เมื่อหลัวซิวพูดถึงเคล็ดเซียนผู้สูงส่ง สีหน้าของผู้อาวุโสชุดคลุมยาวขาวที่ยืนอยู่บนเวทีหินก็เปลี่ยนแปลงไป ในเมื่อเขานำวิญญาณอมตะออกมาค้าขายแล้ว ตัวเขาเองย่อมไม่ใช่จอมยุทธ์ที่ฝึกวิถีกลั่นวิญญาณอยู่แล้ว
อันที่จริงระดับวรยุทธ์ที่ตัวเขาฝึกเป็นเพียงมกุฎเทพระดับเก้าเท่านั้น หากได้รับเคล็ดเซียนผู้สูงส่ง แม้นการเปลี่ยนแปลงสายวรยุทธ์ที่ฝึกจะยุ่งยากเล็กน้อย แต่ก็สามารถทำให้ศักยภาพของเขาแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นแน่นอน อนาคตยิ่งสามารถฝึกถึงแดนที่สูงกว่าได้ด้วย
ด้วยเหตุนี้หลังจากหลัวซิวเสนอราคามา เขาถึงขั้นไม่สอบถามเลยว่าเป็นวรยุทธ์ที่ผู้สูงส่งท่านใดทิ้งไว้ และไม่ให้โอกาสชายหน้ากากเหล็กดำนั่นประมูลต่อเช่นกัน ก่อนจะตอบกลับอย่างอดใจรอไม่ไหว
“ข้าตกลงค้าขาย”
เคล็ดเซียนผู้สูงส่งหายากมาก ซึ่งล้วนถูกยึดกุมอยู่ในมือแดนศักดิ์สิทธิ์ขั้นสุดยอด และถูกมองว่าเป็นการถ่ายทอดสืบสานที่เป็นใจกลางของกองกำลัง คนธรรมดาทั่วไปไม่มีสิทธิ์ได้ฝึกเลยด้วยซ้ำ โอกาสเช่นนี้ มาตรแม้นว่าเจ้าจะมีหินบรรพไท่ชูเป็นกอบเป็นกำ แต่ก็แลกมาไม่ได้
มีจิตสังหารแพร่กระจายออกมาจากตัวชายหน้ากากเหล็กดำ จิตสังหารของเขาไม่ได้มุ่งเป้าไปที่หลัวซิว แต่มุ่งไปทางผู้อาวุโสที่ยืนอยู่บนเวทีหินทรงกลม
ในมุมมองของเขา ทั้งสองคนนี้สมควรตาย เคล็ดเซียนผู้สูงส่งรวมไปถึงพลังอมตะของผู้สูงส่งญาณแท้ต่างควรเป็นของเขา!
หลัวซิวสัมผัสจิตสังหารของฝ่ายตรงข้ามได้ตั้งนานแล้ว แต่เขากลับไม่ได้นำมาใส่ใจ ในระยะเวลาหนึ่งปีที่ตระหนักรู้คัมภีร์เต๋าชิงเทียนมา ศักยภาพของเขาได้รับการยกระดับอย่างสังเกตเห็นได้ชัด ต่อให้ฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่ราชาเทพระดับเก้าทั่วไป หากเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้แต่ก็มั่นใจว่าสามารถถดถอยกลับมาได้อย่างปลอดภัย
เขานำเคล็ดเซียนของมหาเทพเสินหวงสลักลงบนม้วนหยกชิ้นหนึ่ง สำเร็จการค้าขายในครั้งนี้ หากฝ่ายตรงข้ามทราบว่าเขาใช้วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์แลกกับเคล็ดเซียนวิชาหนึ่งที่ผู้แกร่งเลิศริเริ่ม เกรงว่าคงต้องดีใจจนน้ำตาไหลพรากเลยสินะ?
ส่วนหลัวซิวก็ได้รับม้วนหยกชิ้นหนึ่งที่มีรอยแตกเช่นกัน ทว่าเขากลับไม่ได้รีบดูพลังอมตะที่อยู่ภายใน โยนเข้าไปในแหวนเก็บของอย่างเรื่อยเปื่อย วางแผนที่จะรอให้สหการค้าในครั้งนี้จบลงก่อน ค่อยกลับไปศึกษาวิจัยดี ๆ
“ข้าว่านะสหายหลัว เจ้าไม่ได้ป่วยจนเป็นบ้าจริง ๆ ใช่ไหม?”
ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนรู้สึกตะลึงงันต่อพฤติกรรมของหลัวซิวไปโดยสิ้นเชิงแล้ว เขาค้นพบว่าขอแค่ตัวเองอยู่พร้อมหลัวซิว เหตุการณ์ทุกครั้งที่เกิดขึ้นก็ล้วนตื่นตาตื่นใจมาก เจ้าหมอนี่ถึงกับใช้เคล็ดเซียนผู้สูงส่งมาแลกกับสิ่งของที่ไม่ค่อยมีมูลค่าเช่นนี้อย่างนั้นหรือ?
“สหายหลัว เจ้าทราบมูลค่าของเคล็ดเซียนผู้สูงส่งหรือไม่? หากเป็นเคล็ดเซียนผู้สูงส่งที่สมบูรณ์ครบถ้วน ก็สามารถแลกกับหินบรรพไท่ชูเป็นร้อยก้อนเลยนะ! หากเป็นเคล็ดเซียนที่ผู้แกร่งเลิศริเริ่ม มูลค่าของมันก็ยิ่งสูงจนน่าทึ่งเลยทีเดียว!”ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนกัดฟันพูด
เขารู้อยู่ว่าหลัวซิวเป็นร่างที่ไท่ซ่างผู้สูงส่งกลับชาติมาเกิด เนื่องจากเรื่องนี้มันไม่ใช่ความลับอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เขาแค่รู้สึกว่าการที่หลัวซิวใช้เคล็ดเซียนผู้สูงส่งวิชาหนึ่งไปแลกกับวิญญาณอมตะนั้น มันเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่ามาก ๆ
“เจ้าคิดว่าข้าจะโง่เหมือนเจ้าหรือที่จักนำเคล็ดเซียนผู้สูงส่งที่สมบูรณ์ครบถ้วนไปค้าขาย?”
หลัวซิวมองลิ่งฮู๋จื่อเซวียนด้วยสายตาที่เหมือนมองคนปัญญาอ่อน เขาไม่มีทางไม่รู้มูลค่าของเคล็ดเซียนผู้สูงส่งที่สมบูรณ์ครบถ้วนอยู่แล้ว เคล็ดเซียนของมหาเทพเสินหวงที่เขาสลักลงไปในม้วนหยกไม่มีทางใช่เคล็ดเซียนที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว มากสุดแค่สามารถฝึกถึงแดนจักรพรรดิเทพระดับเก้า
มาตรแม้นว่าเป็นเช่นนี้ มูลค่าของมันก็อยู่เหนือวิญญาณอมตะที่ขาดตกบกพร่องแน่นอน
และหลังจากผู้อาวุโสชุดคลุมยาวขาวนั่นได้รับม้วนหยกแล้ว สิ่งแรกที่เขาทำก็คือทำการตรวจสอบ ฝ่ายตรงข้ามต้องสังเกตเห็นส่วนที่ขาดหายไปของเคล็ดเซียนผู้สูงส่งอยู่แล้ว แต่ก็ยังเลือกที่จะสิ้นสุดการค้าขายอยู่ดี นี่จะแสดงให้เห็นถึงคำตอบของเขา
ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนอ้าปากค้าง อันที่จริงเขาก็รู้สึกหวั่นไหวต่อเคล็ดเซียนผู้สูงส่งมากเช่นกัน แต่เขาก็รู้อยู่ว่าจากความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองและหลัวซิว ยังไม่ได้ดีถึงขั้นที่สามารถได้รับเคล็ดเซียนผู้สูงส่งที่สมบูรณ์ครบถ้วนมาจากมือฝ่ายตรงข้าม
หากไม่ใช่เคล็ดเซียนผู้สูงส่งที่สมบูรณ์ครบถ้วน มันก็ไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อตระกูลลิ่งฮู๋มากเท่าไหร่นัก เนื่องจากเดิมทีวรยุทธ์ที่เป็นการถ่ายทอดสืบสานของตระกูลลิ่งฮู๋ก็เป็นเคล็ดเซียนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสุดยอดอยู่แล้ว ซึ่งเป็นรองเพียงเคล็ดเซียนผู้สูงส่ง
หรือจะพูดอีกอย่างว่าแม้นจะได้รับเคล็ดเซียนผู้สูงส่งที่สมบูรณ์ครบถ้วน เมื่อลงมือฝึกอย่างแท้จริงแล้ว ใช่ว่าประสิทธิผลจะสามารถเทียบเคียงกับวรยุทธ์ของตระกูลลิ่งฮู๋ได้เสมอไป เนื่องจากวรยุทธ์ที่บรรพบุรุษตระกูลลิ่งฮู๋ริเริ่มนั้น ย่อมต้องเหมาะสมกับคนรุ่นหลังของตระกูลลิ่งฮู๋อยู่แล้ว
ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนมีความคิดอย่างไรนั้น เพียงแวบเดียวหลัวซิวก็มองทะลุแล้ว ก่อนที่เขาจะยิ้มพลางพูด: “สติปัญญาของลิ่งฮู๋ไม่เลว ซึ่งข้าก็เคยเห็นเคล็ดเซียนที่เขาริเริ่มเช่นกัน มีศักยภาพที่สามารถขุดคุ้ยได้อีกสูงมาก หากอนาคตเมื่อเจ้าฝึกถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับเก้า ขอแค่สามารถหลุดพ้นจากการพันธนาการของวรยุทธ์ แล้วเดินบนเส้นทางที่เป็นของตนเอง เช่นนั้นเจ้าก็มีโอกาสก้าวเข้าสู่แดนผู้สูงส่งได้เช่นกัน”
“ขอบพระคุณสำหรับคำชี้แนะของสหายหลัวอย่างยิ่ง!”ในเมื่อลิ่งฮู๋จื่อเซวียนทราบความเป็นมาของหลัวซิวแล้ว เขาจะยังไม่เข้าใจได้อย่างไรว่าหลัวซิวกำลังชี้แนะให้เขาว่าอย่าหมกมุ่นอยู่กับระดับความสูงต่ำของวรยุทธ์ จุดที่เป็นกุญแจสำคัญคือจักสามารถหลุดพ้นจากการพันธนาการของวรยุทธ์ได้หรือไม่ แล้วริเริ่มเดินบนวิถีเส้นทางที่เป็นของตนเอง
หากอยากบรรลุเป็นผู้สูงส่ง แค่ฝึกวรยุทธ์ที่คนรุ่นก่อนริเริ่มนั้นมันไม่มีประโยชน์ ต่อให้สิ่งที่เจ้าฝึกเป็นเคล็ดเซียนผู้สูงส่ง ตลอดจนเคล็ดเซียนระดับประมุขเต๋า หากไม่สามารถเดินบนวิถีเส้นทางของตนเอง ก็ไม่สามารถบรรลุเป็นผู้สูงส่งได้เช่นกัน จำเป็นต้องเดินบนวิถีเส้นทางที่เป็นของตนเองภายใต้พื้นฐานวิถีเส้นทางของคนรุ่นก่อน ถึงจะเป็นวรยุทธ์ที่เป็นหนึ่งของผู้สูงส่ง ซึ่งนี่ก็เป็นประสบการณ์หนึ่งของหลัวซิวที่เคยฝึกถึงแดนผู้สูงส่งเมื่อชาติปางก่อน
เพียงชั่วพริบตาเดียว สหการค้าก็ดำเนินการต่อไปอีกนานมาก ๆ คนนับร้อยนำสมบัติที่ตนคิดว่ามีมูลค่าออกมา ทำให้บรรยากาศในสหการค้าคึกคักอย่างยิ่ง
และจากสหการค้าในครั้งนี้ หลัวซิวก็ถูกผู้แข็งแกร่งจับตามองไม่น้อยเลย อย่างไรเสียเขาเป็นจอมยุทธ์เทพมารระดับแปดคนหนึ่งที่สามารถควักกรองแก้วโลหิตนับสิบล้านก้อนออกมาไม่ว่า แต่ยังสามารถหยิบเคล็ดเซียนผู้สูงส่งออกมาได้อีกด้วย ต่อให้เป็นคนที่ซื่อบื้อมากเพียงใด ก็สามารถดูออกอยู่ว่าเจ้าหมอนี่ต้องเป็นคนรวยแน่นอน
ขอแค่มาเข้าร่วมสหการค้า ก็จำเป็นต้องนำสมบัติออกมาหนึ่งชิ้น เมื่อมาถึงฝั่งหลัวซิว สิ่งที่เขาหยิบออกมาคือหินตรีภพขนาดใหญ่หนึ่งก้อน
หลัวซิวได้รับหินตรีภพก้อนนี้มาจากหุบเขาหมัวหลัว ครั้นเมื่อแท่นบูชาตรีภพพังทลาย เขาได้ทำการเก็บหินตรีภพที่มีขนาดใหญ่ที่สุดมา ก่อนจะแบ่งให้หนิงหานหลิงส่วนหนึ่ง และในมือเขายังเหลืออีกไม่น้อย
มูลค่าของหินตรีภพเทียบเคียงกับหินสลักตรีภพไม่ได้ แต่เมื่อนำพลังเกณฑ์ตรีภพที่แฝงซ่อนอยู่ภายในมาฝึกตนแล้ว ประสิทธิผลของมันจะดีกว่ากรองแก้วโลหิตเล็กน้อย
แม้หินตรีภพขนาดใหญ่ก้อนนี้จะทำให้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกตะลึง ทว่าก็ไม่ได้รับความสนใจมากเท่าไหร่นัก
ทุกอย่างดำเนินการไปตามนี้ กระทั่งสหการค้าสิ้นสุดลง มีสมบัติปรากฏเยอะจนนับไม่ถ้วน ช่วงหลัง ๆ หลัวซิวก็ไม่ได้ประมูลเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...