มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2654

“จะรอต่อไปไม่ได้แล้ว”

กลับถึงแดนปริศนาเผ่าจี้อีกครั้ง หลัวซิวรู้ดีว่าผลการฝึกตนของตนเองหากต้องการบรรลุแดนจักรพรรดิเทพอยู่ในมหาโลกาพันสาม มันเป็นเรื่องที่ยากมากจริง ๆ

รากฐานของเผ่าจี้กับตระกูลเทพสงครามยังไม่ทันได้เติบโตขึ้น ตอนนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะเข้าไปในโลกมหาศักดิ์แปดด้าน

ทว่าหลัวซิวทนรอต่อไปไม่ได้แล้ว ความรู้สึกที่ผลการฝึกตนเพิ่มขึ้นไปไม่ได้ ทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัยจริง ๆ

ส่วนลึกของเทือกเขาลั่วหยุน หลัวซิวได้มาที่นี่อีกครั้ง ก่อนที่เขาจะจากไปนั้น เขาต้องทิ้งทางหนีทีไล่เอาไว้ให้เผ่าจี้กับตระกูลเทพสงคราม เพื่อป้องกันผู้แข็งแกร่งเทพมารขั้นเจ็ดคนนั้นของเขาดึกดำบรรพ์มาหาเรื่องในอนาคต

ดังนั้นก่อนที่เขาจะจากไป เข้าต้องจัดการปัญหาเรื่องมหาค่ายกักชีวีเทวโทษเวหากาลให้ลาร์ก่อน

ด้วยผลการฝึกตนของหลัวซิวในตอนนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการในครั้งเดียวด้วยวิชาค่ายกลทั่วไป แต่ก็ยังมีวิธีแปลก ๆ ที่มีผลอันน่าทึ่งอยู่

เขาได้ทิ้งศิลาผนึกปีศาจเอาไว้ที่หุบเขาเล็ก ๆ แห่งนั้นที่อยู่ในส่วนลึกของเทือกเขาลั่วหยุน อาศัยพลังแห่งชิงเทียนที่แฝงอยู่ในศิลาผนึกปีศาจ มาลบล้างพลังเซียนลงทัณฑ์สิงเทียนที่อยู่ในมหาค่ายกักชีวีเทวโทษเวหากาล

ข้อเสียเพียงอย่างเดียว ก็คือต้องทิ้งศิลาผนึกปีศาจเอาไว้ที่นี่ไม่สามารถนำไปด้วยได้ อย่างน้อยก็รับประกันได้ว่าในเวลานับร้อยปีนี้ ลาร์จะสามารถหลุดพ้นจากการพันธนาการของมหาค่ายกักชีวีเทวโทษเวหากาลได้โดยสิ้นเชิง

“ฮ่า ๆ ๆ ในที่สุดข้าก็เข้าใจ!”

ลาร์ส่งเสียงด้วยความตื่นเต้น เหนือศีรษะของเขา อัสนีนับไม่ถ้วนขวักไขว่รายล้อม บริเวณตรงกลางระหว่างคิ้วของเขา ตราอัสนีที่เดิมทีหม่นหมองได้เปล่งประกายขึ้นมา เป็นเหมือนดั่งดวงดาว

“ลาร์ เจ้าอยู่คุ้มครองแดนปริศนาเผ่าจี้ที่นี่ รอข้ากลับมา ข้าจะช่วยจัดการกับมหาค่ายกักชีวีเทวโทษเวหากาลนั่นให้ได้ภายในครั้งเดียว”

แม้ว่าจะสูญเสียไพ่ใบสำคัญอย่างศิลาผนึกปีศาจไป แต่หลัวซิวกลับไม่เสียใจภายหลังเลยสักนิด อย่างน้อยนับร้อยปีนี้ลาร์ก็จะใช้พลังทั้งหมดของเขาได้โดยที่ไม่ต้องหวั่นเกรงใด ๆ สามารถรับประความปลอดภัยของแดนปริศนาเผ่าจี้ได้

“นายท่านต้องไปหรือ?”

ลาร์หดศีรษะ เขาย่อมรู้ว่านายท่านต้องไปโลกมหาศักดิ์แล้ว เขาเองก็อยากตามไปด้วย

หลัวซิวนั่งอยู่บนไหล่ของลาร์ กล่าวพลางยิ้มอ่อน ๆ : “อย่าใจร้อน เจ้ารอมานานขนาดนี้แล้ว จะรออีกสักสองสามร้อยปีก็ไม่เป็นไร”

แม้เผ่าจี้จะเสื่อมโทรม แต่ก็มีรากฐานบางอย่างที่ยังเก็บรักษาเอาไว้ได้ ตอนเผ่าจี้อพยพจากโลกมหาศักดิ์มาที่มหาโลกาพันสาม เพื่อหวังว่าสักวันจะได้กลับไปโลกมหาศักดิ์แปดด้านอีกครั้ง ในเผ่าจี้ยังเก็บรักษายันต์ทะลุฟ้าเอาไว้จำนวนหนึ่ง

ยันต์ทะลุฟ้าเหล่านี้สามารถฉีกพื้นโลกปริภูมิได้ ให้คนสามารถไปมาระหว่างโลกมหาศักดิ์แปดด้านกับมหาโลกาพันสาม

ถึงแม้ว่ายันต์ทะลุฟ้าขั้นเจ็ดธรรมดาจะสามารถฉีกพื้นโลกปริภูมิได้ แต่ก็เพียงสามารถให้คนคนหนึ่งเดินไปมาระหว่างปริภูมิได้เท่านั้น หากต้องการพาคนอื่นข้ามพื้นโลกปริภูมิไปด้วย ก็จำเป็นต้องใช้ยันต์ทะลุฟ้าในระดับที่สูงกว่า

ในเผ่าจี้นั้น ได้เก็บรักษายันต์ทะลุฟ้าขั้นสูงอันล้ำค่าเอาไว้จำนวนหนึ่ง ในจำนวนนั้นมียันต์ทะลุฟ้าระดับแปด หรือแม้กระทั่งยันต์ทะลุฟ้าระดับเก้า

ยันต์ทะลุฟ้าระดับเก้าที่ล้ำค่าที่สุดนั้น ขนาดที่ว่าสามารถฉีกพื้นโลกปริภูมิให้เป็นทางปริภูมิที่มั่นคงและอยู่ได้เป็นเวลานาน สามารถให้ทุกคนในเผ่าจี้กับตระกูลเทพสงครามข้ามไปมาระหว่างสองโลก

หลัวซิวไปโลกมหาศักดิ์ในครั้งนี้ เป็นธรรมดาที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยันต์ทะลุฟ้าระดับเก้า ยันต์ทะลุฟ้าระดับเจ็ดของเผ่าจี้มีจำนวนค่อนข้างมาก ส่วนหลัวซิวก็เตรียมที่จะพาเหยียนเยว่เอ๋อร์กับเหยียนซีโรว่ไปด้วยเท่านั้น

แม้ว่าผลการฝึกตนของพวกนางสองคนจะยังไม่ถึงแดนจักรพรรดิเทพ แต่หลัวซิวเคยได้รับปากพวกนาง ต่อไปไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ก็ไม่มีทางที่จะทิ้งพวกนางเอาไว้ไม่สนใจพวกนางอีก

ในตอนที่หลัวซิวเตรียมจะจากไปนั่นเอง มหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิงก็ได้มาเหมือนกัน หลัวซิวได้มอบยันต์ทะลุฟ้าให้เขาแผ่นหนึ่ง

เขาทราบดีว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิงก็อยากไปโลกมหาศักดิ์มากเหมือนกัน เนื่องจากบนร่างของมหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิงมีความลับเกี่ยวกับชางเทียนหมิงอยู่ พูดตามจริงหลัวซิวไม่ค่อยวางใจสักเท่าไรนัก

หากมหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิงไปที่โลกมหาศักดิ์ ก็ย่อมจะไม่เป็นอันตรายใด ๆ ต่อคนข้างกายของเขาอย่างแน่นอน

มหาจักรพรรดิยุทธ์โยวหมิงไม่ได้รู้ถึงความคิดพวกนี้ของหลัวซิว ตอนเขาได้รับยันต์ทะลุฟ้าระดับเจ็ด และรับรู้ว่าอาศัยยันต์แผ่นนี้สามารถฉีกพื้นโลกปริภูมิเพื่อไปยังโลกมหาศักดิ์ได้ เข้าก็ตื่นเต้นดีใจมากเป็นพิเศษ

แม้ว่าเสี่ยวจื่อ ยู่เอ๋อร์และคนอื่น ๆ ต่างก็อยากตามไปผจญภัยที่โลกมหาศักดิ์ด้วยกันกับหลัวซิวมาก แต่หลัวซิวก็ไม่ได้รับปากว่าจะพาพวกเขาไปด้วย เพราะโลกมหาศักดิ์นั้นไม่ใช่สิ่งที่มหาโลกาพันสามจะสามารถทัดเทียมได้ ทั้งสองแห่งเป็นดินแดนที่อยู่ในคนละระดับชั้นกัน

แม้ว่าเขาจะพาเยว่เอ๋อร์กับซีโรว่ไปด้วย ก็นับว่าเขามีความเสี่ยงอยู่ด้วยเหมือนกัน เพราะต่อให้เป็นความสามารถของเขา อยู่ที่โลกมหาศักดิ์ก็นับว่าเป็นจอมยุทธ์ขั้นต่ำสุดเท่านั้น หากพาคนไปมากเกินไป เขาไม่อาจรับประกันได้ว่าคนพวกนี้จะสามารถมีชีวิตกลับมาได้หรือไม่

......

ยันต์ทะลุฟ้าระดับเจ็ดถูกหลัวซิวซัดออกมา กลายเป็นรุ้งเทวสายหนึ่งพุ่งสู่ท้องฟ้า ฉีกท้องฟ้าให้ออกเปิดออก

หลัวซิวเดินเข้าไปโดยไม่หันหลังกลับ ส่วนเหยียนเยว่เอ๋อร์กับเหยียนซีโรว่นั้นได้ติดตามอยู่ข้างเขาด้วยท่าทางประหม่าและตื่นเต้นเล็กน้อย

เข้าสู่ปริภูมิที่ถูกฉีกออก พลังความกดดันมหาศาลโหมกระหน่ำเข้ามาจากทั่วทุกสารทิศ ทำให้ชั่วขณะนั้นพวกหลัวซิวทั้งสามคนมีความรู้สึกหายใจไม่ออกขึ้นมา

ยันต์ทะลุฟ้า เพียงแค่ได้เปิดประตูเดินทางไปมาระหว่างสองโลกเท่านั้น ปริภูมิอลหม่านของทั้งสองโลก ยังต้องอาศัยความสามารถของนักยุทธ์เองเพื่อเดินผ่านมันไป”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ