มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2823

“เกณฑ์ห้วงเวลา!”

เมื่อเห็นอุบายที่หลัวซิวปลดปล่อยออกมา ก็มีรังสีแห่งความตะลึงทะลุออกมาจากสายตาของชายหนุ่มร่างยักษ์นั่น

เดิมทีเขานึกว่าหมอนี่เป็นพวกเดียวกันกับฆาตกรที่สังหารตะเข้กาฬ ทว่าเมื่อเขาเห็นเกณฑ์ที่ชายหนุ่มชุดคลุมยาวดำนั่นปลดปล่อยออกมา เขาก็รู้แล้วว่าคนดังกล่าวก็เป็นจอมยุทธ์บนพสุดารานอกนภาเช่นกัน 

เพราะในเกณฑ์พลังเต๋าที่จอมยุทธ์ในพสุดารานอกนภาปลดปล่อยออกมาจะมีออร่าพิเศษชนิดหนึ่ง

ขณะที่ลงมือ หลัวซิวก็สังเกตชายหนุ่มร่างยักษ์อยู่ตลอดเวลา เมื่อเขาเห็นสีหน้าของฝ่ายตรงข้าม เขาก็ทราบแล้วว่าตนบรรลุเป้าหมายแล้ว ฝ่ายตรงข้ามไม่มีทางคิดได้เลยด้วยซ้ำว่าตนอาศัยเกณฑ์ไร้ลักษณ์ วิวัฒนาการออร่าเกณฑ์พลังเต๋าที่เป็นเอกลักษณ์ของพสุธาห้วงดาราแห่งนี้ออกมา

แม้นเกณฑ์ห้วงเวลาจะล้ำลึก แต่เมื่อช่วงระยะความแตกของศักยภาพแตกต่างกันมากเกินไป ประสิทธิผลของมันก็เล็กน้อยมากเช่นกัน เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนถูกคุมขังเพียงเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น ต่อมาง้าวเทวทัณฑ์สวรรค์ของเขาก็ฉีกกระชากการคุมขังและกรงโทษของห้วงเวลา 

เสี้ยววินาทีหนึ่งสั้นเกินไป สั้นถึงขั้นที่ทำให้หลัวซิวและชายหนุ่มร่างยักษ์ไม่มีโอกาสที่จะลงมือโจมตีได้เลยด้วยซ้ำ 

“เจ้ามาถ่วงเวลามันไว้!”หลัวซิวใช้ตัวสำนึกส่งเสียงพูดกับชายหนุ่มร่างยักษ์

“ได้เลย!”

ชายหนุ่มร่างยักษ์ตอบกลับได้เด็ดเดี่ยวมาก จากนั้นเขาก็พุ่งสังหารเข้าไปพร้อมกับดาบยุทธ์ พลังอมตะทั้งหลายถูกปลดปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง รัศมีดาบที่นับไม่ถ้วนทำให้เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนทำได้เพียงต้านทานอย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งหาจังหวะลงมือจัดการหลัวซิวไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

และในเวลานี้เอง จู่ ๆ ตรงหว่างคิ้วของหลัวซิวก็แยกออก เตากลั่นนภาจื่อเซียวหมุนติ้วออกมา ภายใต้การปลุกเสกจากเกณฑ์ปริภูมิ เตาเซียนจึงหายไปภายในพริบตา ก่อนจะปรากฏด้านหลังเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนในวินาทีต่อไป 

“แย่แล้ว!”

มีพลังดูดกลืนวิญญาณส่งตรงมาจากด้านหลัง ทำให้สีหน้าของเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนเปลี่ยนไปทันที ทว่ากลับไม่ทันได้ตอบสนองเลย ก็ถูกเตาเซียนดูดเข้าไปภายในพริบตา

“กวง!”

ปิดผนึกฝาเตา เสียงระเบิดที่ดังสะเทือนเลื่อนลั่นสะท้อนออกมาจากเตาเซียนอย่างไม่หยุดหย่อน ฝาของเตาเซียนสั่นเทิ้มอย่างต่อเนื่อง เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนที่อยู่ด้านในอยากพุ่งสังหารออกมา

“สยบ!”

เงาร่างของหลัวซิวร่วงลงบนฝาเตาเซียน ร่างเนื้อของเขาเคยดูดกลืนแก่นสารสมบัติมาเป็นจำนวนมาก แค่น้ำหนักของร่างเนื้อก็น่าสยดสยองอย่างยิ่งแล้ว อีกทั้งเขาใช้ธรรมเวชกาลร้างปลุกเสกร่างตน ทำให้ร่างกายเขาเหมือนดังหอคอยเทวหลังหนึ่งที่สามารถกดอัดทุกสรรพสิ่ง

อย่างไรก็ตามฝาของเตาเซียนก็ยังคงสั่นเทิ้มอย่างไม่หยุดหย่อน นี่จึงทำให้สีหน้าของหลัวซิวขาวซีดเล็กน้อย เห็นได้ชัดเจนเลยว่าจากศักยภาพ ณ ปัจจุบันของเขา การที่จะสยบผนึกเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายแต่อย่างใด 

“อัสนีคลั่ง! โกรธาทัณฑ์สวรรค์!”

ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงตะคอกที่โกรธเกรี้ยวสะท้อนออกมาจากเตาเซียน เพียงพริบตาเดียวก็มีพลังที่มากมายมหาศาลปะทุออกมา ทำให้ฝาของเตาเซียนและร่างกายหลัวซิวดีดกระเด็นออกไปพร้อมกัน 

มีแสงอัสนีสีทองดวงหนึ่งบินออกมาจากเตาเซียน และแผ่นฟ้าก็ย้อมเต็มไปด้วยคราบเลือด ก่อนที่แสงอัสนีนั่นจะหายไปจากขอบฟ้าที่อยู่ห่างไกลออกไปภายในพริบตา  

“อั่ก!”

หลัวซิวกระอักเลือดเฮือกหนึ่ง ใบหน้าขาวซีดปานกระดาษ เขาทุ่มสุดกำลังสามารถแล้ว แต่ก็ไม่สามารถกดอัดเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนเอาไว้ได้อยู่ดี

แต่เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนก็น่าจะไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่นัก เขาต้องใช้เคล็ดวิชาบางอย่างที่ผลการฝึกตน ณ ปัจจุบันยังยากที่จะกระตุ้นได้แน่นอน ดังนั้นหลังจากเขาหลุดพ้นออกมาจากเตาเซียนจึงไม่ได้โต้กลับ แต่เป็นการเลือกที่จะหลบหนีจากไปอย่างรวดเร็ว 

สามารถพูดได้เลยว่าตอนนี้วินาทีนี้ เป็นช่วงเวลาที่เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนอ่อนแอมากที่สุด แต่ตัวหลัวซิวเองก็บาดเจ็บสาหัสเช่นกัน จึงไม่สามารถไล่ล่าตามไป 

“น้องชาย เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

ชายหนุ่มร่างยักษ์เดินมาข้างกายหลัวซิว ก่อนจะพลิกมือหยิบยาออกมาหนึ่งเม็ดแล้วยื่นให้หลัวซิวพลางพูด: “นี่คือยาเซียนรักษาตัว เจ้ารีบกินมันลงไปก่อน”

หลัวซิวมองเห็นเจตนาดีจากแววตาของฝ่ายตรงข้าม เขาเชื่อมั่นความสามารถในการประเมินคนของตนเอง ดังนั้นจึงรับยามาแล้วกลืนลงท้องไปอย่างไม่ลังเลใจ 

มีฤทธิ์ยาหนึ่งแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย ทำให้หลัวซิวสัมผัสได้ทันทีว่าสภาพอาการบาดเจ็บของตัวเองกำลังฟื้นฟูดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันเขาก็ค้นพบเช่นกันว่ายาที่เขากินสอดคล้องกับเกณฑ์ฟ้าดินแห่งนี้ หากเป็นยาที่เขากลั่นได้ในโลกาภายนอก เมื่อนำมันมาใช้ที่นี่ก็แทบจะไม่มีประสิทธิผลใด ๆ เลย

หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง สภาพอาการบาดเจ็บของหลัวซิวเริ่มดีขึ้น เตากลั่นนภาจื่อเซียวก็ถูกเขาเก็บเข้าไปในตัวหยั่งรู้เช่นกัน 

“น้องชายเจ้าเก่งกาจมากเลยนะ ข้าเห็นว่าผลการฝึกตนของเจ้าเป็นเพียงเทพมารระดับแปด ไม่นึกเลยว่าแทบจะสามารถสังหารผู้แข็งแกร่งที่มาจากโลกาภายนอกนั่นได้แล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ