มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2822

เกณฑ์ฟ้าดินแห่งนี้มีกฎทวยเทพธรรมของดาราจักรวาลอื่นปนอยู่ด้วย ณ เสี้ยววินาทีที่ถูกคุกวารีกักขัง หลัวซิวก็โคจรพลังอย่างสุดกำลังสามารถ หวังจะหลุดพ้นออกไปจากที่นี่ แต่กลับได้รับผลกระทบจากพลังแห่งเกณธ์ธาตุน้ำ การโคจรพลังของเขาทำได้ยากมาก จากศักยภาพทั้งหมด 12 ส่วน พลังที่ปลดปล่อยออกมาได้กลับมีไม่ถึงหนึ่งส่วน จึงหลุดพ้นออกไปจากสถานการณ์นี้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ 

“โฮกก!”

เสียงคำรามที่ต่ำทุ้มดังมาจากส่วนก้นของทะเลสาบ หลัวซิวที่อยู่ภายในคุกวารีมองเห็นปากใหญ่ที่กำลังอ้ากว้าง เขี้ยวอันแหลมคมและน่ากลัวในปากใหญ่ดูน่าสยดสยองอย่างยิ่ง 

เห็นได้ชัดเจนเลยว่าทะเลสาบที่ดูเงียบสงบแห่งนี้มีความอันตรายซุกซ่อนอยู่ มีอสูรโหดที่น่ากลัวนอนจำศีลอยู่ที่นี่ เนื่องจากไม่คุ้นเคยกับกฎธรรมของพสุธาห้วงดาราแห่งนี้ ดังนั้นหลัวซิวจึงไม่สามารถค้นพบล่วงหน้าได้เลยด้วยซ้ำว่าที่นี่มีความอันตรายซุกซ่อนอยู่ 

เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนเห็นว่าหลัวซิวถูกขังอยู่ในคุกวารี จึงมีรอยยิ้มที่เยือกเย็นปรากฏบนใบหน้าทันที ทว่าเมื่อเขามองเห็นอสูรโหดที่หลบซ่อนอยู่ในทะเลสาบ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปกะทันหัน

เขาย่อมไม่มีทางมองดูหลัวซิวถูกอสูรโหดกลืนกินต่อหน้าต่อตาอยู่แล้ว มิเช่นนั้นละก็ ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมานี้ของเขาก็สูญเปล่าแล้วล่ะ ไม่ว่าจะใช้อุบายอะไร เขาก็ต้องได้รับความลับที่อยู่บนตัวหลัวซิวให้ได้ 

“มังกรสายฟ้าถล่ม!”

เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนตะคอกเสียงดังลั่นคำหนึ่ง ก่อนจะมีแสงอัสนีสีทองเป็นประกายระยิบระยับอยู่รอบกาย อย่างไรเสียเขาก็เป็นผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับเก้า ตลอดช่วงเวลาสามปีที่เข้ามาในพสุดารานอกนภา เขาก็เริ่มคุ้นชินกับเกณฑ์ฟ้าดินของสถานที่แห่งนี้แล้ว สามารถปลดปล่อยพลังอัสนีเทวทัณฑ์สวรรค์ออกมาได้ส่วนหนึ่ง 

แสงอัสนีสีทองผนึกรวมกันอย่างต่อเนื่อง แล้วกลายเป็นมังกรอัสนีตัวหนึ่ง แม้นหลัวซิวจะอยู่ภายในคุกวารี แต่ก็สามารถสัมผัสได้เช่นกันว่าพลังอมตะที่เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนปลดปล่อยออกมานี้ มีพลานุภาพเพียงพอที่จะสามารถสังหารราชาเทพระดับเก้าช่วงปลายได้แล้ว

นี่จึงทำให้เขาเข้าใจขึ้นมาทันทีว่า หลังจากเข้ามาในพสุธาห้วงดาราแห่งนี้แล้ว ไม่เพียงผลการฝึกตนศักยภาพของเขาได้รับการฟื้นฟู เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนก็เป็นเฉกเช่นเดียวกัน ข้อได้เปรียบเพียงหนึ่งเดียวของเขาก็คือการอนุมานและวิวัฒนาการของวิถีไร้ลักษณ์ ทำให้เขาฟื้นฟูได้เร็วกว่าเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียน

“ตู้มม! ……”

จากการที่มีเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้น มังกรอัสนีสีทองก็กระโจนไปทางอสูรโหดที่หลบซ่อนอยู่ด้านล่างทะเลสาบ ทว่ากลับมีพลังดูดกลืนวิญญาณที่มากมายมหาศาลพรั่งพรูออกมาจากปากอสูรโหดที่กำลังอ้ากว้าง มังกรอัสนีสีทองจึงถูกกลืนกินภายในพริบตา

นี่จึงทำให้สีหน้าของเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนเปลี่ยนไปอย่างมาก ไม่ให้เขามีโอกาสได้ถดถอยเลยแม้แต่น้อย ก็มีเสาน้ำที่นับไม่ถ้วนพุ่งยิงขึ้นมาจากทะเลสาบที่มีคลื่นโหดซัดกระหน่ำ เสาน้ำทุกเสาล้วนผนึกรวมกันจนกลายเป็นโซ่ที่แข็งแรง ผนึกฟ้าผนึกดิน

วินาทีต่อไป เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนก็ถูกโซ่น้ำสีฟ้าที่นับไม่ถ้วนพันธนาการไว้อย่างแน่นหนา แม้นศักยภาพของเขาจะฟื้นฟูกลับไปถึงราชาเทพระดับเก้าช่วงปลาย แต่ก็ดิ้นรนออกจากการพันธนาการไม่ได้อยู่ดี 

“ญาณอัสนีทัณฑ์สวรรค์ทลายซะ!”

เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนตะคอกเสียงดังลั่นคำหนึ่ง แสงอัสนีสีทองที่เป็นประกายระยิบระยับอยู่บนตัวเขาเร่าร้อนและรุนแรงมากยิ่งขึ้น โซ่ที่พันธนาการอยู่บนตัวเขาเริ่มแตกเป็นชิ้น ๆ แล้วกลายเป็นเม็ดน้ำที่นับไม่ถ้วนพุ่งยิงออกไปทั่วทุกสารทิศ 

เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว จิตใจหลัวซิวก็ตะลึงงันเล็กน้อย เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนนี่สมกับเป็นหนึ่งในเจ้าเจ้าศักดิ์สิทธิ์วังนภาทั้ง 12 แห่งเผ่าฟ้าจริง ๆ แม้จะอยู่ในสภาวะที่ศักยภาพผลการฝึกตนถูกกดอัดลดฮวบ เขาก็ยังมีอุบายและไพ่เด็ดที่ทรงพลังอยู่เยอะมาก

หลังจากหลุดพ้นจากการพันธนาการของโซ่เกณฑ์ธาตุน้ำแล้ว เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนก็ถอยหลังกลับไปด้วยความเร็วที่รวดเร็วที่สุด อสูรโหดสีดำที่เหมือนดั่งจระเข้ตัวหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากก้นทะเลสาบ แล้วพุ่งตรงไปทางเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนโดยตรง 

เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ หลัวซิวรู้สึกดีใจมาก อสูรโหดก้นทะเลสาบได้หมายตาเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนเอาไว้แล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้เขาก็มีโอกาสหลุดรอดออกไปจากที่นี่ได้แล้วล่ะ 

อสูรโหดก็มีสติปัญญาที่แน่นอนเช่นกัน สำหรับอสูรโหดตัวนี้ หลัวซิวที่ถูกคุกวารีต้องห้ามกักขังไม่มีภัยคุกคามใด ๆ ต่อมันแล้ว เป็นเพียงอาหารที่ตนสามารถกลืนกินได้ตลอดเวลา จึงมองข้ามหลัวซิวไปโดยปริยาย นำความสนใจทั้งหมดเพ่งเล็งทางเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนที่คิดจะหลบหนี

สำหรับอสูรโหดแล้ว พวกมันจะไม่ยอมปล่อยให้อาหารที่ส่งมาถึงปากหลุดรอดไปได้ 

“ไอ้เดรัจฉาน!”

ลำตัวของอสูรโหดใหญ่โตมโหฬาร ภายนอกดูงุ่มง่ามทว่าความเร็วกลับรวดเร็วอย่างยิ่ง อีกทั้งอสูรโหดตัวนี้ใช้ชีวิตอยู่ในพสุธาห้วงดาราแห่งนี้มาตลอดทั้งปี เกณฑ์ฟ้าดินของที่นี่จึงไม่กีดกันและกดอัดมันเลยแม้แต่น้อย 

เมื่อเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนเห็นว่าไม่สามารถหลุดพ้นออกไปจากที่นี่ได้ จึงทำได้เพียงต่อสู้กับอสูรโหดตะเข้ ง้าวฟางเทียนฮว่าสีทองเล่มหนึ่งปรากฏในมือเขา และมีออร่าน่ากลัวที่สามารถทำให้ผู้คนใจสั่นแพร่กระจายออกมา

ง้าวยุทธ์สีทองเล่มนี้ก็คืออาวุธเทพชีวีของเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนนั่นเอง ซึ่งบรรลุเป็นอาวุธจักรวรรดิเลิศล้ำแล้ว มาตรแม้นว่าอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ศักยภาพผลการฝึกตนถูกกดอัดจนลดฮวบ พลานุภาพของอาวุธเช่นนี้ก็ยังน่าสยดสยองอยู่เช่นเคย 

“ฟึ่บ!”

เมื่อกวัดแกว่งง้าวยุทธ์สีทอง มันก็เหมือนดั่งสายฟ้าสายหนึ่งกรีดผ่านอนัตตา เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดเป็นวงกว้าง ท่ามกลางเสียงคำรามและกรีดร้องของอสูรโหดตะเข้ เท้าข้างหนึ่งของมันก็ถูกง้าวยุทธ์ตัดลงมาโดยตรง

ขณะที่เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนตัดเท้าของอสูรโหดตัวนี้ลงมา ก็มีหางสีดำที่เหมือนดังสิ่งปลูกสร้างที่ทำมาจากเหล็กกล้าฟาดมา เสียงปั้งดังขึ้น ปริภูมิถูกฟาดจนพังทลายแตกสลาย ร่างกายของเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนจึงกระเด็นออกไปคาที่ และมีเสียงกระดูกแตกหักสะท้อนออกมาจากร่างกาย

เมื่ออยู่ในพสุดารานอกนภา ร่างยุทธ์มหาจักรพรรดิยุทธ์ของเขาก็ถูกกดอัดเช่นกัน พลังป้องกันและความแข็งแกร่งของเลือดเนื้อโครงกระดูก แค่เทียบเท่าราชาเทพระดับเก้าเท่านั้น

เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนโกรธเกรี้ยวอย่างยิ่ง ในฐานะที่เป็นผู้แข็งแกร่งเจ้าศักดิ์สิทธิ์มหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับเก้า การที่ใช้เวลาสามปีแล้วยังไม่สามารถสังหารเทพมารระดับแปดคนหนึ่งก็ทำให้เขารู้สึกอัดอั้นตันใจมามากพอแล้ว บัดนี้ไม่นึกเลยว่าจะยังถูกอสูรโหดที่เหมือนดั่งมดตัวจ้อยตัวหนึ่งโจมตีจนบาดเจ็บอีก ไฟโกรธที่ล้นฟ้าทำให้เส้นผมสีทองของเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนสยายปลิวลอยอยู่ด้านหลัง 

“กงล้อเทพทัณฑ์สวรรค์!”

เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนตะคอกเสียงดังลั่น ถัดจากนั้นก็มีกงล้อเทพทั้งหลายปรากฏหลังศีรษะเขาอย่างต่อเนื่อง กงล้อเทพที่เขาผนึกรวมออกมาได้มีทั้งหมดเก้าวง ซึ่งหมายความว่าแดนของเขาอยู่ที่ระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อ ซึ่งแข็งแกร่งกว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อมาก!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ