มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2619

“อีกไม่นานข้าก็จะทำให้เจ้าได้รู้เองว่าข้ามีศักยภาพนั้นหรือไม่”

ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น เงาร่างของหลัวซิวก็ร่วงลงบนเวทีประลองยุทธ์เป็นที่เรียบร้อย ระหว่างเขาและตระกูลหงไม่มีทางมีพื้นที่ให้ญาติดีกันได้อีก เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่มีความคิดที่จะออมมือต่อการแข่งขันในครั้งนี้ 

เมื่อเห็นหลัวซิวปรากฏบนเวทีประลองยุทธ์ รอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้าหงเว่ยก็หายวับไปภายในพริบตา สิ่งที่เข้ามาทดแทนคือจิตสังหารที่เข้มงวดและรวดเร็วดุดันอย่างยิ่ง 

เขาดูเหมือนดูแคลนคู่ต่อสู้ แต่แท้จริงแล้วมันเป็นเพียงบุคลิกลักษณะหนึ่งเท่านั้น อย่าว่าแต่ไม่มีผู้ใดสามารถคาดเดาศักยภาพที่แท้จริงของหลัวซิวนี่ได้เลย ต่อให้หลัวซิวเป็นเพียงจ้าวมหาเทพธรรมดาทั่วไปคนหนึ่ง เขาก็จะทุ่มสุดกำลังสามารถเช่นกัน 

เนื่องจากนี่ไม่ได้เกี่ยวโยงถึงความเป็นความตายของตัวเองเท่านั้น ยังเกี่ยวโยงถึงภาพลักษณ์หน้าตาของทั้งตระกูลหงด้วย

การถ่ายทอดสืบสานของตระกูลหงคือเคล็ดตรีภพโกลาหล ทันทีที่หงเว่ยโคจรวรยุทธ์ ทั้งเวทีประลองยุทธ์ก็ประกอบเป็นอาณาจักรตรีภพ 

เวิ่ง!

หลัวซิวทำการเผาผลาญพลังและเลือดอย่างไม่ลังเลใจ ผลการฝึกตนจากจ้าวมหาเทพขั้น 4 เพิ่มขึ้นถึงจ้าวมหาเทพขั้น 7 ในรวดเดียว บรรลุสูงถึงจ้าวมหาเทพช่วงปลาย 

และสำหรับหลัวซิวแล้ว จ้าวมหาเทพช่วงปลายก็หมายความว่าเขาสามารถปลดปล่อยศักยภาพที่เทียบเท่าจักรพรรดิเทพช่วงปลายออกมาได้

พลานุภาพประเภทหนึ่งที่มากมายมหาศาลแผ่คลุมมา หลัวซิวยื่นมือออกไปขยำทีเดียว กระบี่ร่องฟ้าก็ปรากฏในมือ ผนึกรวมกฎความตายและปริภูมิสองประเภทเข้าด้วยกัน ก่อนจะง้างมือแล้วฟาดฟันกระบี่ออกไป 

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ……

ร่างกายของหลัวซิวถอยหลังกลับไปติดต่อกันสามก้าว บริเวณหน้าอกเขาถูกฉีกกระชากจนเกิดเป็นแผลหนึ่งจุด ทำให้มีเลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดออกมา

ฝั่งตรงข้ามของเขา เงาร่างหงเว่ยได้เดินออกมาจากตรีภพ บนใบหน้าไม่มีความรู้สึกใด ๆ เลย พลางพูดอย่างเยือกเย็น: “นี่คือศักยภาพของเจ้าหรือ? ก็พอถูไถสามารถเทียบเคียงกับจักรพรรดิเทพช่วงปลายได้แล้ว ทว่าเมื่อเปรียบเทียบกับข้า ก็ยังห่างไกลมาก ๆ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ