สรุปเนื้อหา บทที่ 2603 – มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม
บท บทที่ 2603 ของ มหายุทธ์ สะท้านภพ ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ในฐานะที่เป็นผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ช่วงปลายคนหนึ่ง หรงเทาไม่ได้นำหลัวซิวมาไว้ในสายตาเลยด้วยซ้ำ ยิ่งกว่านั้นคือเขาก็ไม่ยี่หระมหาจักรพรรดิยุทธ์คนอื่น ๆ ในมหาโลกาพันสามเช่นกัน
เนื่องจากเขามาจากโลกร้าง ในฐานะที่เป็นหนึ่งในโลกมหาศักดิ์ทั้งแปด การถ่ายทอดสืบสานของโลกร้างไม่ใช่สิ่งที่ห้วงดาราที่เกณฑ์ไม่สมบูรณ์ครบถ้วนอย่างมหาโลกาพันสามสามารถเทียบเคียงได้ เมื่อผลการฝึกตนอยู่ในแดนเดียวกัน จอมยุทธ์ที่กำเนิดจากโลกมหาศักดิ์จะแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย
มิหนำซ้ำเท่าที่เขาทราบมา กระทั่งปัจจุบัน ในมหาโลกาพันสามไม่มีมหาจักรพรรดิยุทธ์ช่วงปลายเลยแม้แต่คนเดียว เขาที่อยู่ที่นี่นั้นสามารถพูดได้เลยว่าเป็นการคงอยู่ที่ไร้เทียมทาน
ลักษณะท่าทีของหรงเทาดูเย่อหยิ่งสูงส่งมาก แต่หลัวซิวกลับทราบอยู่ว่าเทพมารระดับหกที่อยู่ในโลกมหาศักดิ์ทั้งแปดนั้น ไม่มีค่าอะไรเลยด้วยซ้ำ
เวลานี้ซือถูเซิ่งเจี๋ยไม่ได้พูดอะไรอีก อีกทั้งเงาร่างเขาได้ถอยกลับไปในตำแหน่งที่อยู่ห่างออกไปไกลมาก ๆ ราวกับไม่มีท่าทีที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
หากไม่ใช่เพราะตัวตนของหรงเทาเป็นคนใหญ่คนโตแห่งโลกาชั้นฟ้า เขาอาจจะไม่พาหรงเทามาหาหลัวซิวด้วยซ้ำ พวกที่มาจากโลกาชั้นฟ้า แต่ละคนหยิ่งผยองมาก ไม่ว่าผู้ใดมองเห็นก็ต้องไม่ชอบขี้หน้ากันทั้งนั้นแหละ
ลาร์ยืนอยู่ด้านหลังหลัวซิว มีกระบองเหล็กสีดำขลับเล่มหนึ่งปรากฏในมือเขา
ตั้งแต่ที่เขาถูกหลัวซิวช่วยออกมาจากมหาค่ายกักชีวีเทวโทษเวหากาล ลาร์ยังไม่เคยใช้อาวุธของตัวเองเลย ซึ่งกระบองเหล็กเล่มนี้ ฝึกเซ่นมาจากเหล็กเซียนชิ้นหนึ่งในตรีภพที่หล่อเลี้ยงเขาออกมา มีนามว่ากระบองเหล็กเซียนตรีภพ
การที่สามารถทำให้ลาร์เอาอาวุธออกมาได้นั้น แสดงให้เห็นเลยว่าหรงเทานี่ทำให้ลาร์จำเป็นต้องทุ่มสุดกำลังสามารถแล้ว
อย่างไรเสียแม้นลาร์จะเป็นเพียงเทพมารระดับเจ็ด ทว่ากลับมีเพียงพลังร่างเนื้อ ไม่สามารถใช้ผลการฝึกตนและตัวสำนึกได้เลย กำลังรบที่แท้จริงจึงถูกลดทอนลงไปเยอะมาก
ลาร์สามารถสังหารมหาจักรพรรดิยุทธ์ทั่วไปได้อย่างง่ายดาย แต่หรงเทากลับไม่ใช่มหาจักรพรรดิยุทธ์ทั่วไป
อย่างไรเสียเขาก็มีเพียงร่างเนื้อที่แข็งแกร่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ผลการฝึกตนและตัวสำนึก จึงส่งผลให้ไม่สามารถปลดปล่อยพลังอมตะออกมาได้ ทำได้เพียงอาศัยแรงฮึด มากสุดก็แค่สามารถกดอัดมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นปฐมภูมิ เมื่อเผชิญหน้ากับมหาจักรพรรดิยุทธ์ช่วงปลายก็รับมือยากแล้วล่ะ
การฝึกยุทธ์เป็นระบบที่สมบูรณ์แบบระบบหนึ่ง แท้จริงแล้วการที่แข็งแกร่งเพียงด้านใดด้านเดียวมันกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยช่องโหว่
มาตรแม้นว่าเป็นพวกจอมยุทธ์กลั่นร่าง ก็ต้องยกระดับผลการฝึกตนและตัวสำนึกเช่นกัน ไม่มีทางแค่ฝึกร่างเนื้อเพียงอย่างเดียว เนื่องจากหากอยากแสดงด้านที่แข็งแกร่งของร่างเนื้อออกมา ก็จำเป็นต้องใช้ผลการฝึกตนตัวสำนึกมากระตุ้นอภินิหารด้วย
แต่ว่าหลัวซิวก็ดูออกเช่นกันว่าแม้นลาร์จะเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ แต่ในฐานะที่เป็นยักษ์ตรีภพ เคยผ่านพ้นศึกสงครามที่ยิ่งใหญ่และการเข่นฆ่ามามากจนนับไม่ถ้วน ประสบการณ์การต่อสู้หลากหลายมาก อย่างน้อยหรงเทาก็อย่าคิดว่าจะสามารถทำอะไรเขาภายในระยะเวลาสั้น ๆ ได้
ในส่วนของตัวหลัวซิวเองนั้น เวลานี้เขาไม่ได้ลงมือแต่อย่างใด เนื่องจากในตำแหน่งที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลยังมีซือถูเซิ่งเจี๋ยที่ชมการต่อสู้อยู่ เขาไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างซือถูเซิ่งเจี๋ยและหรงเทานั่นเป็นอย่างไรกันแน่ หากซือถูเซิ่งเจี๋ยลงมือช่วยเหลือหรงเทาละก็ สถานการณ์ฝั่งเขาต้องย่ำแย่มากอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
Good...
ทำไมอ่านต่อไม่ได้...
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...