มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2655

ในโลกมหาศักดิ์แปดด้าน ยกเว้นสุดยอดผู้แข็งแกร่งที่ได้ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของโลกยุทธ์แล้ว นักยุทธ์ทุกคนที่อยู่ในดาราจักรวาล ความจริงแล้วต่างก็ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง

แม้ว่าเจ้าอ้วนคนนี้จะไม่เห็นหลัวซิวอยู่ในสายตา แต่ผลการฝึกตนของเขาก็อยู่แค่ในแดนเทพมารระดับห้าเท่านั้นเอง ผลการฝึกตนเช่นนี้มีเรื่องกับตระกูลเล็ก ๆ ไม่นับอะไร หากไปล่วงเกินกองกำลังที่ค่อนข้างใหญ่เข้า แบบนั้นเท่ากับเป็นการรนหาที่ตาย

ไม่ว่าในใจของเจ้าอ้วนคนนี้จะคิดอย่างไรก็ตาม แม้หลัวซิวเพิ่งจะกลับมาโลกมหาศักดิ์ แต่ก็จะไม่ปล่อยให้เทพมารระดับห้าเล็ก ๆ มาอวดดีอยู่ตรงหน้าของเขา

“ไสหัวไป!”

หลัวซิวเองก็ไม่ได้ลงมือโดยตรง เขาเพียงแค่ตวาดอย่างเย็นชา รัศมีพลังอันแรงกล้าแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขา

เดิมทีผลการฝึกตนของเขาเมื่อดูด้วยสายตาแค่อยู่ในเทพมารระดับสี่ขั้นสูง แต่ชั่ววินาทีในเมื่อสักครู่ รัศมีพลังที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขา มันทรงพลังยิ่งกว่ายอดฝีมือเทพมาระดับห้าขั้นสูงมากนัก

เจ้าอ้วนนั้นเป็นแค่เทพมารระดับห้าช่วงกลาง มือที่ยื่นออกไปเพื่อตบไหล่หลัวซิวชะงักลงทันที ขณะเดียวกันนั้นก็ถูกรัศมีพลังของหลัวซิวสยบ ภายใต้ความตกตะลึง ก็ได้ถอยหลังติดต่อกันไปหลายก้าว เหงื่อผุดขึ้นมาบนหน้าผาก

“เจ้าหนุ่ม เจ้า......” ถูกท่าทางของเทพมารระดับสี่ทำให้ตกใจ มันทำให้เจ้าอ้วนรู้สึกขายหน้ายิ่งนัก ใบหน้าร้อนระอุ

“รำคาญ!”

ท่าทางหมดความอดทนปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของหลัวซิว ร่างกายขยับ เข้าก็ได้มาปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าเจ้าอ้วน จากนั้นก็ต่อยมันลอยออกไป

หมัดนี้ดูเหมือนง่าย ทว่ากลับแฝงไปด้วยกฎปริภูมิกับกฎความเร็ว เจ้าอ้วนคนนั้นเบิกตาโพลง ยังไม่ท่านแม้แต่จะกล่าวขอร้องอ้อนวอน ก็ได้ถูกหมัดของหลัวซิวต่อยระเบิดศีรษะ

ปัง!

หมอกโลหิตระเบิดขึ้น จากนั้นศพอวบอ้วนไร้ซึ่งศีรษะ ก็หล่นลงสู่พื้น ฝุ่นฟุ้งกระจาย

หลัวซิวยื่นมือออกไปจับ แหวนเก็บของของอีกฝ่ายก็ตกลงสู่มือของเขา ใช้ตัวสำนึกสำรวจดู พบว่าทรัพย์สินของเจ้าอ้วนคนนี้มั่งคั่งกว่าผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพในมหาโลกาพันสามมากนัก ทรัพยากรชั้นต่ำอย่างแก้วเทวไม่มีอยู่เลยแม้แต่น้อย ล้วนแต่เป็นโอสถแก่นแท้กองรวมกันอยู่ เหมือนว่าจะมีอยู่นับล้าน

สองคนที่มาด้วยกันกับเจ้าอ้วนนั่น ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ในตอนที่หลัวซิวมองไปยังพวกเขา สองคนนี้ต่างก็ถอยหลังไปหลายก้าวอย่างไม่รู้ตัว

“เจ้าคิดจะทำอะไร? เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังยั่วยุดาราธารานิลของพวกเราอยู่?” ทั้งสองคนนี้กล่าวด้วยท่าทางระแวดระวัง

“ดาราธารานิล?” หลัวซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย อย่างไรเสียเวลาของยุคแห่งความโกลาหลก็ได้ผ่านไปแล้ว อีกทั้งโลกมหาศักดิ์แปดด้าน ยังกว้างใหญ่ไพศาล เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรู้ดีแม้กระทั่งสถานที่เล็ก ๆ เช่นนั้น

ขณะเดียวกันนั้นหลัวซิวก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่โลกไหนของโลกมหาศักดิ์แปดด้าน เป็นโลกร้าง หรือว่าจะเป้นสถานที่อื่น ๆ?

“แค่เทพมารระดับห้ายังกล้ามาคิดไขว่คว้าเพื่อนผู้ยุทธ์ของข้า ดังนั้นข้าเลยได้ฆ่ามัน ไม่ได้คิดจะยั่วยุพวกเจ้าดาราธารานิล” หลัวซิวกล่าวอย่างเรียบ ๆ

เขาเข้าใจกฎการดำรงอยู่ของโลกมหาศักดิ์เป็นอย่างดี กฎของการมีพลังสูงสุด มีรากฐานมั่นคงกว่าในมหาโลกาพันสามอีกมาก เจ้ายิ่งแข็งแกร่ง ยิ่งโหดเหี้ยม คนอื่นก็จะยิ่งกลัวเจ้า โดยเฉพาะตอนที่ผจญภัยอยู่ข้างนอก คนทั่วไปต่างไม่ยินดีไปมีเรื่องกับผู้แข็งแกร่งที่โหดเหี้ยมอำมหิต

ที่หลัวซิวแสดงแดงอยู่ในตอนนี้ก็คือตัวละครอย่างที่ว่า เขาสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของสายตาเจ้าอ้วนคนนั้นตั้งแต่แรกแล้ว รู้ว่าคนผู้นี้มีความคิดต่ำช้ากับเหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่ ของที่ไม่รู้จักเป็นตายเช่นนี้ หากเขาไม่สังหารเพื่อประกาศศักดา คงต้องรู้สึกผิดต่อการเข้ามารนหาที่เองของเจ้าหมอนี่แน่

สัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายได้เก็บเจตนาสังหารลง ทั้งสองคนที่อยู่ตรงข้ามก็วางใจลงเล็กน้อย สำหรับเรื่องที่เจ้าอ้วนถูกสังหาร พวกเขาไม่มีทางพูดมากอะไรแน่ อีกฝ่ายสามารถสังหารเจ้าอ้วนได้อย่างง่ายดาย ก็ย่อมสังหารพวกเขาได้แน่

“เทพมารระดับสี่ขั้นสูงข้ามขั้นสังหารเทพมาระดับห้าช่วงกลาง อย่างน้อยก็เป็นยอดฝีมือระดับราชาเทพขั้นสี่!”

โดยทั่วไป เทพมารในระดับเดียวกัน ราชาเทพสามารถข้ามขั้นได้หนึ่งถึงสองแดนเล็ก มกุฎเทพสามารถข้ามขั้นได้สามแดนเล็ก จักรพรรดิเทพสามารถข้ามขั้นได้หนึ่งแดนใหญ่ หากเหนือกว่าหนึ่งแดนใหญ่ ต้องเป็นระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์

หนึ่งแดนเล็กที่พูดถึงในที่นี้ ไม่ใช่การแบ่งเก้าขั้นอย่างในมหาโลกาพันสาม แต่เป็นขั้นปฐมภูมิ ช่วงกลาง ช่วงปลาย และขั้นสูงสุดรวมกัน ก็คือหนึ่งแดนใหญ่

ตัวอย่างเช่นตอนนี้หลัวซิวอยู่ในแดนเทพมารระดับสี่ขั้นสูงสุด สามารถข้ามขั้นสังหารเทพมารระดับห้าช่วงกลางได้เป็นการข้ามสองแดนเล็ก ก็คือราชาเทพขั้นสี่ โดยทั่วไปศิษย์ที่มาจากกองกำลังใหญ่ ส่วนมากล้วนทำเช่นนี้ได้ สำหรับเรื่องที่ว่าในแดนเดียวกันสามารถได้รับขนานนามว่าจักรพรรดิเทพ หรือแม้กระทั่งว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์นั้น ค่อนข้างเห็นได้ยาก ต่างก็เป็นอัจฉริยะที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในโลกมหาศักดิ์

“ไม่ทราบคุณชายชื่ออะไรหรือ?” บุรุษผิวดำเล็กน้อยที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามประสานมือกล่าว

ตอนที่เขาเดาว่าอย่างน้อยอีกฝ่ายต้องเป็นยอดฝีมือราชาเทพขั้นสี่ เขาไม่กล้าทำตัวเป็นใหญ่เหมือนเจ้าอ้วน คำพูดคำจาก็ค่อนข้างมีมารยาท

“ข้าชื่อหลัวซิว สองท่านนี้คือเพื่อนผู้ยุทธ์ของข้า” หลัวซิวกล่าวอย่างเรียบ ๆ เขารู้ว่าอีกฝ่ายต้องการทราบที่มาของเขา

สำหรับเรื่องที่ว่าคนผู้หนึ่งมีเพื่อนผู้ยุทธ์สองคน นักยุทธ์ทั้งสองคนของดาราธารานิลไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด อย่าว่าแต่เพื่อนผู้ยุทธ์สองคนเลย ในโลกของการฝึกยุทธ์ ผู้แข็งแกร่งหลายคนต่างก็วังหลังขนาดใหญ่ คนผู้เดียวครอบครองสตรีนับร้อยนับพันก็มีอยู่มาก

เพราะอย่างไรเสียชีวิตของนักยุทธ์นั้นยาวนาน ในช่วงเวลาอันยาวนานนี้ บางคนเดิมทีอยู่ลำพังเพียงคนเดียว เมื่อตอนอายุขัยของเขามาถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต เขาอาจได้สร้างตระกูลสืบสืบทอดสายเลือดขึ้นมาแล้วก็เป็นได้

เทพมารระดับห้าคนหนึ่ง สามารถมีอายุยืนยาวหลายร้อยล้านปี หากเป็นเทพมารระดับเก้า อาจสามารถมีชีวิตอยู่ได้นับหมื่นล้านปี

“ที่แท้ก็เป็นคุณชายหลัวซิว นี่คือป้ายประจำตัว มีป้ายประจำตัวนี้อยู่ในมือ คุณชายก็สามารถไปจากสถานชี้นำเข้าสู่ดาราธารานิลได้แล้ว”

สองคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้พูดมากอะไร เอาป้ายประจำตัวชิ้นหนึ่งออกมาแล้วยื่นให้หลัวซิว จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป

หลัวซิวไม่เห็นด้วย อยู่ในโลกมหาศักดิ์เทพมารระดับห้าคนหนึ่งไม่มีความสำคัญอะไรให้ต้องกล่าวถึง เขาเชื่อว่าอาศัยความสามารถที่เขาแสดงออกมา น่าจะไม่มีใครยินดีมาหาเรื่องตัวเองเพื่อเทพมารระดับห้าคนหนึ่ง

“ท่านพี่ พวกเราสร้างปัญหาให้ท่านหรือเปล่า?” เมื่อเห็นทั้งสองคนนั้นเดินจากไป ในที่สุดเหยียนซีโรว่ก็อดไม่ได้ที่จะจับแขนเสื้อของหลัวซิว และกล่าวด้วยความเป็นกังวล

อย่างไรเสียที่นี่ก็เป็นโลกมหาศักดิ์ หลัวซิวลงมือสังหารคนอยู่ที่นี่ ถ้าเกิดกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังของเขามาเอาคืนจะทำเช่นไร?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ