมภูมิ ผู้อาวุโสเกาะเทียนเหอรู้สึกว่าตัวเองเริ่มหายใจลำบากขึ้น ภายใต้การแผ่คลุมจากพลังฝ่ามือใหญ่ ร่างกายเขาก็เหมือนมดตัวจ้อยตัวหนึ่ง แล้วถูกขยำในวินาทีต่อไป
“เว่ยหนิง รีบหนี!”ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งในเกาะเทียนเหอตะโกนเสียงดังคำหนึ่ง จากนั้นเงาร่างก็กระพริบ ขวางอยู่กลางระหว่างหลัวซิวและหนุ่มเจ้าสำนักน้อย
เว่ยหนิงก็คือเจ้าสำนักน้อยแห่งเกาะเทียนเหอ ผู้อาวุโสเกาะเทียนเหอคนนี้ซื่อสัตย์มาก เห็นว่าผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งถูกสังหารแล้วก็ยังไม่หนี แต่เป็นการคุ้มกันให้เว่ยหนิงหนีไปก่อน
ผลการฝึกตนของเว่ยหนิงเป็นเพียงมกุฎเทพช่วงปลาย เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าแม้แต่ผู้อาวุโสจ้าวมหาเทพยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ ขืนเขาอยู่ต่อก็มีแต่ต้องตายสถานเดียว ดังนั้นจึงไม่พูดพร่ำทำเพลง กลายร่างเป็นแสงกลโดยตรง แล้วบินไปยังห้วงดาราที่อยู่ห่างไกลออกไป
“ในเมื่อมาแล้ว เหตุใดจึงต้องจากไปด้วย?”
หลัวซิวทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีหนึ่ง เว่ยหนิงเรียกผู้อาวุโสจ้าวมหาเทพมาสองคน เห็นอยู่ทนโท่แล้วจักเอาเขาให้ตาย สำหรับคนประเภทนี้นั้น หลัวซิวไม่มีความคิดที่จะปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสได้หลบหนีไปหรอกนะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...