เมื่อได้ยินว่าสามารถเข้าไปในแดนเทียนฮวง ก็มีความดีใจปรากฏบนใบผู้คนที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรก เมื่อรวมหลัวซิวและลิ่งฮู๋จื่อเซวียนแล้ว ก็มีเพียงห้าร้อยกว่าคนเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าไปในแดนเทียนฮวง
ในบรรดาวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศทั้งสองแสนกว่าคน สุดท้ายเหลือเพียงห้าร้อยกว่าคนเท่านั้น จึงเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าการที่จะได้เป็นศิษย์ของตระกูลเทียนฮวงนั้น มันยากลำบากมากเพียงใด
แต่ว่าหากอยากเป็นศิษย์ของตระกูลเทียนฮวงจริง ๆ ยังต้องรอให้ออกมาจากแดนเทียนฮวงก่อน แดนเทียนฮวงเป็นดินแดนเก่าในยุคไท่ชู ถึงแม้จะไม่อันตรายปานแดนบรรพกาล แต่ก็ไม่ใช่สถานที่ดี ๆ อย่างแน่นอน จำนวนคนที่เข้าไปมีห้าร้อยกว่าคน ผู้ที่สามารถมีชีวิตรอดออกมาได้นั้น ยังจะน้อยกว่านี้อีก
ถึงแม้จะรู้ว่าแดนเทียนฮวงอันตรายก็ตาม แต่การคัดเลือกอัจฉริยะในทุก ๆ ครั้ง ก็จะมีวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศที่นับไม่ถ้วนมาเข้าร่วมอย่างไม่ขาดสาย เนื่องจากคนธรรมดาทั่วไปไม่กล้าเข้าไปในแดนบรรพกาล มาตรแม้นว่าเป็นผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับเก้าก็ต้องพิจารณาศักยภาพของตัวเองดี ๆ
แดนเทียนฮวงเป็นส่วนหนึ่งของแดนบรรพกาล ซึ่งมีโชคและโอกาสคงอยู่เป็นจำนวนมาก ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ แดนเทียนฮวงถูกควบคุมอยู่ในกำมือตระกูลเทียนฮวง ทว่าตระกูลเทียนฮวงก็ไม่สามารถสำรวจทั้งแดนเทียนฮวงได้เช่นกัน
สิ่งที่เป็นกุญแจสำคัญที่สุดคือมีเพียงจอมยุทธ์ที่อยู่ต่ำกว่าเทพมารระดับเก้าเท่านั้นถึงจะสามารถเข้าไปในแดนเทียนฮวงได้ ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้มีผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานเข้าไปทำลายสมดุลในแดนเทียนฮวง การที่ทุกคนจะได้รับโชคโอกาสแบบใดนั้น ก็ล้วนขึ้นอยู่กับศักยภาพของตนเองแล้ว!
“นายท่าน ถูโยวหมิงและซูเสว่หลันจากไปแล้ว”
เมื่อลาร์บอกข่าวคราวนี้ให้หลัวซิว หลัวซิวไม่ได้รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด เนื่องจากก่อนที่เขาจะเข้าไปในแดนเทพโบราณ เขาก็คาดเดาผลลัพธ์นี้ได้แล้ว
“โยวหมิงเอ๊ยโยวหมิง เจ้าต้องถูกสตรีนางนั้นหลอกถึงเมื่อไหร่ เจ้าถึงจะรับผิดแล้วพร้อมปรับแก้ไข?”
หลัวซิวส่ายหน้า ถูโยวหมิงถูกซูเสว่หลันหลอกแล้วจากไปง่ายเช่นนั้น ช่างทำให้เขารู้สึกผิดหวังจริง ๆ
อย่างไรก็ตามถึงแม้จะรู้สึกผิดหวัง เขาก็กำชับให้ลาร์เอายันต์ทะลุฟ้าระดับแปดให้ถูโยหมิงหนึ่งชิ้น เพื่อเอาไว้คุ้มกันชีวิตตนเองอยู่ดี
ต่อมาวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศทั้งหมดที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรก ล้วนนั่งเรือรบดาราของตระกูลเทียนฮวงมุ่งหน้าตรงไปยังตำแหน่งที่ตั้งของแดนเทียนฮวง
หากอิงจากหลักการทั่วไป ลาร์ไม่สามารถเดินทางไปยังแดนเทียนฮวงพร้อมกับหลัวซิวได้ ทว่าหลัวซิวกลับมีวิธีที่สามารถหลบเลี่ยงการตรวจสอบของผู้อาวุโสราชาเทพทั้งสี่อยู่
ตำหนักวัฏสงสารเป็นของวิเศษที่กลายมาจากเศษกงล้อวัฏจักรธรรม อาศัยระดับฝีมือด้านวิถีค่ายของหลัวซิว การที่จะนำตัวลาร์ซ่อนไว้ด้านในแล้วไม่ให้มีออร่าใด ๆ รั่วไหลออกมานั้น ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
ขณะที่หลัวซิวเดินขึ้นบนเรือรบดารา เขาสัมผัสได้ว่ามีสายคู่หนึ่งได้จับจ้องมาทางตนเอง เขาจึงหันหน้ากลับไปทันที แล้วมองเห็นสายตาที่มีจิตสังหารอันรวดเร็วและดุดันของชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่อยู่ในหมู่คนที่อยู่ห่างไกลออกไป ผนึกมาทางตัวเอง
ชายวัยกลางคนนั่นไม่ใช่ผู้อื่น ซึ่งเขาก็คือถังกู่สง เจ้าสำนักแห่งสำนักสรรพอสูรนั่นเอง จากศักยภาพและภูมิฐานของสำนักสรรพอสูร ไม่มีวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศคนใดสามารถผ่านการคัดเลือกในรอบแรกได้เลย หลัวซิวเดินขึ้นเรือรบของตระกูลเทียนฮวง จึงต้องได้รับการคุ้มครองจากตระกูลเทียนฮวงอยู่แล้ว ถังกู่สงจึงทำได้เพียงถลึงตามองอย่างเดียว
หลัวซิวไม่ได้นำถังกู่สงมาใส่ใจ การเดินทางไปยังแดนเทียนฮวงในครั้งนี้ หากไม่มีอะไรผิดพลาดละก็ เขามีโอกาสเจอโชคโอกาสที่สามารถทำให้ตัวเองบรรลุถึงเทพมารระดับเจ็ดสูงมาก ถึงครานั้นหากมีผลการฝึกตนเทพมารระดับเจ็ด เมื่ออาศัยอุบายไพ่เด็ดที่ตัวเองยึดกุม ถึงแม้จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเทพมารระดับเก้าทั่วไป แต่ก็สามารถรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้แล้ว
บนเรือรบ ทุกคนล้วนมีห้องนอนเดี่ยวของตัวเอง ผ่านไปไม่นานนัก ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนก็มาถึงห้องนอนของหลัวซิว
ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนก็ไม่ได้พูดจาไร้สาระเช่นกัน หยิบม้วนยกชิ้นหนึ่งออกมาวางตรงหน้าหลัวซิวแล้วพูด: “สหายหลัวดูม้วนหยกชิ้นนี้ก่อนได้”
หลัวซิวไม่ได้คาดหวังอะไร หยิบม้วนหยกขึ้นมาแล้วใช้ตัวสำนึกแผ่สำรวจ พบว่าด้านในมีแผนที่สลักอยู่หนึ่งรูป ตัวแผนที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง แต่ก็ดูร่องรอยเส้นทางต่าง ๆ ออกอยู่ ใช้เวลาไม่กี่ชั่วลมหายใจ หลัวซิวก็จดจำทั้งแผนที่เอาไว้ได้แล้ว
“ตั้งแต่สิ้นสุดยุคมหาเทพเสินหวง จะมีการคัดเลือกอัจฉริยะในทุก ๆ หนึ่งร้อยปี ตระกูลลิ่งฮู๋ของเราก็เคยเข้าไปเช่นกัน จึงสลักวาดม้วนหยกชิ้นนี้ขึ้นมาโดยอ้างอิงจากความทรงจำ ตำแหน่งที่ทำเครื่องหมายอยู่บนม้วนหยก มีภูเขาหินแก้วดั้งเดิมหนึ่งลูก!”
เมื่อเห็นว่ากำลังจะเดินทางไปแดนเทียนฮวงแล้ว ในที่สุดลิ่งฮู๋จื่อเซวียนก็บอกจุดประสงค์ของการเดินทางในครั้งนี้ของเขาออกมาสักที
“ภูเขาหินแก้วดั้งเดิม?”หลัวซิวยักคิ้วทีหนึ่ง เขาก็คิดว่าจะเป็นโชคโอกาสที่ยิ่งใหญ่เพียงใดซะอีก ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเพียงภูเขาหินแก้วดั้งเดิมลูกหนึ่งเท่านั้น
แต่ทว่าเมื่อลองคิดดี ๆ สำหรับผลการฝึกตน ณ ปัจจุบันของลิ่งฮู๋จื่อเซวียนแล้ว ภูเขาหินแก้วดั้งเดิมหนึ่งลูกก็ถือเป็นโชคที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ แล้ว ภูเขาหินแก้วดั้งเดิมมีทั้งเล็กและใหญ่ ทว่ามาตรแม้นว่าเป็นภูเขาหินแก้วดั้งเดิมที่เล็กที่สุด ก็มีหินแก้วดั้งเดิมเป็นสิบล้านก้อนอย่างแน่นอน
“กรองแก้วมรกตหรือกรองแก้วม่วง?”หลัวซิวถามอย่างเรื่อยเปื่อย
“กรองแก้วมรกต! หากเป็นกรองแก้วม่วงก็ดีสิ”ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนหลุดหัวเราะออกมา ภูเขากรองแก้วมรกตดั้งเดิมลูกหนึ่งก็หาพบได้ยากมากแล้ว เขาไม่เคยเพ้อฝันถึงภูเขากรองแก้วม่วงหรอกนะ
ในบรรดาหินแก้วดั้งเดิม ระดับของกรองแก้วมรกตต่ำที่สุด กรองแก้วม่วงดีกว่า และกรองแก้วโลหิตเป็นระดับชั้นยอด
“ขณะที่เข้าไปในแดนเทียนฮวง เราจะถูกส่งไปยังสถานที่ต่าง ๆ โดยการสุ่ม ถึงครานั้นเราค่อยไปเจอกันที่หุบเขาแห่งหนึ่งที่บันทึกอยู่บนแผนที่ม้วนหยก”ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนพูดอย่างไม่รีบไม่ร้อน
ส่วนหลัวซิวกลับกำลังคำนวณมูลค่าของภูเขากรองแก้วมรกตดั้งเดิมอยู่ในใจ อ้างอิงจากภูเขากรองแก้วมรกตลูกหนึ่งสามารถกำหนดแบ่งกรองแก้วมรกตออกเป็นสิบล้านก้อน ถึงแม้เขาและลิ่งฮู๋จื่อเซวียนจะแบ่งกันคนละครึ่ง เขาก็สามารถครอบครองกรองแก้วมรกตห้าล้านก้อนเช่นกัน
“เพียงพอที่จะสามารถทำให้ข้าฝึกถึงเทพมารระดับหกขั้นสูงแล้ว!”หลัวซิวหรี่ตาลง ทรัพยากรอย่างกรองแก้วมรกตดั้งเดิมดีเลิศกว่าโอสถแก่นแท้หนึ่งระดับ ผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับแปดส่วนมากล้วนใช้โอสถแก่นแท้ในการฝึกตน ผู้ที่มีปัญญาใช้กรองแก้วมรกตนั้นมีน้อยมาก
หลัวซิวไม่มีความคิดเห็นใด ๆ ต่อข้อเสนอแนะของลิ่งฮู๋จื่อเซวียน อดีตเขาเคยไปแดนบรรพกาลมาก่อนจริง ๆ สมบัติอย่างเขากรองแก้วมรกตดั้งเดิมนั้น เป็นสิ่งที่แทบจะสามารถหาพบได้ในทุกจุดของแดนบรรพกาล ขณะที่เป็นไท่ซ่างฉิง เขาเบื่อที่จะชายตาลงไปมองด้วยซ้ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...