มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2637

สรุปบท บทที่ 2637: มหายุทธ์ สะท้านภพ

สรุปเนื้อหา บทที่ 2637 – มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม

บท บทที่ 2637 ของ มหายุทธ์ สะท้านภพ ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ก็ไม่แปลกหรอกที่จีเสวียนคงกังวลใจเช่นนี้ ผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ฝั่งเผ่าจี้มีเพียงลาร์คนเดียวเท่านั้น หากฝืนนับหลัวซิวด้วยละก็ ก็มีเพียงสองคน จักรพรรดิเทพมีแค่ดูดจิต ยู่เอ๋อร์ เมื่อเปรียบเทียบศักยภาพภูมิฐานกับเขาดึกดำบรรพ์แล้ว เผ่าจี้ก็เปราะบางจนไม่อาจทนแรงกระแทกใด ๆ ได้ ราวกับใช้ไข่ปาหิน 

“ไม่ต้องเป็นห่วง ยอดฝีมือมากไม่ได้หมายความว่าจักเก่งกาจ”หลัวซิวตอบกลับอย่างเย็นชา 

และในเวลานี้เอง ก็มีแสงอาทิตย์สาดส่องผ่านกลุ่มเมฆมาถึงแดนปริศนาเผ่าจี้ ตันเม่ยนำพาผู้แข็งแกร่งจำนวนมากจากวังเซียนมหาวาลเร่งเดินทางมา 

หลัวซิวและจี้หานยู่เดินขึ้นไปต้อนรับ ทั้งสองฝ่ายก้มคำนับให้กันและกันหลังพบหน้า ภูมิฐานของวังเซียนมหาวาลไม่ถือว่าแข็งแกร่งมากนัก แต่ก็ไม่อ่อนเช่นกัน นอกจากตันเม่ยที่เป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นปฐมภูมิแล้ว ยังพาผู้อาวุโสระดับจักรพรรดิเทพมาอีกหกคนด้วย หอคอยเทพมหาวาลที่มหาจักรพรรดิยุทธ์มหาวาลใช้ในอดีตก็ถูกนำมาเช่นกัน 

มหาจักรพรรดิยุทธ์มหาวาลไม่ได้เข้าสู่เส้นทางดาราแต่อย่างใด ทว่าได้ดับสลายสูญสิ้นอยู่บนดาราแห่งกาลเวลา ฉะนั้นเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ภูมิฐานของวังเซียนมหาวาลก็แย่กว่าเขาดึกดำบรรพ์มาก ๆ

“ท่านชายซิวหลัว คงไม่ได้มีเพียงวังเซียนมหาวาลของเราหรอกกระมังที่มาช่วยเหลือ? หากเป็นเช่นนั้นละก็ เกรงว่าคงจะต้านทานภัยพิบัติในครั้งนี้ไม่ไหวนะ”

หลังจากตันเม่ยมาถึงก็มองเห็นสง่าราศีของเขาดึกดำบรรพ์เช่นกัน ภูเขาเซียนดึกดำบรรพ์ที่เป็นอาวุธเทพระดับเจ็ด มหาจักรพรรดิยุทธ์สามคน จักรพรรดิเทพสิบกว่าคน เขาดึกดำบรรพ์ได้เปรียบด้านกำลังรบโดยสิ้นเชิงเลย 

“ฮ่าฮ่า สหายหลัว ข้าไม่ได้มาช้าไปหiอกกระมัง?”

เสียงหัวเราะที่ดังลั่นสะท้อนมา ถัดจากนั้นหมอกดำกลางนภาก็เริ่มกลิ้งไหล มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิก็พาเหล่ากองกำลังที่อยู่ใต้บังคับบัญชามาถึงแล้ว 

“มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิ วังเซียนมหาวาล นี่พวกเจ้ากำลัรนหาที่ตาย!”

ซือถูเซิ่งเจี๋ยนั่งอยู่บนราชรถ ตัวสำนึกก็สังเกตลาดเลาที่เกิดขึ้นฝั่งแดนปริศนาเผ่าจี้แล้ว และต้องมองเห็นอยู่แล้วว่ากำลังคนของวังเซียนมหาวาลและสำนักจักรพรรดิมรณะเข้าไปในแดนปริศนาเผ่าจี้

“เกรงว่าเผ่าพันธุ์ทั้งห้าแห่งบรรพมารคงไม่มาแล้วล่ะ ข้าก็เพิ่งได้รับข่าวคราวเช่นกัน เผ่าพันธุ์มังกรถูกดูดจิตนั่นที่เป็นสัตว์ที่ใช้ขี่ของหลัวซิวใช้อำนาจปราบปรามให้อยู่หมัดแล้ว เผ่าเสือขาว เผ่ากิเลน เผ่าเทพหงส์และเผ่ากัศปะล้วนถูกเจ้าลาร์นั่นบุกโจมตีถึงที่ ผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเทพล้วนถูกสังหาร”ซือถูเซิ่งเจี๋ยตอบกลับด้วยใบหน้าที่หม่นหมอง 

“ว่าอย่างไรนะ?!”เมื่อบรรพอาจารย์แสงดาวและบรรพอาจารย์จ้านเทียนได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของทั้งคู่ก็ต่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างควบคุมไม่ได้ 

“ตระกูลมู่สรรพสิทธิ์ก็มาแล้ว!”

จู่ ๆ บรรพอาจารย์ตระกูลหงก็เบิ่งมองออกไปไกล ๆ เห็นเพียงมีเรือรบหลายลำกำลังบินตรงมาทางดารายอดอัมพรอย่างรวดเร็ว 

“การปราบปรามเผ่าจี้ในครั้งนี้ก็มีการเชื้อเชิญตระกูลมู่เช่นกัน แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับไม่ให้คำตอบข้า ดูท่าผู้คนในตระกูลมู่น่าจะคิดได้แล้ว วางแผนที่จะมาช่วยเหลือเราอีกแรงหนึ่ง!”มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าซือถูเซิ่งเจี๋ย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ