มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2724

“ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ……”

ลาร์ดึงกำลังรบออกมาทั้งหมด มีอัสนีตรีภพลอยวนเป็นเกลียวอยู่รอบกาย ในฐานะที่เป็นยักษ์ที่กำเนิดจากตรีภพ อัสนีที่เขายึมกุม มีธาตุตรีภพแฝงซ่อนอยู่ด้วย ซึ่งแข็งแกร่งกว่าเกณฑ์อัสนีทั่วไปมาก ๆ

“กางค่าย!”

เห็นได้ชัดเจนเลยว่ากองทัพทหารม้านับร้อยที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามก็ทราบเช่นกันว่ายักษ์ตรีภพจัดการไม่ง่าย ภายใต้การออกคำสั่งของหัวหน้าผู้นำ คนนับร้อยก็เริ่มปฏิบัติการอย่างเป็นระเบียบ เรียงรายกันเป็นค่ายกลหนึ่งค่าย ออร่ากระแสสัมผัสของทุกคนเชื่อมต่อกัน จนประกอบเป็นลายค่าย

ค่ายรบที่วิวัฒนาการของมาจากจอมยุทธ์ที่มีผลการฝึกตนเทพมารระดับเจ็ดนับร้อยก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ระดับขั้นของค่ายกลบรรลุถึงระดับเทพระดับแปดแล้ว ซึ่งเช่นนี้ก็หมายความว่าหลังจากพวกเขาประกอบเป็นค่ายรบแล้ว ก็มีกำลังรบที่สามารถต่อกรกับเทพมารระดับแปดได้อย่างสมบูรณ์!

“ตู้มม!”

ลาร์ฟาดกระบองเหล็กเซียนตรีภพที่อยู่ในมือลงไป พลังแรงที่เกะกะระรานประสานงากับม่านแสงค่ายกล ร่างกายของทหารม้านับร้อยที่กางค่ายแค่สั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นก็กลับมาสงบเหมือนเก่า  

เมื่อผู้นำทหารม้าเห็นเช่นนี้ จึงหัวเราะเสียงดังลั่นออกมาทันที “ดูท่าศักยภาพของยักษ์ตรีภพตัวนี้ก็ไม่เท่าไหร่นี่ สหายสู้เขา!”

แต่ทว่าในเวลานี้เอง จู่ ๆ ก็มีมือใหญ่ข้างหนึ่งยื่นออกมาจากหัวไหล่ลาร์ มือใหญ่ข้างนี้แค่กวัดแกว่งในอนัตตาเบา ๆ ค่ายเทพระดับแปดที่ประกอบจากทหารม้านับร้อยก็สลายหายไปภายในพริบตา 

“โฮกก!”

ลาร์คว้าโอกาสฟาดกระบองลงไป จึงมีจอมยุทธ์เทพมารระดับเจ็ดสิบกว่าคนถูกทุบจนแตกสลายเป็นฝุ่นผงคาที่ ไม่เหลือแม้แต่ซาก น้ำเลือดสาดกระเด็น

สีหน้าของผู้นำทหารม้าเปลี่ยนไป บัดนี้ถึงจะสังเกตเห็นว่าบนหัวไหล่ของยักษ์อัสนีตรีภพ ยังมีคนที่นั่งอยู่ในท่าขัดสมาธิอีกคนหนึ่ง 

ซึ่งเมื่อครู่ก็เกิดจากการลงมือของคนดังกล่าวนี่แหละ ถึงทลายค่ายรบพวกเขาทิ้งอย่างง่ายดาย

“ถอย!”

ผู้นำทหารม้าคนนี้ก็เด็ดเดี่ยวมากเช่นกัน เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าผู้ที่สามารถทลายค่ายเทพระดับแปดได้อย่างง่ายดายนั้น ต้องเป็นนักค่ายเทพผู้ทรงพลังคนหนึ่งอย่างแน่นอน เมื่อเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งระดับนี้แล้ว ค่ายรบที่เขาสามารถพึ่งพิงก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลยด้วยซ้ำ

ทหารม้านับร้อยยังไม่ทันได้ถอยกลับ ลาร์ก็พุ่งเข้าไปดั่งเสือที่กระโจนเข้าไปในฝูงแกะ อัสนีทำลายล้างทั่วทุกสารทิศ ปลดปล่อยกระบวนท่าต่าง ๆ ออกมาอย่างยิ่งใหญ่ แค่โจมตีไม่ได้ป้องกัน เมื่ออาศัยร่างตรีภพที่แข็งแกร่ง พลังโจมตีของจอมยุทธ์เทพมารระดับเจ็ดเหล่านี้สร้างภัยคุกคามให้ลาร์ได้ยากมาก

เพียงชั่วพริบตาเดียว ก็มีคนดับสลายสูญสิ้นไปอีกหลายสิบคน นี่จึงทำให้ผู้นำทหารม้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หากกำลังพลที่เป็นเบื้องล่างเขาเสียหายสาหัส หลังจากกลับไปเขาต้องได้รับบทลงโทษที่รุนแรงอย่างแน่นอน 

“ฆ่า!”

ผู้นำทหารม้าตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว ออร่าผลการฝึกตนเทพมารระดับเจ็ดขั้นสูงระเบิด เขาเรียกหอกเทวออกมาหนึ่งเล่ม ซึ่งมันคืออาวุธเทพระดับแปดที่โดดเด่นชิ้นหนึ่งนั่นเอง ภายใต้สถานการณ์ที่ค่ายรบไร้ประโยชน์ ก็มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถต่อกรกับยักษ์ตรีภพตัวนี้ได้

อย่างไรก็ตามเทพมารระดับเจ็ดขั้นสูงและราชาเทพระดับเจ็ดก็ต่างกันมาก ๆ มีรอยยิ้มที่ดุร้ายปรากฏบนใบหน้าลาร์ กระบองเหล็กเซียนพุ่งชนกับหอกเทว ผู้นำทหารม้าจึงกระอักเลือดคาที่ ร่างกายกระเด็นออกไป

ถัดจากนั้นลาร์ก็ยื่นมือใหญ่ออกไป จับร่างผู้นำทหารม้าคนนั้นขึ้นมา โยนเข้าไปในปาก แล้วเคี้ยวจนน้ำเลือดสาดกระเด็น 

ภาพเหตุการณ์ที่โหดร้ายทารุณนี้ ทำให้ทหารม้าที่เหลือรู้สึกช็อกไม่เบาจริง ๆ ถึงแม้หลัวซิวจะไม่รู้ว่าทหารม้าเหล่านี้มาจากกองกำลังใด แต่ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีความเป็นมาอย่างไร เขาก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้ลาร์เปิดศึกเข่นฆ่าที่นี่ 

เขามาเขตกลางเป็นครั้งแรก ซึ่งต้องการศึกสงครามที่ยิ่งใหญ่และเลือดสดมาตักเตือนผู้คนที่มีเจตนาร้ายพอดี 

หลัวซิวก็ไม่ได้ลงมือต่อเช่นกัน พวกเทพมารระดับเจ็ดทั่วไปหนีการไล่ล่าของลาร์ไม่พ้นเลยด้วยซ้ำ ไม่นานนัก ทหารม้านับร้อยก็วอดวายทั้งกองทัพ

“แหะ ๆ สะใจจริง ๆ!”

การเข่นฆ่าครั้งหนึ่งทำให้ลาร์รู้สึกตื่นเต้นดีใจมาก ยักษ์ที่ถูกหล่อเลี้ยงออกมาจากตรีภพมีอุปนิสัยที่โหดเหี้ยมชอบต่อสู้ ช่วงนี้ติดตามอยู่ข้างกายหลัวซิวมาโดยตลอด ลาร์ระงับสันดานเดิมมาโดยตลอด อัดอั้นจนรู้สึกทรมาน

“อย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไป”

หลัวซิวก็หัวเราะเช่นกัน ทว่าภายในใจกลับเข้าใจดีมากว่ากองกำลังที่สามารถบ่มเพาะกองทัพทหารม้าที่ประกอบจากเทพมารระดับเจ็ดออกมาได้นั้น ไม่ใช่สิ่งที่กองกำลังทั่วไปสามารถทำได้แน่นอน 

ครั้งนี้ลาร์ได้สังหารทหารม้านับร้อยนาย เช่นนั้นกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังทหารม้านับร้อยนี่ ต้องส่งผู้ที่แข็งแกร่งกว่ามาแน่นอน 

และมันก็เป็นอย่างที่หลัวซิวคาดการณ์เอาไว้จริง ๆ ด้วย ระยะเวลาหนึ่งวันยังไม่ผ่านพ้นไป เขาก็สัมผัสได้ว่ามีคลื่นออร่าที่แข็งแกร่งส่งตรงมาจากขอบฟ้าที่อยู่ห่างไกลออกไป ภายในนี้ยิ่งมีผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับแปดปนอยู่ด้วย 

ไม่ว่ายังไงร่างกายที่สูงหลายพันเมตรของลาร์ก็โดดเด่นมาก ๆ การที่ฝ่ายตรงข้ามสามารถตามสะกดรอยมาได้อย่างง่ายดายนั้น ทั้งหมดก็อยู่ในการคาดหมายของหลัวซิวเช่นกัน 

หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง ก็มีเงาดำหลายร่างปรากฏกลางท้องฟ้าที่อยู่ห่างไกลออกไป ในขณะที่หลัวซิวเห็นฝ่ายตรงข้าม กองทัพของฝ่ายตรงข้ามย่อมต้องเห็นเขาและลาร์อยู่แล้ว 

“โครม!”

จู่ ๆ ก็มีเขาเซียนลูกหนึ่งกระแทกลงมาจากท้องฟ้าที่ว่างเปล่า อนัตตาถูกทุบจนแตกสลาย กลุ่มภูเขาล้มลง พลานุภาพมโหฬารพันลึก

ครั้งนี้ ผู้แข็งแกร่งที่ฝ่ายตรงข้ามส่งมามีค่อนข้างมาก หลัวซิวก็ไม่มีทางปล่อยให้ลาร์ไปรับมือคนเดียวอยู่แล้ว เห็นเพียงเงาร่างของเขาที่อยู่บนไหล่ลาร์ค่อย ๆ ลุกขึ้น แล้ววอร์มร่างกายครู่หนึ่ง 

ตั้งแต่ที่นำพลังฉีกชั้นฟ้ากลั่นแปรหลอมรวมเข้าไปในร่างเนื้อ จนบรรลุถึงร่างเทวระดับแปดเป็นต้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาออกรบ!

“ตู้มม!”

เขาปล่อยหมัดออกไปจนเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น มีพลังเต๋าที่ย้อนสังหารสวรรค์ ฉีกกระชากบดขยี้ทุกสรรพสิ่งแฝงซ่อนอยู่ด้วย ทำให้เขาเซียนที่กดอัดลงมาระเบิดแตกเป็นชิ้น ๆ ภายในพริบตา พังทลายอยู่กลางนภา 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ