สวรรค์ยึดกุมเทียนเต้า เข็มขัดแขวนที่ฝึกเซ่นสลักจารึกด้วยพลังแห่งสวรรค์จะไม่ถูกจำกัดโดยกฎฟ้าดินหรือกฎเทียนเต้า คำอธิบายนี้จึงสมเหตุสมผลอยู่
สายตาทั้งหลายต่างเพ่งมองหลัวซิวที่ยืนอยู่กลางนภาด้วยความเคารพยำเกรงและหวาดหวั่น คนจำนวนไม่น้อยล้วนถอยกลับโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียงแล้ว ตลอดช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมานี้เกาะเทียนเหอทำตัวเอิกเกริกยิ่งใหญ่อย่างไร้เทียมทาน วันนี้กลับเสียเปรียบอยู่ที่นี่ ทุกคนจึงล้วนเข้าใจดีมากว่าเรื่องนี้ไม่มีทางสิ้นสุดตรงนี้แน่นอน
สามารถคาดเดาได้เลยว่าช่วงเวลาต่อจากนี้ ต้องมีเรื่องราวที่ใหญ่โตเกิดขึ้นอีกแน่นอน
“เทพธิดาเมี่ยวหลุนโปรดยั้งเท้าก่อน”
หลัวซิวเอ่ยปากเรียกฉีเมี่ยวหลุนไว้ ในส่วนของเหล่าผู้อาวุโสแห่งสำนักไท่ฉือนั้นก็ไม่กล้าพูดอะไรเช่นกัน แม้แต่จ้าวมหาเทพแห่งเกาะเทียนเหอหลัวซิวยังกล้าสังหาร จึงไม่มีทางนำสำนักไท่ฉือมาไว้ในสายตาอยู่แล้ว
“เมี่ยวหลุน พวกเราขอตัวก่อน เจ้าพูดคุยกับท่านชายหลัวก่อนเถิด”บรรพอาจารย์คนหนึ่งในสำนักไท่ฉือยิ้ม จากนั้นก็ทำท่าคารวะไปทางหลัวซิว ก่อนจะหันหลังจากไป
ฉีเมี่ยวหลุนเป็นวัยรุ่นที่โดดเด่นมากที่สุดในสำนักไท่ฉือ ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์ในการฝึกตน หรือปัญญาอุปนิสัยล้วนไม่ใช่สิ่งที่คนในรุ่นเดียวกันสามารถเทียบทัดได้
“ไม่ทราบว่าท่านชายหลัวขอพบข้าเพราะเรื่องอันใดหรือ?”ฉีเมี่ยวหลุนเพ่งมองหลัวซิว ถึงแม้เมื่อปีนั้นระหว่างทั้งสองจะมีความขัดแย้งเล็กน้อย แต่นางก็ไม่ได้รู้สึกไม่เป็นสุขเพียงเพราะความแข็งแกร่งของหลัวซิวเช่นกัน
“คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ งานประมูลของเมืองมังกรครามยักษ์ในครั้งนี้ยิ่งใหญ่อบอุ่นเช่นนี้ เหตุใดจึงไม่เห็นผู้คนในตระฉีแห่งโลกะดาราอัมพรเทวมาเข้าร่วมเลยล่ะ?”หลัวซิวถามอย่างรู้สึกสงสัย
ขณะที่อยู่ในงานประมูล เขาได้ใช้ตัวสำนึกแผ่สำรวจรอบหนึ่ง และไม่พบผู้คนในตระกูลฉีเลยจริง ๆ
เมื่อปีนั้นเขาช่วยฉียู่หรงกวาดล้างผู้ทรยศของตระกูลฉี จากนั้นฉียู่หรงก็รับมือดูแลตระกูลฉีอยู่ในโลกะดาราอัมพรเทวต่อ
ถ้าเกิดบอกว่าในโลกะดาราอัมพรเทวยังมีคนที่เขาวางใจไม่ได้ เช่นนั้นคนคนนั้นก็คือฉียู่หรงแล้วล่ะ
ครั้งนี้หลังจากฟื้นคืนชีพเสี่ยวเจียงหมิงในดาราแห่งกาลเวลาเสร็จ เดิมทีเขาวางแผนที่จะพาเสี่ยวเจียงหมิงไปพบช่าจื่อเยียนหลังจากสภาพอาการบาดเจ็บฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ แต่นึกไม่ถึงเลยว่านางจะแจ้นมาถึงที่นี่ด้วยตนเอง
“ขอบคุณเทพธิดาเมี่ยวหลุนมาก ๆ ที่แจ้งเรื่องนี้กับข้า ข้ายังมีธุระนิดหน่อย ขอตัวก่อนล่ะ!”
เมื่อทราบว่าเกิดเรื่องขึ้นกับช่าจื่อเยียนและฉียู่หรง หลัวซิวก็ต้องรีบเร่งเดินทางไปเป็นเวลาแรกอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงทำท่าคารวะให้ฉีเมี่ยวหลุน ก่อนจะกลายร่างเป็นแสงกลดวงหนึ่งแล้วหายวับไป
เดิมทีหลังจากสิ้นสุดงานประมูลแล้ว เขายังวางแผนที่จะไปสอบถามเรื่องแดนปริศนากับเจ้าเมืองมังกรครามยักษ์อยู่เลย ในเมื่อมีเรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้น จึงต้องปล่อยเรื่องนี้ไว้ก่อน
เมื่อเห็นว่าหลัวซิวจากไปอย่างเร่งรีบ ก็มีรังสีแห่งความแปลกใจปรากฏบนใบฉีเมี่ยวหลุน นางสามารถสัมผัสได้อยู่ว่าดูเหมือนทั้งช่าจื่อเยียนและฉียู่หรงจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาต่อหลัวซิว ซึ่งนี่ก็หมายความว่าตระกูลจ้าวจะจบเห่แล้วมิใช่หรือ?
แม้แต่จ้าวมหาเทพแห่งเกาะเทียนเหอ หลัวซิวยังสามารถสังหารได้อย่างง่ายดาย แล้วตระกูลจ้าวกระจอก ๆ จักมีค่าอะไรเล่า?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...