มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2770

“เจ้า……เจ้าถึงกับ……”

ร่างกายของหงบูกระแทกลงพื้น ภายในแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความเหลือเชื่อ แม้แต่น้ำเสียงยังสั่นคลอนไปด้วย 

อัคคีเต๋าอหังการกลั่นแปรทุกสรรพสิ่ง ไม่ว่าอย่างไรเขาก็นึกไม่ถึงเลยว่าหลัวซิวไม่เพียงไม่ถูกอัคคีเต๋าเผาตาย ในทางตรงกันข้ามภายใต้การเผาชุบจากอัคคีเต๋า ดูเหมือนเขาจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นด้วย 

“มันจบแล้ว”

หลัวซิวพูดอย่างเรียบนิ่ง มีเปลวไฟสีทองปรากฏในดวงตาทั้งสองข้างของเขา ซึ่งมีความล้ำลึกชองธรรมเวชกาลร้างและอัคคีเต๋าอหังการแฝงซ่อนอยู่ภายใน

สีหน้าของหงบูและนักพรตชิงชานต่างเปลี่ยนเป็นหนักมาก พวกเขาทั้งสองคนหนึ่งบาดเจ็บสาหัส คนหนึ่งเสื่อมทรุดจนเป็นม้าตีนปลาย บัดนี้หากหลัวซิวมีจิตที่จะสังหาร พวกเขาจะหนีไม่รอดแม้แต่คนเดียว 

แต่ทว่าในเวลานี้เอง จู่ ๆ ก็มีแสงสีทองทำการปกคลุมพื้นที่ในชั้นห้าของหอคอยฮวงเอาไว้ วินาทีถัดไป ก็มีพลังหนึ่งที่ไม่อาจต่อต้านได้ม้วนพาพวกเขาทั้งสามคน หายไปภายในพริบตา

โลกาภายนอกผ่านไปสิบปี ทว่าภายในหอคอยฮวงกลับผ่านไปหลายแสนปีแล้ว เสี้ยววินาทีที่พวกหลัวซิวถูกส่งออกไป อัจฉริยะผู้แข็งแกร่งคนอื่น ๆ ที่อยู่ภายในหอคอยฮวงก็ต่างถูกส่งออกไปเช่นกัน

ณ ใจกลางสนามจัตุรัสแห่งเมืองต้าฮวงโบราณ มีเงาร่างทั้งหลายกระพริบปรากฏอย่างต่อเนื่อง และดึงดูดสายตาของคนจำนวนมาก

หลัวซิวกวาดตามองดูรอบ ๆ เห็นเพียงจากอัจฉริยะผู้แข็งแกร่งหนึ่งพันคนที่ถูกส่งเข้าไปในหอคอยฮวงตอนแรก ถูกส่งออกมาทั้งหมดห้าร้อยกว่าคน ซึ่งนี่ก็หมายความว่ามีอัจฉริยะผู้แข็งแกร่งเกือบครึ่งล้วนดับสลายสูญสิ้นอยู่ในชั้นแรกของหอคอยฮวง

เริ่มตั้งแต่ชั้นที่สองของหอคอยฮวงจักไม่มีภยันตรายใด ๆ คงอยู่ ทว่าชั้นแรกของหอคอยฮวงมีสมบัติล้ำค่าดลจิตที่นับไม่ถ้วน พวกอัจฉริยะที่ศักยภาพไม่เพียบพร้อมยังไม่ทันได้มุ่งไปสู่ชั้นสอง ก็ดับสลายสูญสิ้นไปแล้ว

ในขณะเดียวกัน หลัวซิวก็สังเกตเห็นหงบูและนักพรตชิงชานด้วย หลังจากทั้งสองคนนั้นถูกส่งออกมาแล้ว ก็ได้รับความสนใจจากผู้แข็งแกร่งในตระกูลหงและวังชิงเทียนทันที ทำการปกป้องพวกเขาทั้งสองคนเอาไว้อย่างเข้มงวด 

“จากศึกการต่อสู้ในชั้นห้าแห่งหอคอยฮวง สองคนนั้นต้องเกรงกลัวข้ามาก ๆ อย่างแน่นอน ทันทีที่มีโอกาส พวกมันก็ต้องลงมือสังหารข้าแน่นอน”

หลัวซิวพูดในใจ เขารู้สึกเสียดายมากที่ไม่สามารถสังหารคู่ต่อสู้แข็งแกร่งทั้งสองคนนั้นในชั้นห้าของหอคอยฮวง ในบรรดาวัยรุ่นผู้แข็งแกร่งจำนวนมาก ก็มีเพียงสองคนนี้เท่านั้นที่มีความสามารถในการตระหนักรู้น่าทึ่ง สามารถขึ้นไปชั้นห้าของหอคอยฮวง แม้แต่พวกเมิ่งเชียนชางและสวีเซิ่งเจี๋ยยังทำไม่ได้ 

“ท่านชาย!”

“สหายหลัว!”

หลัวซิวเจอเงาร่างที่คุ้นเคยอีกห้าหกร่าง ยกตัวอย่างเช่นฮู๋ชิงชิง ฮวงหวูจี๋ ไป๋เฟยชิงแล้วก็พวกหนิงหานหลิง แต่กลับไม่เห็นหยุนยี่เทียน 

“สหายหยุนดับสลายสูญสิ้นไปแล้ว”

สีหน้าอารมณ์ของฮวงหวูจี๋ดูหม่นหนองเล็กน้อย เขาและหยุนยี่เทียนเป็นเพื่อนสนิทกัน ครั้นเมื่ออยู่ชั้นแรกของหอคอยฮวง เขาและหยุนยี่เทียนถูกสมบัติล้ำค่าดลจิตสิบกว่าชิ้นรุมโจมตี ศักยภาพของหยุนยี่เทียนอ่อนกว่าเล็กน้อย จึงดับสลายสูญสิ้นไปแล้ว 

ฮวงหวูจี๋นำสิ่งของที่หยุนยี่เทียนทิ้งไว้มอบให้เมืองหยุนหลง นี่จึงทำให้เหล่าอาวุโสจำนวนมากแห่งเมืองหยุนหลงเจ็บใจอย่างยิ่ง

การบ่มเพาะอัจฉริยะคนหนึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การดับสลายสูญสิ้นของหยุนยี่เทียนหมายความว่าอีกนับพันปีในอนาคต เมืองหยุนหลงจะมีบุคคลที่เป็นความหวังของกองกำลังบังเกิดขึ้นมาอีกยากมาก 

ทันใดนั้นเอง ก็มีตัวสำนึกที่กว้างใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ เงาร่างของฮวงจวินปรากฏบนนภาสูง

“ลำดับแรกต้องขอแสดงความยินดีกับทุกท่านด้วยที่มีชีวิตรอดออกมาจากการฝึกฝนในหอคอยฮวง คาดว่าพวกเจ้าทุกคนล้วนต้องได้รับดอกผลในหอคอยฮวงสินะ อนาคตทุกคนถูกลิขิตไว้แล้วว่าต้องกลายเป็นอัจฉริยะผู้มีความเป็นเลิศที่สง่างาม ยิ่งกว่านั้นคือเจ้าของหอคอยฮวงในอนาคตก็อาจอุบัติขึ้นมาจากพวกเจ้าก็เป็นได้!”

น้ำเสียงของฮวงจวินเต็มเปี่ยมไปด้วยความน่าเกรงขาม นี่จึงทำให้เหล่าอัจฉริยะจำนวนมากที่อยู่บนสนามมองหน้าซึ่งกันและกัน เนื่องจากไม่มีผู้ใดทราบเลยว่าหอคอยฮวงจักเลือกผู้ใดเป็นนาย 

ซึ่งมีเพียงหงบูและนักพรตชิงชานเท่านั้นที่รู้อยู่แก่ใจ แม้นพวกเขาทั้งสองจะไปถึงชั้นที่ห้าของหอคอยฮวง แต่ถ้าเกิดพูดถึงการตระหนักรู้และยึดกุมในธรรมเวชกาลร้างแล้ว พวกเขาต่างเทียบเคียงกับหลัวซิวไม่ได้ หากหอคอยฮวงจะเลือกนาย เช่นนั้นก็ต้องเลือกหลัวซิวแน่นอน ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ไร้ข้อกังขา 

ทว่าหงบูและนักพรตชิงชานกลับไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้อยู่แก่ใจโดยไม่ต้องอธิบายอะไร เนื่องจากขอแค่กำจัดหลัวซิวทิ้ง เช่นนั้นหอคอยฮวงก็จะเลือกนายจากหนึ่งในพวกเขาทั้งสอง!

เรื่องราวของหอคอยฮวงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ หากบอกเรื่องประเภทนี้ออกมาโดยตรงละก็ ต้องได้รับความสนใจจากผู้แข็งแกร่งที่นับไม่ถ้วนแน่นอน ซึ่งนี่มันไม่ใช่เรื่องดีต่อหงบูและนักพรตชิงชานที่ศักยภาพยังไม่เติบใหญ่ 

ในส่วนของหลัวซิวนั้น วินาทีนี้จิตใจของเขากลับจมดิ่งอยู่ในตัวหยั่งรู้ของตัวเอง เนื่องจากขณะที่เขาถูกส่งออกมาจากหอคอยฮวง ก็มีหอคอยสีทองเล็ก ๆ หนึ่งหลังปรากฏในตัวหยั่งรู้ของเขาแล้ว

หอคอยจิ๋วหลังนี้แนบเนียนเหมือนจริง เหมือนดั่งหอคอยฮวงที่ถูกย่อให้เล็กลง มีออร่าสุนทรีเทวของธรรมเวชกาลร้างไหลเวียนออกมา

อีกทั้งหลัวซิวยังค้นพบว่าสิ่งที่แฝงซ่อนอยู่ในหอคอยฮวงที่อยู่ในตัวหยั่งรู้ ก็คือธรรมพลังเต๋าในชั้นที่ห้าของหอคอยฮวงนั่นเอง มีสิ่งเดียวที่แตกต่างคือหอคอยจิ๋วที่อยู่ในตัวหยั่งรู้ของเขาเป็นแก่นแท้ ส่วนหอคอยฮวงในชั้นห้าคือเงาสะท้อน

เมื่อตัวสำนึกสัมผัสกับหอคอยฮวงหลังนี้ ก็มีข้อมูลหนึ่งถูกถ่ายทอดเข้าไปในห้วงความคิดหลัวซิวภายในพริบตา ทำให้เขาเข้าใจเรื่องทุกอย่างว่าเป็นอะไรยังไงกันแน่

หอคอยฮวงจิ๋วที่อยู่ในตัวหยั่งรู้ของเขาถือเป็นการยอมรับของหอคอยฮวงที่มีต่อเขา ทุกครั้งที่หอคอยฮวงเปิดออก เหล่าอัจฉริยะผู้แข็งแกร่งจำนวนมากที่เข้าไปในหอคอยฮวงจะได้รับการยอมรับเพียงคนเดียวเท่านั้น ทว่าการยอมรับประเภทนี้กลับไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะกลายเป็นเจ้าของหอคอยฮวงที่แท้จริง การที่จะเป็นเจ้าแห่งหอคอยฮวงได้นั้น ตัวจอมยุทธ์เองยังต้องมีผลการฝึกตนที่แข็งแกร่งมาก ๆ ด้วย

หลัวซิวมีเพียงตระหนักรู้ยึดกุมความล้ำลึกของพลังเต๋าที่แฝงซ่อนอยู่ในหอคอยฮวงในตัวหยั่งรู้ได้โดยสิ้นเชิงแล้ว เขาถึงจะได้รับการยอมรับจากหอคอยฮวงอีกขั้นหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ