มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 252

“ฮ่า ๆ .....” หลัวซิวแหงนหน้าหัวเราะเอิ๊กอ๊าก

“เจ้าหัวเราะอะไร?” ฝานโหยว่หลี่ขมวดคิ้วกล่าว

“ข้าหัวเราะที่ราชวงศ์ตระกูลฝานของพวกเจ้าไม่มีกฎระเบียบ ต่ำช้าไร้ยางอาย! รับข้าเข้าไป แล้วลงวิชาสยบวิญญาณเพื่อควบคุมข้าเช่นนั้นรึ?”

หลัวซิวลอยตัวขึ้นไปในอากาศ ผมยาวของเขาปลิวไสวไปตามสายลม พลางกล่าวอย่างเย็นชา: “ในเมื่อคนครบแล้ว พอดีจะได้ส่งพวกเจ้าออกเดินทางไปพร้อมกัน!”

ในขณะที่พูด มือทั้งสองข้างของหลัวซิวก็ได้ขับเคลื่อนเคล็ดวิชา ม่านแสงแวววับก็ได้เลื่อนขึ้นมา ราวกับชามใบใหญ่ที่ถูกคว่ำลง ปิดกั้นบริเวณภูเขาลูกเล็กเอาไว้

“หลัวซิว เจ้ามันบังอาจนัก กล้าลงมือกับองค์ชายสามงั้นรึ?”

ปรมาจารย์ฝึกจิตทั้งหกที่อยู่ข้างกายฝานโหยว่หลี่ต่างมีท่าทางโมโห คิดถึงว่าหลัวซิวจงใจหยุดอยู่ตรงนี้ แถมยังได้ตั้งค่ายกลเตรียมการเอาไว้ มันคือกับดักโดยสิ้นเชิง

เมื่อเห็นม่านค่ายกลผุดขึ้นมา ปิดกั้นบริเวณนี้เอาไว้ นักยุทธ์ทั้งหกของตระกูลฝาน ต่างก็คว้าอาวุธยุทธ์ออกมา คุ้มครององค์ชายสามฝานโหยว่หลี่เอาไว้ตรงกลาง

“หลัวซิว เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังทำอะไรอยู่?” ฝานโหยว่หลี่จ้องมองหลัวซิว กล่าวย่างเย็นชา: “เจ้ากำลังก่อกบฏอยู่ เจ้ารู้หรือเปล่า?”

หลัวซิวแสดงท่าทีเยาะเย้ยออกมาบนใบหน้า “เห็นตัวเองเป็นโอรสสวรรค์จริง ๆ หรืออย่างไร ราชวงศ์ประเทศเทียนหวูที่ว่านั้น ก็เป็นเพียงแค่ตระกูลที่มีภูมิหลังและความสามารถที่ค่อนข้างจะแข็งแกร่งเท่านั้นเอง”

ฝานโหยว่หลี่มีท่าทีโมโห แต่ก็รู้ว่าที่หลัวซิวพูดมานั้นเป็นความจริง ๆ ราชวงศ์ตระกูลไม่สามารถควบคุมประเทศเทียนหวูได้อย่างเต็มที่ ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ยอมให้สิบตระกูลใหญ่ และสำนักใหญ่ต่าง ๆ อยู่ แทนที่จะบอกว่าเป็นเจ้าของประเทศ ไม่สู้บอกว่าเป็นตระกูลที่ค่อนข้างจะแข็งแกร่งในดินแดนแห่งหนึ่งจะดีกว่า

แม้ว่าภูมิหลังของตระกูลฝานจะแข็งแกร่งกว่าตระกูลและสำนักอื่น ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่สามารถที่จะบดขยี้ได้ ไม่สามารถนำอำนาจและทรัพยากรทั้งหมดในประเทศเทียนหวูรอบรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวเอาไว้ภายใต้การควบคุมได้

แต่ในอาณาเขตประเทศเทียนหวู ความแข็งแกร่งของตระกูลฝานนั้นไม่ต้องสงสัย!

“ไปจับตัวหลัวซิวและปี้เซียนเสว่มาซะ!” ฝานโหยว่หลี่ออกคำสั่ง

สำหรับเรื่องที่หลัวซิวรู้เรื่องเกี่ยวกับวิชาสยบวิญญาณ ฝานโหยว่หลี่ไม่แปลกใจเลยสักนิด มีความเป็นไปได้มากว่าปี้เซียนเสว่ได้บอกกับเขา ในเมื่อทั้งสองฝ่ายได้แตกหักกันแล้ว กก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีก

นักยุทธ์ทั้งหกของตระกูลฝานนำโดยผู้ฝึกจิตขั้น 9 ทั้งสอง ผิวปากออกมาหนึ่งครั้ง จากนั้นก็บุกโจมตีเข้าใส่หลัวซิว

“เจ้ารออยู่ตรงนี้” หลัวซิวกล่าวกับปี้เซียนเสว่หนึ่งประโยค แม้ว่านางจะมีผลการฝึกตนในแดนฝึกจิตขั้นสี่ แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรทมากนัก

ปี่เซียนเสว่ตอบรับ นางรู้ว่าฝีมือของตนไม่แข็งแกร่งพอ ถึงได้ถอยห่างออกไป

“เปิดค่าย!”

มือทั้งสองข้างของหลัวซิวบีบพลังตราประทับออกมาอีกครั้ง รัศมีพลังมรณะอันแรงกล้าสองสายปรากฏขึ้น กลายเป็นหลุมอากาศสีดำ เหมือนดังมังกรทมิฬ พุ่งกระโจนออกไป

มังกรทมิฬสองตัวนี้เป็นร่างโจมตีที่หลัวซิวสร้างขึ้นจากค่ายสังหารระดับ 4 นั่นเอง ได้วาดลายเส้นและสัญลักษณ์ค่ายกลเอาไว้บนธงค่าย และเป็นสิ่งที่เขาได้เรียนรู้มาจากผังกฎดั้งเดิมนั่นเอง ผสมผสานกับความลึกซึ้งของสองระดับความเป็นตาย

ในสองระดับความเป็นตาย หลัวซิวค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับการเรียนรู้พลังแห่งความตาย สำหรับความเข้าใจที่มีต่อพลังแห่งชีวิตนั้น ยังคงอยู่ที่ขั้นฟื้นฟูลายเส้นชีวิตรักษาอาการบาดเจ็บ

อานุภาพของค่ายกลขั้น 4 ไม่เพียงพอที่จะสังหารปรมาจารย์ฝึกจิตทั้งหกได้ แต่ก็เพียงพอที่จะสร้างความลำบากไม่น้อยให้กับพวกมัน

“กระบี่สังหาร!”

ในตอนที่คนอื่น ๆ ถูกมังกรทมิฬพัวพันเอาไว้นั้น หลัวซิวก็ได้ฟันกระบี่ออกไป พลังกระบี่อัคคีดำฟันขวางออกไปในฟ้าดิน ห้วงยุทธ์กระบี่สังหารและห้วงยุทธ์มรณะปะทุออกมา ปราณกระบี่ฟันออกไปรวดเร็วเหมือนดั่งสายฟ้า

ปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น 9 ผู้หนึ่งลงมือขัดขวาง และถูกพลังกระบี่อัคคีดำกระแทกลอยออกไป กระอักเลือดออกมากลางอากาศ

ในตอนนี้เอง หลัวซิวได้ใช้ห้วงยุทธ์กระบี่สังหารควบแน่นตัวสำนึกแสดงเคล็ดวิชาแหลกวิญญาณออกมา ตัวสำนึกได้จู่โจมเข้าไปในตัวหยั่งรู้ของอีกฝ่าย ห้วงสังหารกลายเป็นวังวน ก่อกวนตัวหยั่งรู้ของปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น 9 ผู้นี้แทบจะพลังทลายในทันทีทันใด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ