มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2651

หลัวซิวกับมหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิงนั้นไม่เหมือนกัน มหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิงคนนี้ไม่มีความกังวลใด ๆ แต่เขาต้องคำนึงถึงคนที่อยู่ข้างกาย

หากเขากับมหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิงร่วมมือกันกำจัดเขาดึกดำบรรพ์ เช่นนั้นทันทีที่เขาดึกดำบรรพ์ในโลกร้างส่งผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารขั้นเจ็ดมา แล้วเขาจะเอาอะไรไปรับมือ?

ต่อให้เขาสามารถทิ้งทุกอย่างไปได้ แล้วเผ่าจี้กับตระกูลเทพสงครามล่ะจะทำเช่นไร?

“สหายหลัว ข้ารู้ว่าเจ้ากลัวอะไร เจ้าคงกลัวว่าเขาดึกดำบรรพ์กับตำหนักเสินหยูจะมีผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารขั้นเจ็ดล่ะสิ?”

มหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิงพลันยิ้มอ่อน ๆ กล่าว: “ไม่ขอปิดบัง เขาดึกดำบรรพ์มีผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารขั้นเจ็ดอยู่จริง แต่ผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารขั้นเจ็ดท่านนั้นใช้เวลาส่วนมากอยู่กับการปิดตัวฝึกตน แถมยังต้องคอยอยู่ประจำการที่โลกร้าง ไม่มีทางมามหาโลกาพันสาม"

“ส่วนกองกำลังอย่างตำหนักเสินหยู อยู่ในโลกร้างไม่นับอะไรด้วยซ้ำ ไม่มีเทพมารขั้นเจ็ดอยู่เลยสักคน ไม่เช่นนั้นเจ้ากำจัดตำหนักเสินหยูไป แล้วทำไมตำหนักเสินหยูถึงได้ส่งเพียงมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสูงมาสองคนเท่านั้น?”

มหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิงวิเคราะห์ได้อย่างสมเหตุสมผล ดูเหมือนว่าเขาจะมีเส้นทางบางอย่าง ที่สามารถรู้ความลับของเขาดึกดำบรรพ์เกี่ยวกับโลกร้างได้

หลัวซิวรู้ว่าไม่จำเป็นที่มหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิงต้องโกหกเรื่องนี้กับเขา สี่สิบกว่าปีมานี้ทางเขาดึกดำบรรพ์ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย หากมีผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารขั้นเจ็ดที่สามารถลงมือได้ เกรงว่าคงบุกโจมตีมานานแล้ว จะรอถึงตอนนี้ได้อย่างไร?

ตอนนั้นหลู่ซิวเหวินบาดเจ็บหนักและหลบหนีไป เขาดึกดำบรรพ์กับตำหนักเสินหยูก็รู้แล้วว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสูงทำอะไรเผ่าจี้ไม่ได้ ดังนั้นก็เลยอดกลั้นมาโดยตลอด?

อีกอย่างโยวหมิงยังได้บอกข่าวสำคัญอย่างหนึ่งออกมา นั่นก็คือเขาดึกดำบรรพ์มีเทพมารขั้นเจ็ดอยู่คนเดียวเท่านั้น แถมคนผู้นี้ยังปิดตัวฝึกตนอยู่ตลอดปี บางทีคนของเขาดึกดำบรรพ์อาจรอให้ผู้แข็งแกร่งเทพมารขั้นเจ็ดคนนั้นออกจากการปิดขังฝึกตนก็เป็นได้!

เพียงชั่วพริบตา จากคำพูดเพียงประโยคเดียวของมหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิง ก็มีความคิดมากมายปรากฏขึ้นมาในสมองของหลัวซิว

ถ้าหากเขาดึกดำบรรพ์รอให้เทพมารขั้นเจ็ดออกจากการฝึกตนอยู่ละก็ เช่นนั้นเขาก็จะรอแบบนี้ต่อไปไม่ได้จริง ๆ ต้องเป็นฝ่ายลงมือก่อน ทำลายเส้นทางดารา เช่นนี้แล้ว อีกฝ่ายต้องการฉีกพื้นโลกปริภูมิข้ามมาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

“ได้! ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าก็จะไปเขาดึกดำบรรพ์พร้อมกับสหายโยวหมิง!”

......

สำนักเขาของเขาดึกดำบรรพ์ตั้งอยู่ที่ใดกันแน่นนั้น สำหรับจอมยุทธ์หลายคนล้วนเป็นปริศนา แต่ความจริงนั้นเขาดึกดำบรรพ์ตั้งอยู่ในส่วนลึกของห้วงดาราที่รกร้างแห่งหนึ่งในมหาโลกะดึกดำบรรพ์

ทรัพยากรของที่นี่ขาดแคลนเหือดแห้ง แม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารก็น้อยมากที่จะมาที่นี่ เขาดึกดำบรรพ์ตั้งอยู่ที่นี่ แถมยังมีวิชาห้ามค่ายกลปิดบังร่องรอยเอาไว้ คนธรรมดาย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ว่าเขาดึกดำบรรพ์ตั้งอยู่ที่ไหนกันแน่

วิชาห้ามค่ายกล หลัวซิวสามารถทำลายได้อย่างง่ายดาย วิชาห้ามค่ายกลอยู่ที่รอบ ๆ เขาดึกดำบรรพ์ ก็เป็นเพียงแค่ค่ายเทพระดับห้าเท่านั้น แม้ว่าเขาดึกดำบรรพ์จะเคยมีผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารขั้นเจ็ด แต่กลับไม่เคยมีนักค่ายเทพที่เหนือกว่าระดับห้าเลยแม้แต่คนเดียว

หลังจากที่วิชาห้ามค่ายกลถูกหลัวซิวทำลาย ดินแดนห้วงดาราอันกว้างใหญ่ ก็ได้ปรากฏขึ้นมาในสายตาของหลัวซิว

ดินแดนห้วงดาราแห่งนี้มีขอบเขตอันกว้างขวาง เขาสำนักของเขาดึกดำบรรพ์ สร้างอยู่บนดินแดนดาราแห่งนี้นั่นเอง

“ใครกันถึงกล้าบุกเข้ามาในดินแดนต้องห้ามของเขาดึกดำบรรพ์?”

ตอนที่หลัวซิวกับมหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิงเพิ่งได้เหยียบลงไปบนดินแดนดาราแห่งนี้ ศิษย์ของเขาดึกดำบรรพ์สองคนก็ได้กลายร่างเป็นสายรุ้งเหาะเข้ามา ปากก็ตวาดเสียงดัง

มหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิงไม่อยากพูดมากเลยสักนิด ยกมือขึ้นโบก หมอกดำกลุ่มหนึ่งก็ได้กลิ้งลอยเข้ามา ศิษย์ของเขาดึกดำบรรพ์สองคนนั้นกลายเป็นโครงกระดูกแห้งสองโครงภายในพริบตา พลังชีวีดั้งเดิมถูกกลืนกินไปจนหมด

“หึ ก็แค่มดในแดนมกุฎเทพเท่านั้นยั้งกล้ามาโหวกเหวกโวยวายอยู่ต่อหน้าข้าอีก?” มหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิงกล่าวเย้ยหยัน วันนี้เขากับหลัวซิวมาเพื่อหาเรื่องเขาดึกดำบรรพ์ ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้พบเข้ากับพวกเขาในตอนนี้ รับรองว่าจะต้องตายไม่มีทางรอดอย่างแน่นอน

มหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิงเพิ่งสังหารศิษย์ทั่วไปของเขาดึกดำบรรพ์ไป ในส่วนลึกของดินแดนห้วงดาราแห่งนี้ แสงอันสวยงามได้กระจายออกมา ครอบคลุมไปทั่วดินแดนดาราภายในพริบตา

นี่คือค่ายป้องกันของเขาดึกดำบรรพ์ แม้จะไม่ใช่ระดับหก แต่ก็ได้บรรลุถึงระดับห้าขั้นสูงสุด

ค่ายกลในระดับนี้ อย่างว่าแต่หลัวซิวเลย แม้แต่มหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิงก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา โลงศพดำทมิฬระเบิดออกไปทันที ค่ายป้องกันสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างรุนแรง แตกระแหงเป็นรอยแล้วรอยเล่า

ทันใดนั้น ระฆังเตือนภัยภายในเขาดึกดำบรรพ์ก็ดังขึ้น เพียงชั่วพริบตา ลำแสงสายรุ้งนับไม่ถ้วนก็ได้พุ่งเจ้ามาทางด้านนี้

หลัวซิววาดวิกลขึ้นมา ยันต์ค่ายสายแล้วสายเล่าถูกเขาประทับลงไปในอากาศ ต่อจากนั้นเขาก็ได้ซัดธงค่ายออกไปจำนวนหนึ่ง ใช้วิชาค่ายกลเป็นตัวช่วย ใช้ตำหนักวัฏสงสารเป็นใจกลางค่าย เสียงครืนดังขึ้น เขาได้ซัดตำหนักวัฏสงสารออกไป

ทันใดนั้นตำหนักสีทองแดงโบราณก็กระแทกลงไปบนค่ายป้องกันของเขาดึกดำบรรพ์ จุดที่อ่อนแอที่สุดของค่ายกลใหญ่ระดับห้าขั้นสูงสุดนี่ถูกโจมตี และได้แตกสลายไปทันที

จอมยุทธ์จำนวนมากของเขาดึกดำบรรพ์พากันทำอะไรไม่ถูกขึ้น ค่ายป้องกันถูกทำลายได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ แท้จริงแล้วศัตรูผู้มาบุกรุกแข็งแกร่งถึงขั้นใดกันแน่?

“หลัวซิว โยวหมิง เป็นพวกเจ้า!?”

ผู้อาวุโสของเขาดึกดำบรรพ์คนหนึ่งทั้งตกใจทั้งโมโห ประมุขเขาซือถูเซิ่งเจี๋ยเพิ่งจะสิ้นชีพไปได้ไม่นาน ทั้งสองคนก็บุกมาที่นี่เสียแล้ว

“ฮ่า ๆ วันนี้ข้ามาเพื่อทำลายเขาดึกดำบรรพ์ของพวกเจ้า!”

มหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิงบุกเข้าไปในทันที แม้ซือถูเซิ่งเจี๋ยจะตายไปแล้ว แต่เขาดึกดำบรรพ์ก็ยังคงมีผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์สามคนประจำการอยู่

ภายในสามคนนี้ มีสองคนเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ช่วงกลาง ผลการฝึกตนด้อยกว่าซือถูเซิ่งเจี๋ยในตอนนั้น ยังมีอีกคนเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ช่วงปลาย เป็นผู้อาวุโสไท่ซ่างเพียงหนึ่งเดียว

ทันทีที่มหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิงลงมือ ก็ได้สำแดงรัศมีพลังของผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสูงออกมา สีหน้ามหาจักรพรรดิยุทธ์ทั้งสามเปลี่ยนไปทันที

“เชิญรากฐานอาจารย์ปู่!” ผู้อาวุโสไท่ซ่างมหาจักรพรรดิยุทธ์ช่วงปลายคนนั้นตะโกนเสียงดังขึ้นมา

ครืนนน......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ