มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2638

ถึงแม้เผ่าพันธุ์ทั้งห้าแห่งบรรพมารจะไม่สามารถมาเข้าร่วม หากมีการเข้าร่วมของตระกูลมู่ก็เป็นเรื่องดีเช่นกัน อย่างไรเสียในเผ่าพันธุ์ทั้งห้าแห่งบรรพมารก็ไม่มีมหาจักรพรรดิยุทธ์ และเมื่ออาศัยภูมิฐานของตระกูลมู่ ต้องมีมหาจักรพรรดิยุทธ์แน่นอน ต่อให้จะมีจักรพรรดิเทพสิบกว่าคนมาจากเผ่าพันธุ์ทั้งห้าแห่งบรรพมาร มันก็เทียบเคียงกับมหาจักรพรรดิยุทธ์หนึ่งคนไม่ได้ อย่างไรเสียมหาจักรพรรดิยุทธ์ถึงจะเป็นกำลังรบส่วนยอดต่างหาก เป็นกุญแจสำคัญในการตัดสินผลแพ้ชนะ 

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ซือถูเซิ่งเจี๋ยกำลังคิดว่าตระกูลมู่ปฏิบัติตามคำสั่งของเขาดึกดำบรรพ์เพื่อมาปราบปรามเผ่าจี้อยู่นั้น เรือรบจำนวนมากของตระกูลมู่กลับกลายเป็นลำแสงบินเข้าไปในดารายอดอัมพร 

ทีนี้สีหน้าของซือถูเซิ่งเจี๋ยและเหล่าบรรพอาจารย์ตระกูลหงจึงเขียวช้ำลงไปภายในพริบตา

ภายในแดนปริศนาเผ่าจี้ หลัวซิวและจี้หานยู่ รวมไปถึงเหล่าผู้อาวุโสในเผ่าจี้ต่างพากันเดินออกมาต้อนรับผู้คนจากตระกูลมู่สรรพสิทธิ์ 

“นายแห่งเผ่าจี้ ท่านชายหลัว ครั้งนี้ตระกูลมู่ของเราได้นำชีวิตของคนทั้งตระกูลมาเดิมพันแล้วนะขอรับ”นายแห่งตระกูลมู่พูดอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวด 

ครั้งนี้ทั้งตระกูลมู่ได้ออกโรงหมดแล้ว ปัจจุบันสถานบรรพบุรุษตระกูลมู่ในตอนแรกได้กลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว ของล้ำค่าทุกอย่างที่สามารถเอามาได้ก็เอามาหมดแล้ว ไม่ว่าครั้งนี้จะคว้าชัยได้หรือไม่ ตระกูลมู่ก็ไม่สามารถกลับไปได้อีกแล้ว 

“ข้าสามารถพนันได้เลยว่าครั้งนี้ตระกูลมู่ของพวกเจ้าเดิมพันถูกต้องแล้ว”หลัวซิวยิ้มพลางตอบกลับ 

และในเวลานี้เอง อ้างอิงจากแผนการที่หลัวซิวได้จัดวางไว้ในก่อนหน้านี้ ผู้แข็งแกร่งเผ่าปีศาจจำนวนมากในมหาอณาปีศาจก็พากันออกปฏิบัติการแล้ว……

หลัวซิวส่งลาร์ไปช่วยเหลือเผ่าปีศาจ ครั้นนั้นหลังจากจัดการภารกิจในโลกาบรรพมารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ลาร์ก็ปฏิบัติตามคำสั่งของหลัวซิว มุ่งหน้าตรงไปยังมหาอณาปีศาจโดยตรง 

ศึกสงครามครั้งยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ยังไม่ทันได้เริ่มต้นขึ้น เผ่าปีศาจก็เริ่มออกปฏิบัติการแล้ว ซึ่งเป้าหมายแรกก็คือตระกูลหงแห่งโลกาโกลาหล!

ตระกูลหงแทบจะส่งผู้แข็งแกร่งขั้นสุดยอดออกมาหมดแล้ว เหลือเพียงผู้อาวุโสจักรพรรดิเทพขั้นปฐมภูมิเพียงคนเดียวที่คอยปกปักรักษาอยู่ภายในตระกูล

แม้นในเผ่าปีศาจจะมีผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเทพไม่น้อย ทว่าการที่จะทลายมหาค่ายคุ้มกันของตระกูลหงนั้น กลับไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน 

“เดี๋ยวข้าจัดการเอง หลีกไปให้หมด!”

ลาร์ผันร่างเป็นร่างดั้งเดิม ก่อนจะทุบหมัดลงไป มหาค่ายคุ้มกันของตระกูลหงจึงพังทลายทันที 

ผ่านไปไม่นานนัก ลาร์และผู้แข็งแกร่งเผ่าปีศาจจำนวนมากก็ทำการกวาดล้างตระกูลหงจนกลายเป็นพื้นที่เรียบ ก่อนจะมุ่งหน้าตรงไปยังสำนักจักรพรรดิแสงดาว 

“ไม่ได้การละ!”

ณ ห้วงดารานอกดารายอดอัมพร สีหน้าของบรรพอาจารย์ตระกูลหงเปลี่ยนไปกะทันหัน “มีโจรจากเผ่าปีศาจทลายมหาค่ายคุ้มกันของเราแตกแล้ว!”

“เผ่าปีศาจ? เผ่าปีศาจมันกล้าหาญเช่นนี้เลยหรือ?”ซือถูเซิ่งเจี๋ยขมวดคิ้วลง ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เผ่าปีศาจถูกตระกูลสำนักจักรพรรดิทั้งหลายกดขี่จนถ่อมตัวมาโดยตลอด นี่จึงทำให้เขารู้สึกว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำ

“แย่แล้ว!”สำนักจักรพรรดิแสงดาวและสำนักจักรพรรดิจ้านเทียนก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ภายในพริบตาเช่นกัน ในเมื่อเผ่าปีศาจไปบุกโจมตีตระกูลหง เช่นนั้นไม่แน่ก็อาจจะไปโจมตีสำนักเขาของพวกเขาด้วย อย่างไรเสียปัจจุบันไม่มีผู้แข็งแกร่งชั้นยอดคอยคุ้มกันรักษาอยู่ในฐานที่มั่นของพวกเขาเลย 

“ทุกท่านไม่ต้องเป็นห่วง ต่อให้พวกเจ้าจักกลับไปบัดนี้ก็สายไปแล้ว ล้มล้างเผ่าจี้ก่อนต่างหากถึงจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เผ่าจี้ต้องสมคบกับเผ่าปีศาจแน่นอน อยากใช้วิธีการนี้มาล่อเสือออกจากถ้ำ ทำให้การร่วมมือของเราแตกแยก”

ซือถูเซิ่งเจี๋ยไม่มีทางปล่อยให้คนในสำนักจักรพรรดิแสงดาว สำนักจักรพรรดิจ้านเทียนและตระกูลหงจากไปอยู่แล้ว มิเช่นนั้นหากวันนี้ไม่สามารถล้มล้างเผ่าจี้ได้ อำนาจบารมีก็เขาดึกดำบรรพ์ก็จะสูญสิ้นหมดเลยมิใช่หรือ? 

บรรพอาจารย์ทั้งสามคนก็เข้าใจหลักการนี้ดีเช่นกัน วินาทีนี้ต่อให้กลับไปก็ไม่ทันแน่นอน พวกเขาวางแผนมาอย่างดิบดี แค่นึกไม่ถึงเลยว่าเผ่าจี้จะไปสมคบกับเผ่าปีศาจ 

“เผ่าจี้ช่างกล้าหาญยิ่งนัก ถึงขั้นสมคบกับเผ่าปีศาจ เพิ่มโทษอีกหนึ่งขั้น การกวาดล้างพวกเจ้าในวันนี้ ก็ถือเป็นการผดุงธรรมแทนสวรรค์เช่นกัน!”

ซือถูเซิ่งเจี๋ยตะโกนพูดอย่างเสียงดัง เสียงของเขาดังก้องอยู่ในห้วงดารา ได้ยินไปทั่วทุกมุมดารายอดอัมพร 

วินาทีนี้ สายตาที่นับไม่ถ้วนล้วนจ้องมองมาทางดารายอดอัมพร ศึกสงครามครั้งยิ่งใหญ่จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!