มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2692

ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น หลัวซิวก็ยื่นมือออกไปโบกทีหนึ่ง เตากลั่นยาที่ใหญ่โตปานภูเขาสูงใหญ่ลูกหนึ่งจึงหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหลอมรวมเข้าไปในร่างกายเขา

ครั้งนี้ได้สังหารนักทาสอสูรไปแล้วคนหนึ่ง แค่จำนวนโอสถแก่นแท้ที่กลั่นแปรได้จากอสูรกายก็เป็นจำนวนตัวเลขที่น่าดูมาก ๆ แล้ว

เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามไม่อยากพูดคุยกับตน ซูเสว่หลันก็ไม่ได้พูดอะไรมากเช่นกัน เพ่งมองทิศทางที่หลัวซิวจากไป ก็ไม่รู้เหมือนกันว่านางกำลังคิดอะไรในใจ

กระทั่งหลัวซิวจากไปไกลโดยสิ้นเชิงแล้ว ถึงจะมีความรู้สึกยกภูเขาออกจากอกปรากฏบนใบหน้าซูเสว่หลัน แท้จริงแล้วขณะที่เผชิญหน้ากับยอดฝีมือลึกลับที่สามารถสังหารถังหย่งในเมื่อครู่นี้ นางก็ประหม่ามาก ๆ 

นางไม่ได้บอกความจริงแต่อย่างใด นางมีเรื่องปิดบังหลัวซิว ทว่านางก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน นางมีความลำบากของตัวเอง 

การใช้ชีวิตอยู่ในห้วงดาราที่เหี้ยมโหดนี้ คนส่วนมากล้วนต้องระมัดระวังดั่งยืนอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบาง ๆ

และเป็นเพราะความประหม่าในเมื่อครู่นี้นี่เอง ดังนั้นนางถึงกับลืมไปแล้วว่าคนดังกล่าวช่วยนางฆ่าถังหย่ง สามารถพูดได้เลยว่าการที่ช่วยชีวิตนางเอาไว้ครั้งหนึ่งนั้น มันเป็นบุญคุณที่ยิ่งใหญ่มากเพียงใด ทว่านางกลับแค่กล่าวขอบคุณประโยคเดียวโดยที่ดูไม่จริงใจเลย

หลังจากยืนนิ่งอยู่กับที่มาพักหนึ่ง ซูเสว่หลันก็ถอนหายใจ ก่อนจะผันร่างเป็นแสงกลดวงหนึ่ง จากไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว 

นางเข้าใจดีมาก ๆ ว่าถังหย่งตายไปแล้ว เจ้าสำนักสรรพอสูรถังกู่สงไม่มีทางจบเรื่องนี้ง่าย ๆ แน่นอน 

เรือเซียนสีทองทะลุไปมาอยู่ในห้วงดารา หลัวซิวนั่งท่าขัดสมาธิอยู่บนชั้นดาดฟ้าของเรือเซียน เอากาเหล้าออกมาหนึ่งใบ พลางชื่นชมแสงที่แวววาวจับตาของทางช้างเผือกพลางดื่มเหล้าคนเดียวอย่างเงียบเหงา 

ตั้งแต่มาถึงโลกร้างเป็นต้นมา ก็มีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นติดต่อกันหลายเรื่อง ห้วงดาราที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้ก็ยังคงกว้างใหญ่เช่นเคย ทว่ากลับทำให้เขาทั้งรู้สึกคุ้นเคยและแปลกหน้า 

เมื่อหลายแสนล้านปีก่อน เขาเป็นผู้แข็งแกร่งคนแรกในโลกที่บรรลุสู่แดนผู้สูงส่ง ในยุคสมัยที่สวรรค์หายสาบสูญหมดสิ้น วัฏสงสารหายเข้าไปในกลีบเมฆ ผู้สูงส่งนั้นเป็นตัวแทนของสูงสุดและไร้เทียมทาน!

ในยุคสมัยนั้น เขาคืออันดับหนึ่งในโลกหล้าที่สมคำเลื่องลือ แต่ปัจจุบันเขาที่อยู่ในห้วงดาราแห่งนี้กลับไม่ใช่อะไรทั้งนั้น ถึงแม้เขาจะมีอุบายที่สามารถสังหารเทพมารระดับแปดทั่วไป ทว่าสำหรับเหล่าผู้แข็งแกร่งในห้วงดาราแล้ว ทุกคนที่แข็งแกร่งเล็กน้อยล้วนสามารถปลิดชีพเขาได้ 

“นายท่าน ใกล้จะถึงดารามังกรดำแล้วขอรับ”

หลังจากไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ จู่ ๆ เสียงของลาร์ก็สะท้อนมา โดยส่วนใหญ่แล้วยักษ์อัสนีไม่จำเป็นต้องฝึกตน เนื่องจากเหตุผลพิเศษ ต่อให้เผ่าพันธุ์ของพวกเขาจะทุ่มเทชีวิตฝึกตนมากเพียงใด การที่จะยกระดับศักยภาพเพียงเสี้ยวหนึ่งนั้น ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ลำบากอย่างยิ่ง 

แม้นเขาจะปฏิบัติตามหน้าที่ เป็นผู้ติดตามอยู่ข้างกายหลัวซิว แต่เรื่องการควบคุมเรือเซียนเพื่อโบยบินอยู่ในอนัตตานั้น ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ลาร์ปฏิบัติแทนเช่นกัน 

สาเหตุที่ดารามังกรดำชื่อว่าดารามังกรดำนั้น เป็นเพราะจ้าวแห่งดาราดวงนี้เป็นผู้แข็งแกร่งเผ่ามังกรดำ

ในโลกมหาศักดิ์ทั้งแปด เผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่าพันธุ์มารและเผ่าปีศาจใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน การมองเป็นศัตรูและจุดยืนระหว่างเผ่าพันธุ์ไม่ชัดเจนแต่อย่างใด

สำนักกองกำลังจำนวนมากไม่เพียงมีผู้แข็งแกร่งเผ่าพันธุ์มนุษย์เท่านั้น ก็มีผู้แข็งแกร่งเผ่าพันธุ์มาและเผ่าปีศาจคงอยู่เช่นกัน 

แต่ทว่าเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว กองกำลังของเผ่าพันธุ์มนุษย์จะมีมากกว่า และแข็งแกร่งมากกว่า ผู้แข็งแกร่งก็มีมากกว่าด้วย 

ในห้วงดาราของโลกมหาศักดิ์ มีเพียงเป็นผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับแปดเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ยึดครองดาราดวงหนึ่งเป็นอาณานิคมของตนเอง ในยุคสมัยที่ไกลโพ้นมาก ๆ ที่นี่ไม่ได้ชื่อดารามังกรดำแต่อย่างใด ส่วนจะชื่ออะไรนั้นมันไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้ว สาเหตุที่หลัวซิวเดินทางมาที่นี่นั้น เป็นเพราะเมื่อปีนั้นเขาได้ทิ้งสิ่งของบางอย่างไว้ในละแวกใกล้เคียงกับดาราดวงนี้

ไท่ซ่างฉิงเมื่อภพชาติก่อนฝึกตนถึงแดนผู้สูงส่งแล้ว เขาไม่เคยขาดแคลนวรยุทธ์พลังอมตะที่แข็งแกร่ง ศัสตราวุธของขลังชั้นยอด และเหล็กเศษณ์ทองเซียนที่ล้ำค่าต่าง ๆ นานาเลย 

หลังจากมีความคิดที่จะกลับชาติมาเกิดผ่านวัฏสงสารแล้ว มาตรแม้นว่าเขาจะทิ้งทรัพย์สินส่วนมากของภพชาติก่อนไว้ให้ผู้คนที่อยู่ข้างกาย แต่ก็ยังมีของบางส่วนที่เขาได้วางแผนล่วงหน้าอยู่ ซึ่งเขาจะมาเอาหลังจากตัวเองกลับชาติมาเกิดผ่านวัฏสงสารแล้ว

ซึ่งกล่องเหล็กสีดำของภูเขาว่านเริ่นก็คือของชิ้นแรกที่เขาทิ้งไว้ นอกเหนือจากทรัพยากรการฝึกตนบางส่วนแล้ว สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดก็คือเตากลั่นนภาจื่อเซียว เตากลั่นยาเตานี้อยู่เคียงข้างเขามานานมาก ๆ ซึ่งบรรลุถึงระดับพรสวรรค์ระดับเก้าแล้ว สามารถพูดได้เลยว่าเป็นเตากลั่นยาเซียนอันดับหนึ่งแห่งโลกมหาศักดิ์ทั้งแปด!

ปัจจุบันในบรรดาสมบัติทั้งหมดในมือเขา แม้แต่กระบี่ร่องฟ้าก็ด้อยกว่าเตากลั่นนภาจื่อเซียวไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ 

นอกเหนือจากเตากลั่นนภาจื่อเซียวแล้ว ภพชาติก่อนเขายังมีมหาของขลังศัสตราวุธอีกสามชิ้น ดาบทลายวิญญาณสยบเทพที่ใช้ในการเข่นฆ่า เตากลืนจันทราภูธาราที่เกราะป้องกันเป็นหนึ่งไม่เป็นสอง และอัญแห่งบรรลุของเขา แท่นสรรพบัวเขียว

วิถียุทธ์ที่เขาฝึกเมื่อชาติปางก่อนคือวิถีแห่งทวยมรณะ การเวียนว่ายตายเกิดห้วงเวลา เบญจธาตุตรีภพ หยินหยางลมอัสนีต่าง ๆ เป็นต้น เขาแทบจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับสรรพวิชา อีกทั้งยังชำนาญมาก ๆ ด้วย ถูกผู้คนในโลกหล้าต่างชื่นชมว่าเขาเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์หาที่เปรียบได้ยาก 

ในแท่นสรรพบัวเขียว มีการตระหนักรู้วิถีธรรมทั้งปวงในจักรวาลฟ้าดินของเขาเมื่อภพชาติก่อนผนึกรวมอยู่ เมื่อปีนั้นขณะที่เขาตายไปพร้อมกับกงล้อวัฏจักรธรรม มันก็แตกสลายอยู่ในศึกสงครามครั้งยิ่งใหญ่นั้นเช่นกัน

บนดารามังกรดำ สิ่งที่ภพชาติก่อนทิ้งไว้ให้ภพชาตินี้กลับไม่ใช่ของขลังอาวุธสงครามที่แข็งแกร่งมากที่สุด เนื่องจากวิถียุทธ์ที่เขาจะเดินในภพชาตินี้ แตกต่างจากภพชาติก่อนโดยสิ้นเชิง ถึงแม้จะทิ้งของเหล่านั้นไว้ มันก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ