“แม้นสิ่งที่จัดตั้งลายค่ายยันต์ค่ายจะเป็นพลังแห่งสิงเทียนทว่าแดนของผู้จัดวางค่ายไม่สูงมากนัก เพราะฉะนั้นพลังแห่งสิงเทียนก็อยู่ในขอบข่ายของเกณฑ์เช่นกัน……”
หลัวซิวพลางอนุมานพลางคิดหาวิธีอย่างลึกซึ้ง ถึงแม้เขาจะยึดกุมพลังเกณฑ์อย่างวัฏสงสารและเวลา แต่การที่จะทำลายค่ายกลนี้นั้น ก็ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน นอกเสียจากว่าเขาสามารถบรรลุถึงแดนเทพมารระดับหก
ผลการฝึกตนไม่พอ แต่หลัวซิวกลับสามารถใช้วิธีการอื่นมาช่วยชีวิตคาดิสลาร์ออกมาชั่วคราวได้อยู่ แม้นจะไม่ได้รับอิสรภาพโดยสิ้นเชิง ทว่าสำหรับคาดิสลาร์แล้ว ขอแค่สามารถหลุดพ้นออกมาจากค่ายกลดังกล่าว มาตรแม้นว่าจะออกมาได้เพียงชั่วครู่ มันก็เป็นสิ่งที่ดีเลิศมากแล้ว
ตรงหว่างคิ้วค่อย ๆ แยกออก ตำหนักวัฏสงสารบินออกมาจากตัวหยั่งรู้ แล้วลอยอยู่ด้านซ้ายของหลัวซิว ถัดจากนั้นใจแห่งศุภรก็บินออกมาลอยอยู่ด้านขวาของหลัวซิว
ต่อมาศิลาผนึกปีศาจก็บินออกมาลอยอยู่เหนือศีรษะ มีแสงสีเขียวที่เวียนว่ายตายเกิดสาดส่องลงมา
หลัวซิวยกมือโบกทีหนึ่ง วัตถุดิบต่าง ๆ นานาที่ใช้สำหรับจัดวางค่ายก็บินออกมาอย่างไม่ขาดสาย เพียงชั่วพริบตาเดียว วัตถุดิบก็กองกันอยู่ข้างกายเขาจนเท่าภูเขาเล็ก ๆ ลูกหนึ่ง
วัตถุดิบเหล่านี้ ระดับขั้นที่ต่ำที่สุดคือจักรพรรดิระดับห้า ยิ่งกว่านั้นคือวัตถุดิบส่วนมากคือตัวเซียนระดับหก ซึ่งสามารถใช้มาหลอมอาวุธเทพระดับหก เศษณ์มหาจักรพรรดิยุทธ์!
จากระดับขั้นของมหาค่ายกักชีวีเทวโทษเวหากาลนี้ วัตถุดิบทั่วไปต้องต้านทานไม่ไหวแน่นอน ถึงแม้เขาจะนำวัตถุดิบเหล่านี้กลั่นเป็นธงค่ายผังค่าย ก็สามารถต้านทานพลังแห่งสิงเทียนได้ในระยะเวลาที่แน่นอนเท่านั้น ซึ่งเขาต้องกลับมาจัดวางค่ายกลใหม่ในทุก ๆ ระยะเวลาช่วงหนึ่ง
อัคคีเทพชีวีบินออกมาจากร่างกายหลัวซิว วัตถุดิบแต่ละชนิดถูกเขาโยนเข้าไปในอัคคีเทพ ธงค่ายและผังค่ายทั้งหมดที่เขากลั่น ไม่เพียงมีความล้ำลึกของวิชาฎีกาค่ายแฝงซ่อนอยู่เท่านั้น ยิ่งมีวิชาหลอมอาวุธในเศษวิชาหนังสือยุทธภัณฑ์แฝงอยู่ด้วย
เวลาล่วงเลยไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว แค่กลั่นธงค่ายผังค่าย หลัวซิวก็ใช้เวลาไปหนึ่งปีเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...