เมื่อพูดทั้งสองประโยคนี้จบ ก่อนจะจากไปเขาได้ทิ้งตราฝ่ามือหนึ่งไว้ในสามตระกูล ซึ่งตราฝ่ามือนั่นเป็นสิ่งที่แม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพขั้นสูงยังไม่สามารถทิ้งไว้ได้ บรรพอาจารย์ระดับกึ่งจ้าวมหาเทพของทั้งสามตระกูลใหญ่ยิ่งไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลยแม้แต่น้อย
หลัวซิวยังไม่ได้ไปสำนักไท่ฉือและสำนักกว่างหาน ทั้งสองสำนักใหญ่นี้ก็ได้ส่งคนมายังตระกูลฉีแล้ว
สำนักกว่างหานส่งของขวัญมา ความต้องการเรื่องขอสงบศึกนั้นชัดเจนมาก แสดงให้เห็นว่าสำนักกว่างหานจะไม่เป็นศัตรูกับตระกูลฉีอย่างแน่นอน
ลักษณะท่าทีของสำนักไท่ฉือก็เป็นเฉกเช่นเดียวกัน ส่วนผู้ที่สำนักไท่ฉือส่งมาคือฉีเมี่ยวหลุน
สิ่งที่ทำให้หลัวซิวรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยคือฉีเมี่ยวหลุนเสนอข้อเรียกร้องในการติดตามหลัวซิว นางอยากติดตามหลัวซิวอยากจากโลกะดาราอัมพรเทวเพื่อมุ่งหน้าไปยังโลกาชั้นฟ้า แสวงหาฟ้าดินที่กว้างขวางมากกว่า
ฉีเมี่ยวหลุนเป็นสตรีที่ชาญฉลาดมาก ๆ คนหนึ่ง หลังจากผ่านพ้นเรื่องราวหลายอย่างมา นางก็ค้นพบข้อจำกัดของห้วงดาราระดับล่างเช่นกัน นางเข้าใจดีมาก ๆ ว่าหากตนอยู่ที่นี่ต่อ บางทีทั้งชีวิตอาจจะไม่มีโอกาสได้บรรลุเป็นจ้าวมหาเทพ มาตรแม้นว่าสักวันจะบรรลุเป็นจ้าวมหาเทพ ก็จำเป็นต้องไปยังโลกาชั้นฟ้า
และถ้าเกิดสามารถติดตามผู้แข็งแกร่งอย่างหลัวซิวได้ เส้นทางในอนาคตต้องเดินได้ราบเรียบมากกว่าเดิมแน่นอน
“หากเจ้าจะติดตามข้าไปยังโลกาชั้นฟ้าจริง ๆ มันก็ได้อยู่ แต่ทว่าข้าจะไม่จากไปในเร็ว ๆ นี้ หากมีแผนที่จะจากไป ข้าจะแจ้งให้เจ้าทราบ”หลัวซิวกล่าวเช่นนี้
“ขอบพระคุณท่านชายอย่างยิ่ง”ฉีเมี่ยวหลุนลุกขึ้นยืนแล้วทำความเคารพอย่างอ่อนโยน
“เจ้ายังทราบเรื่องราวอะไรที่เกี่ยวข้องกับเกาะเทียนเหออีกหรือไม่?”หลัวซิวเอ่ยปากถามกะทันหัน หากถามว่ามีอะไรที่เขายังไม่ค่อยไว้วางใจในห้วงดาราระดับล่าง เช่นนั้นมันก็คือการคงอยู่ของเกาะเทียนเหอแล้วล่ะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...