มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2820

แรงกดอัดที่มากมายมหาศาลยิ่งอยู่ยิ่งเพิ่มมากขึ้น จากการที่ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายยิ่งอยู่ยิ่งใกล้กัน ถึงขั้นมีเสียงแคว็กที่กระดูกกำลังจะแตกหักสะท้อนออกมาจากร่างกายหลัวซิว

นี่ก็คืออำนาจที่น่าเกรงขามของผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับเก้า แม้นจะอยู่กันไกลมาก ๆ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาที่เป็นเทพมารระดับแปดสัมผัสได้ถึงความหวาดหวั่นที่มาจากสัญชาตญาณ หากเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนมาถึงตรงหน้าเขา เกรงว่าไม่ต้องใช้จิต แค่แรงกดดันที่น่ากลัวก็สามารถบดขยี้เขาให้ตายได้แล้ว

เรื่องดำเนินการมาถึงขั้นนี้ หลัวซิวก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน ก่อนที่เขาจะบินไปยังพสุธาห้วงดาราที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกที่ขมุกขมัวตรงหน้าอย่างไม่ลังเลใจ

พสุธาห้วงดาราแห่งนี้อยู่ในส่วนลึกของห้วงดาราโลกสวรรค์ อย่างไรก็ตามหลัวซิวกลับสามารถสัมผัสได้ถึงความพิเศษของพสุธาห้วงดาราแห่งนี้ ดูเหมือนออร่าของเกณฑ์เทียนเต้าล้วนถูกพสุธาห้วงดาราแห่งนี้กีดกันอยู่ภายนอก ทำให้พสุธาห้วงดาราแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ที่เป็นหนึ่งไม่เป็นสองในห้วงดาราแห่งนี้

หลัวซิวไม่ทราบว่าความเป็นมาของพสุธาห้วงดาราแห่งนี้ว่าเป็นอย่างไรกันแน่ ทว่าสัญชาตญาณลาง ๆ กลับบอกกับเขาว่าถ้าเกิดเขาอยากมีชีวิตรอดต่อไปละก็ พสุธาห้วงดาราแห่งนี้ก็จะเป็นที่ไปเพียงหนึ่งเดียวของเขา

ยันต์ค่ายบนตัว บวกกับการปลุกเสกจากพลังเกณฑ์ปริภูมิและความเร็วสองประเภท ทำให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ของหลัวซิวอยู่เหนือขีดจำกัดบางอย่าง ถึงแม้ความเร็วของเขาจะรวดเร็วมาก ๆ แล้ว ทว่า ณ เสี้ยววินาทีที่เขาเข้าไปในพสุธาห้วงดารา มือใหญ่ข้างหนึ่งที่ผนึกมาจากอัสนีเทวสีทองก็ขยำมาทางเขาแล้ว

ในช่วงเวลาที่อันตรายมาก หลัวซิวเรียกเตากลั่นนภาจื่อเซียวออกมา มือใหญ่สีทองตบลงบนเตาเซียนอย่างไร้ความปราณี ก่อนจะมีเสียงดังลั่นที่สะเทือนฟ้าสะเทือนดินระเบิด

พลังอันน่ากลัวที่มากมายมหาศาลจนไม่อาจต้านทานได้เคลื่อนผ่านเตาเซียน ร่างกายของหลัวซิวจึงสูญเสียการควบคุมภายในพริบตา ก่อนจะร่วงหล่นลงบนพสุธาห้วงดาราดั่งอุกกาบาต

“ตู้ม!”

แผ่นดินใหญ่ดังสะเทือนเลื่อนลั่น ร่างกายของหลัวซิวตกเข้าไปในปราณหมอกที่ขมุกขมัว กระแทกเข้ากับพื้นดินจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่

มีเลือดสีแดงสดพุ่งออกมาจากปากเขาอย่างต่อเนื่อง แม้นจะมีเกราะป้องกันจากเตากลั่นนภาจื่อเซียว แต่ผลการฝึกตนของเขาและเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนแตกต่างกันมากเกินไป ฝ่ามือนี้ก็ยังคงทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสอยู่ดี ร่างเนื้อร่างเทวแทบจะแตกสลายแล้ว

กระโดดขึ้นมาจากหลุมลึก หลัวซิวหยิบยาออกมาหนึ่งเม็ดแล้วโยนเข้าปาก ก่อนจะหลบหนีต่ออย่างไม่ลังเลใจ เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าทันทีที่ตกเข้าไปในเงื้อมมือเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียน ผลลัพธ์ที่ตามมาต้องไม่ดีแน่นอน

“พสุดารานอกนภา?”

เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนก็เข้ามาในพสุธาห้วงดาราเช่นกัน เมื่อเขาเห็นหลุมลึกบนพื้นดินที่มีฝุ่นตลบฟุ้งไปทั่ว สีหน้าเขาก็หม่นหมองลงไปภายในพริบตา

จากผลการฝึกตนมหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับเก้าของเขา ไม่นึกเลยว่าจะไม่สามารถสังหารผู้น้อยเทพมารระดับแปดคนหนึ่งภายในกระบวนท่าเดียวได้อย่างนั้นหรือ สำหรับเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนแล้ว นี่ไม่ต่างอะไรจากเรื่องอับอายเรื่องหนึ่งเลย หากเรื่องประเภทนี้แพร่งพรายถึงหูเจ้าศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ต้องมีคนหัวเราะเยาะว่าเขาไร้ความสามารถแน่นอน

เมื่อพูดตามหลักแล้ว จากตัวตนของเขายังไม่ถึงขั้นต้องลงมือต่อหลัวซิวด้วยตนเอง สาเหตุที่เขาลงมือด้วยตนเองนั้น เป็นเพราะเขาทราบความลับอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นความลับที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้สืบทอดหอคอยฮวง!

ครั้นเมื่ออยู่ในการฝึกฝนในหอคอยฮวง มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ทราบเรื่องนี้ คนหนึ่งคือผู้สืบทอดแห่งวังชิงเทียน นักพรตชิงชาน ส่วนอีกคนหนึ่งคือผู้สืบทอดของตระกูลหงแห่งโลกท่วมท้น หงหู

นักพรตชิงชานถูกหลัวซิวกำจัดทิ้งในหอคอยนภากาศตั้งนานแล้ว สาเหตุที่ความลับดังกล่าวตกอยู่ในเงื้อมมือเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนย่อมต้องมาจากหงบูอยู่แล้ว ในส่วนของเรื่องที่ว่าเหตุใดหงบูจึงต้องนำความลับที่สำคัญเช่นนี้บอกเล่าให้เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนฟังนั้น เขาก็ไม่อาจคาดเดาได้แล้วล่ะ

ตอนแรกเริ่มตัวตนของหลัวซิวยังไม่ถูกเปิดเผย เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนย่อมไม่มีเหตุผลในการลงมืออยู่แล้ว ทว่าหลังจากออกมาจากสถานแหล่งเต๋า ก็มีคนบอกความเป็นมาของเขาออกมา บวกกับสิงเทียนก็เสียเปรียบอยู่ในเงื้อมมือหลัวซิวเช่นกัน ดังนั้นเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนจึงมีข้ออ้างในการลงมือ

ความเร็วในการวิ่งของหลัวซิวรวดเร็วมาก และสาเหตุที่เป็นการวิ่งแต่ไม่ใช่การบินหนีนั้น เป็นเพราะหลังจากเข้ามาในพสุธาห้วงดาราแห่งนี้แล้ว หลัวซิวก็พบว่าตัวเองสูญเสียการสัมผัสและกระแสสัมผัสที่มีต่อเกณฑ์เทียนเต้า

ซึ่งเป็นเฉกเช่นเดียวกันกับครั้งแรกที่เขาสัมผัสได้ พสุธาห้วงดาราแห่งนี้กีดกันกฎเกณฑ์ทั้งปวงของเทียนเต้า ดูเหมือนในฟ้าดินของพสุธาห้วงดาราแห่งนี้จะมีกฎเกณฑ์พิเศษประเภทหนึ่ง นอกเหนือจากกฎเกณฑ์พิเศษประเภทนี้แล้ว พลังทั้งปวงที่อยู่ในนี้ล้วนจะถูกกดอัดและกีดกัน

หลัวซิวเป็นเช่นนี้ เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนที่แข็งแกร่งก็เป็นเฉกเช่นเดียวกัน เขาที่อยู่ในนี้ก็ไม่สามารถใช้พลังแห่งสิงเทียนของตัวเองได้เช่นกัน

แต่ว่าหลัวซิวยังไม่ทันได้รู้สึกดีใจเพราะเรื่องนี้ เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนก็ไล่ตามมาด้วยความเร็วที่น่ากลัวอย่างยิ่ง

หลัวซิวหันหน้ากลับไปมอง มีเสียงแผ่นดินที่ดังสะเทือนเลื่อนลั่นสะท้อนมา ความเร็วในการวิ่งของเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนเร็วปานสายฟ้า เกิดเป็นร่องลึกที่มองไม่เห็นสุดขอบปลายทางอยู่ด้านหลังเขา

ในฐานะที่เป็นผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับเก้า และเป็นเจ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งวังสิงเทียนอีก เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนย่อมต้องเป็นผู้แข็งแกร่งฝึกคู่ร่างเวทย์อยู่แล้ว เขาไม่เพียงมีผลการฝึกตนที่บรรลุถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับเก้า ร่างเนื้อร่างเทวของเขาก็บรรลุถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับเก้าเช่นกัน

อย่างไรเสียผู้แข็งแกร่งที่สามารถฝึกถึงระดับขั้นของมหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับเก้าได้นั้น ทุกคนล้วนเป็นอัจฉริยะไร้เทียมทาน ซึ่งไม่มีทางแค่ยกระดับผลการฝึกตนแล้วมองข้ามการชุบร่างเนื้อ สามารถพูดได้เลยว่ารากฐานของทุกคนล้วนแข็งขันมากถึงมากที่สุด

เมื่อพูดถึงร่างเนื้อ ระหว่างหลัวซิวและเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนก็ยังแตกต่างกันมากอยู่ดี อ้างอิงจากสถานการณ์เช่นนี้ เกรงว่าใช้เวลาไม่ถึงสามสิบนาที เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนก็จะไล่ตามทันแล้ว

แต่หลัวซิวก็ใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว ใช้จิตนึกคิดทีหนึ่ง กงล้อเทพไร้ลักษณ์ก็ปรากฏหลังศีรษะเขา วิถีทั้งปวงในหมื่นจักรวาลล้วนถูกกีดกันไม่สามารถใช้สอยเมื่ออยู่ในพสุธาห้วงดาราแห่งนี้ แต่วิถีไร้ลักษณ์กลับไม่ถูกจำกัดที่นี่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ