มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2781

ถูกพันธนาการโดยแดนผลการฝึกตน ทำให้หลัวซิวไม่สามารถยึดกุมความล้ำลึกของเกณฑ์พลังเต๋าที่ระดับขั้นเหนือกว่า อย่างมากสุดแค่สามารถตระหนักรู้เกณฑ์ที่อยู่ในระดับขั้นของราชาเทพระดับเก้า ก็ไม่สามารถตระหนักรู้ในระดับขั้นที่สูงกว่านี้ได้อีกแล้ว 

แม้นจะเป็นเช่นนี้ เมื่อหลัวซิวออกมาจากปริศนาปริตรวันระยะเวลาในโลกภายนอกก็เพิ่งจะผ่านไปประมาณสิบปีเท่านั้น 

สำหรับผู้แข็งแกร่งที่มีอายุขัยนับร้อยล้านปีแล้ว ระยะเวลาสิบปีก็เป็นเพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ทว่ากลับมีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นบนมิติสมรภูมิกู่ไท่ติดต่อกันเยอะมาก 

เมื่อสิบปีก่อน มีผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานคนหนึ่งอุบัติขึ้นมากะทันหัน จักรพรรดิเทพระดับเก้าแห่งวังชิงเทียนที่ปกปักรักษาอยู่ในตำหนักกิ่งโยงพลังลงมือ แต่กลับถูกฝ่ายตรงข้ามสังหารภายในฝ่ามือเดียว!

เดิมทีในมิติสมรภูมิกู่ไท่ก็มีสถานฝึกฝนที่ผนึกรวมมาจากกฎและเกณฑ์อัคคีเยอะมาก ๆ อยู่แล้ว และสถานฝึกฝนเหล่านี้ก็หล่อเลี้ยงอสูรจิตที่มีธาตุไฟออกมาหลากหลายประเภทเช่นกัน ปัจจุบันอสูรจิตเหล่านี้รวมไปถึงจอมยุทธ์ธาตุไฟจำนวนมากล้วนหนีไปพึ่งพิงฝ่ายตรงข้าม

ตลอดกาลเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา มิติสมรภูมิกู่ไท่ที่ถูกมองว่าเป็นสถานฝึกฝนมาโดยตลอดก็กลายเป็นสนามรบภายในชั่วพริบตาเดียว 

“ว่าอย่างไรนะ?”

หลัวซิวก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่าจะมีเหตุร้ายเช่นนี้เกิดขึ้น 

โลกสวรรค์ลึกลับมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ภายใต้การควบคุมของเผ่าฟ้าทั้ง 12 โลกสวรรค์มีปฏิสัมพันธ์กับโลกมหาศักดิ์อีกเจ็ดโลกที่เหลือน้อยมาก ๆ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นหลัวซิวในภพชาติปัจจุบันหรือภพชาติก่อน ก็ทราบเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับโลกสวรรค์ไม่มากจริง ๆ 

ปัจจุบัน ไม่นึกเลยว่าจะมีผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานคนหนึ่งก่อตั้งกองกำลังของตัวเองในมิติสมรภูมิกู่ไท่ อีกทั้งยึดเขตพื้นที่ขนาดใหญ่ในมิติสมรภูมิกู่ไท่เป็นฐานที่มั่นของ ตน ซึ่งการกระทำเช่นนี้เป็นการยั่วยุวังชิงเทียนอย่างไร้ข้อสงสัยเลย 

อย่างไรเสียมิติสมรภูมิกู่ไท่ก็ถูกวังชิงเทียนมองว่าเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลตลอดมา 

“สิบปีแล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชิงชิงและแม่นางหนิงรวมตัวกันในตำหนักกิ่งโยงพลังหรือยัง”

เมื่อปีนั้นหลังจากต่างฝ่ายต่างแยกออกจากกันแล้ว พวกหลัวซิวทั้งสามคนก็นัดหมายกันว่าจะไปรวมตัวกันที่ตำหนักกิ่งโยงพลังในสิบปีภายหลัง แม้นยังห่างจากระยะเวลาที่นัดหมายไว้อีกระยะหนึ่ง แต่มีเหตุร้ายเช่นนี้เกิดขึ้นในมิติสมรภูมิกู่ไท่ หลัวซิวจึงกังวลมาก ๆ ว่าพวกนางจะได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในครั้งนี้หรือไม่

หลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน หลัวซิวก็ออกมาจากตำแหน่งที่ตั้งของปริศนาปริตรวันแล้วมาถึงตำหนักกิ่งโยงพลัง ทว่าเขากลับไม่พบร่องรอยของฮู๋ชิงชิงและหนิงหานหลิงในตำหนักกิ่งโยงพลัง

ในขณะเดียวกัน หลัวซิวสังเกตเห็นว่ามีคนรวมตัวกันที่จุดแบ่งภารกิจเยอะมาก นี่จึงทำให้เขานึกขึ้นมาได้กะทันหันว่าเมื่อสิบปีก่อน เขาเคยประกาศภารกิจในการตามหาเบาะแสของลู่เมิ่งเหยาที่นี่

พลิกมือทีหนึ่ง หยิบไข่มุกสื่อสารออกมาจากแหวนเก็บของ ก่อนจะมีรอยยิ้มอันขมขื่นปรากฏบนใบหน้าหลัวซิวอย่างควบคุมไม่ได้ เนื่องจากไข่มุกสื่อสารยังเป็นประกายระยิบระยับอยู่ ซึ่งนี่ก็หมายความว่าตลอดช่วงเวลาที่เขาเพ็ญตนอยู่ในปริศนาปริตรวันมีคนเคยส่งข้อมูลให้เขา

และเขาก็ได้รับไข่มุกสื่อสารเม็ดนี้มาจากจุดแบ่งภารกิจ หรือว่ามีข่าวคราวของลู่เมิ่งเหยาแล้ว?

ปริศนาปริตรวันตัดขาดกับโลกาภายนอก ขณะที่เขาอยู่ในแดนปริศนา เขาไม่ได้รับข่าวคราวอะไรเลย และหลังจากที่เขาออกมาจากแดนปริศนาแล้ว ก็ลืมเรื่องของไข่มุกสื่อสารไปอีก ดังนั้นกระทั่งบัดนี้เขาถึงจะนึกขึ้นมาได้

เดินตรงไปทางจุดแบ่งภารกิจ หลัวซิวมองเห็นภารกิจหนึ่งบนหน้าจอเงาสะท้อนค่ายกล 

มกุฎศักดิ์สิทธิ์บรรพอัคคี?

หลัวซิวพบว่าเนื้อหาที่อยู่ภายในได้กล่าวถึงผู้แข็งแกร่งที่มีนามว่ามกุฎศักดิ์สิทธิ์บรรพอัคคี ส่วนรายละเอียดความเป็นมาของผู้แข็งแกร่งคนนั้นกลับไม่มีการบรรยายอย่างละเอียด แค่บรรยายไว้โดยคร่าว ๆ ว่าคนดังกล่าวน่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในยุคสมัยที่เก่าแก่กว่ายุคไท่ชู

ซึ่งผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานที่ปรากฏในมิติสมรภูมิกู่ไท่ก็คือมกุฎศักดิ์สิทธิ์บรรพอัคคีคนนี้นี่แหละ ปัจจุบันมกุฎศักดิ์สิทธิ์บรรพอัคคีได้ยึดครองอณาอัคคีอิมเอี๊ยงก่อสร้างอณาอัคคีแห่งนั้นให้กลายเป็นฐานที่มั่น แล้วเรียกมันว่าแดนเทวบรรพอัคคี ปัจจุบันมันกำลังค่อย ๆ กลืนกินเขตพื้นที่อื่น ๆ ในมิติสมรภูมิกู่ไท่ ราวกับมีแนวโน้มที่จะครอบครองทั้งมิติสมรภูมิกู่ไท่ให้อยู่ในกำมือ

ซึ่งวังชิงเทียนย่อมไม่มีทางอดกลั้นต่อการกระทำดังกล่าวของฝ่ายตรงข้ามได้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงระดมกำลังจากผู้แข็งแกร่งจำนวนมาก เพื่อเร่งเดินทางไปยังสถานที่แห่งนั้น อีกทั้งประกาศภารกิจในตำหนักกิ่งโยงพลัง รับสมัครจอมยุทธ์อื่น ๆ เพื่อเข้าร่วมกองกำลังต่อต้านมกุฎศักดิ์สิทธิ์บรรพอัคคี 

“ได้ยินมาว่ามกุฎศักดิ์สิทธิ์บรรพอัคคีคนนั้นตบจักรพรรดิเทพระดับเก้าคนหนึ่งของวังชิงเทียนจนตายภายในฝ่ามือเดียว ผลการฝึกตนแค่นี้ของเราจะไปต่อกรกับผู้แข็งแกร่งระดับนั้นอย่างนั้นรึ นั่นมันเป็นการรนหาที่ตายไม่ใช่หรือ?”

“ต่อให้รางวัลตอบแทนของภารกิจจักมากมายมากเพียงใด แต่ก็ต้องมีชีวิตให้ได้ดื่มด่ำก่อน แล้วผู้ใดจักยินดีทุ่มเทชีวิตให้แก่วังชิงเทียนเล่า?”

“......”

มีจอมยุทธ์จำนวนมากที่มาฝึกฝนในมิติสมรภูมิกู่ไท่รวมตัวอยู่บริเวณรอบจุดแบ่งภารกิจ วินาทีนี้ทุกคนล้วนกำลังพากันวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งจำนวนคนที่เข้ารับภารกิจดังกล่าวมีไม่มากเท่าไหร่นัก

คำบรรยายบนหน้าจอเงาสะท้อนจากค่ายกลไม่ละเอียดแต่อย่างใด ทว่าหลัวซิวกลับได้รับข้อมูลที่ละเอียดมากกว่าจากคำวิพากษ์วิจารณ์ของผู้อื่น 

มกุฎศักดิ์สิทธิ์บรรพอัคคีโผล่พรวดพราดขึ้นมาอย่างแข็งกร้าวภายในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงสิบปี และพัฒนาแดนเทวบรรพอัคคีจนมีอำนาจตำแหน่งที่มั่นคง ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น มกุฎศักดิ์สิทธิ์บรรพอัคคียังมีมหาอิทธิฤทธิ์อัญเชิญจิตเศษของเหล่าผู้แข็งแกร่งที่เคยติดตามเขาเมื่อหลายแสนล้านปีก่อนกลับมาได้ด้วย แล้วประกอบเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง 

ศักยภาพของมกุฎศักดิ์สิทธิ์บรรพอัคคีลึกซึ้งมากจนไม่อาจคาดเดาได้ และถึงแม้กองกำลังในบังคับบัญชาของเขาจะเป็นเพียงจิตเศษของเหล่าผู้แข็งแกร่ง ศักยภาพก็น่าสยดสยองมาก ทุกคนล้วนมีศักยภาพที่ไม่ต่ำกว่ามกุฎเทพระดับเก้า มากกว่านั้นคือผู้ที่ค่อนข้างแข็งแกร่งยิ่งเป็นจักรพรรดิเทพระดับเก้า ตลอดจนมหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับเก้า!

ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น หลัวซิวก็หยิบไข่มุกสื่อสาร รวมไปถึงสิ่งยืนยันที่ได้รับมาจากการประกาศภารกิจเมื่อครั้นนั้นออกมา

ขณะที่ประกาศภารกิจ หลัวซิวก็จ่ายรางวัลตอบแทนของภารกิจไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งมีคนส่งข่าวคราวมาตั้งแต่เมื่อแปดปีก่อน ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ข่าวคราวถูกฝากเก็บไว้ในตำหนักกิ่งโยงพลังมาโดยตลอด 

ผู้ที่ทำภารกิจดังกล่าวสำเร็จไม่เจอตัวลู่เมิ่งเหยาแต่อย่างใด แค่เสนอเบาะแสที่มีความเกี่ยวข้อง มีคนเคยเจอลู่เมิ่งเหยาในสถานที่ที่มีนามว่าทุ่งฮวงแตกสลาย เขาเห็นว่ามีจอมยุทธ์สิบกว่าคนกำลังเข่นฆ่ากันอยู่ในทุ่งฮวงแตกสลาย ตอนนั้นเขารู้สึกว่าสนุกดี จึงทำการบันทึกภาพฉากขณะเข่นฆ่ากันเอาไว้ 

และในภาพฉากที่เขาบันทึกไว้ก็มีเงาร่างของลู่เมิ่งเหยาปรากฏพอดี!

ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น ผู้ที่ส่งมอบภารกิจก็บันทึกภาพฉากดังกล่าวไว้เมื่อแปดปีก่อนนี่เอง ซึ่งนี่ก็หมายความว่าปีที่สองที่หลัวซิวเพ็ญตนอยู่ในปริศนาปริตรวันลู่เมิ่งเหยาก็ปรากฏในทุ่งฮวงแตกสลายแล้ว!

“สหาย ไม่ทราบว่าเจ้าจักประกาศภารกิจอื่น ๆ หรือจักเลือกภารกิจอื่น ๆ อีกหรือไม่?”เจ้าหน้าที่จุดแบ่งภารกิจสอบถาม 

“ข้าจะรับภารกิจโจมตีแดนเทวบรรพอัคคีขอรับ”หลัวซิวพยักหน้าแล้วตอบกลับ 

เดิมทีแดนเทวบรรพอัคคีมีนามว่าอณาอัคคีอิมเอี๊ยงและถ้าเกิดจะมุ่งหน้าไปยังเขตพื้นที่ดังกล่าวละก็ จำเป็นต้องผ่านทุ่งฮวงแตกสลาย

เนื่องจากมูลเหตุของมกุฎศักดิ์สิทธิ์บรรพอัคคี ทำให้จอมยุทธ์จำนวนมากที่ฝึกฝนเก็บเกี่ยวประสบการณ์อยู่ด้านนอกย้อนกลับมายังตำหนักกิ่งโยงพลัง เพราะว่าแดนเทวบรรพอัคคีกำลังขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเกิดการปะทะกับกองกำลังของวังชิงเทียนอยู่เป็นประจำ ซึ่งหากไม่ทันได้ระวังก็อาจจะโดนลูกหลงไปด้วย

จอมยุทธ์ทั้งหลายที่รับภารกิจเริ่มพากันออกเดินทาง ส่วนบนสนามจัตุรัสนอกตำหนักกิ่งโยงพลัง มีเรือรบหลายลำลอยอยู่กลางนภา ผู้แข็งแกร่งแห่งวังชิงเทียนก็กำลังรวมพลอยู่เช่นกัน เตรียมพร้อมที่จะยกทัพไปปราบปรามโจมตีแดนเทวบรรพอัคคี

พลานุภาพที่มากมายมหาศาลตลบฟุ้งไปทั่วท้องฟ้า เงาลวงร่างหนึ่งที่สูงใหญ่บดบังท้องฟ้า อานุภาพมโหฬารพันลึก กลางเรือรบที่นับไม่ถ้วน มีผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับเก้าคนหนึ่งของวังชิงเทียนเดินทางมาลงมือบัญชาการด้วยตนเอง

ในยุคสมัยที่มีผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่งบังเกิดขึ้นมาน้อยมาก ๆ มหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับเก้าจึงแทบจะเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นยอดที่สามารถมองเห็นได้จากภาพภายนอกแล้ว 

อีกทั้งผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่งทุกคนล้วนเป็นภูมิฐานและรากฐานของแดนศักดิ์สิทธิ์ขั้นสุดยอดทั้งหลาย ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีความมั่นใจอย่างเด็ดขาด พวกเขาย่อมไม่มีทางลงมืออย่างง่ายดายอยู่แล้ว 

ศึกสงครามในมิติสมรภูมิกู่ไท่ก็ทำให้สภาพจิตใจของหลัวซิวตึงเครียดขึ้นมาเช่นกัน ดูเหมือนศึกสงครามในครั้งนี้จะเป็นลางมหันตภัยแห่งยุคมหาศักดิ์ บางทีชนวนที่จะทำให้มหันตภัยนี้ปะทุ ก็อาจจะเริ่มตั้งแต่ตรงนี้นี่แหละ……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ