เมื่อได้ยินคำพูดของหลัวซิว สีหน้าอารมณ์ของชายชุดขาวนั่นก็ดูผงะเล็กน้อย ต่อมาก็มีรังสีแห่งความโกรธปรากฏบนใบหน้า แสยะยิ้มอย่างเยือกเย็นแล้วพูด: “ช่างเป็นผู้น้อยที่โอหังยิ่งนัก สหายสิง โลกมหาศักดิ์ทั้งแปดของพวกเจ้ามีพวกที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเช่นนี้อุบัติขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
คนดังกล่าวคำก็บอกว่าโลกมหาศักดิ์ทั้งแปดของพวกเจ้า สองคำก็บอกว่าโลกมหาศักดิ์ทั้งแปดของพวกเจ้า นี่จึงทำให้หลัวซิวรู้สึกตะลึงและสงสัยอย่างอดไม่ได้ และมีการคาดคะเนลาง ๆ ในใจ
“มึงไม่ใช่จอมยุทธ์จากโลกมหาศักดิ์ทั้งแปดของเราหรือ?”หลัวซิวถามหยั่งเชิง
“ดูท่ามึงไม่เพียงเป็นผู้น้อยที่โอหังอย่างเดียวเท่านั้น ยังเป็นพวกบ้านนอกคอกนาที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย อย่าบอกนะว่ามึงคิดว่าในดาราจักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้ มีเพียงโลกมหาศักดิ์ทั้งแปดรวมไปถึงสรรพโลกที่ระดับต่ำกว่า?”
ชายชุดขาวยิ้มเยาะ แล้วพูดด้วยสีหน้าอารมณ์ที่หยิ่งยโส “โลกมหาศักดิ์ทั้งแปดเป็นเพียงส่วนหนึ่งของดาราจักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาลเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นคือสามารถพูดได้เลยว่าสรรพโลกที่มีโลกมหาศักดิ์ทั้งแปดเป็นจุดศูนย์กลาง ก็เป็นเพียงส่วนต่อหนึ่งของดาราจักรวาล!”
“จักรพรรดิอย่างกูมาจากโลกาฟ้าดินหลิงหลง ในโลกาฟ้าดินหลิงหลงของเราเปี่ยมไปด้วยอันตรายในความมืดมิดที่อาจมีพยัคฆ์ซุ่มซ่อน มังกรเร้นกาย มีผู้แข็งแกร่งที่นับไม่ถ้วน จากอุบายของจักรพรรดิอย่างกู สามารถบดขยี้มึงให้ตายได้ง่ายดังปอกกล้วยเข้าปากเลยล่ะ!”
นี่ก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่หลัวซิวได้ยินโลกาฟ้าดินหลิงหลง จากคำพูดคำจาของชายชุดขาวสามารถดูออกอยู่ว่าโลกาฟ้าดินหลิงหลงน่าจะเป็นส่วนต่อหนึ่งที่อยู่ในระดับเดียวกันกับโลกมหาศักดิ์ทั้งแปด ยิ่งกว่านั้นคืออาจมีระดับสูงกว่าโลกมหาศักดิ์ทั้งแปดก็เป็นได้!
หลัวซิวหรี่ตาลง แต่เขากลับไม่ได้พัวพันอยู่ที่นี่ต่อ และไม่ได้พูดอะไรมากเช่นกัน ก่อนจะมุ่งหน้าเดินจากไป
จากสถานการณ์ ณ ปัจจุบันของเขา ไม่อยากให้มีเรื่องราวที่ไม่มีความจำเป็นเกิดขึ้นมากเท่าไหร่นัก ต่อให้จะแตกหักและลงไม้ลงมือกับเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียน ก็ต้องรอให้ออกไปจากแดนเซียนนอกนภาก่อนค่อยว่ากันอีกที บัดนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือต้องได้รับโอกาสที่มากกว่า พยายามบรรลุถึงแดนเทพมารระดับเก้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
ขอแค่เขาสามารถบรรลุ ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อหรือมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อ เมื่ออยู่บนพสุดารานอกนภา ขอแค่ไม่สามารถใช้อานุภาพแห่งกงล้อเทพหกวง เช่นนั้นเมื่อตกอยู่ในกำมือเขาก็ไม่ต่างอะไรจากของไร้ประโยชน์ เป็นเพียงขยะที่เปราะบางมากจนไม่อาจทนแรงกระแทกเดียว!
เมื่อเห็นหลัวซิวหันหลังจากไป ก็มีความอาฆาตมาดร้ายปรากฏบนใบหน้าชายชุดขาว ในขณะที่เขากำลังจะลงมืออยู่นั้น แต่กลับถูกเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนห้ามปรามไว้ก่อน ส่ายหน้าแล้วพูด: “สหายยู่เหมิน อย่าริอ่านดูถูกคนดังกล่าวเป็นอันขาด มันดูเหมือนเป็นวัยรุ่นผู้น้อย แท้จริงแล้วกลับเป็นร่างที่ผู้แข็งแกร่งผู้สูงส่งเมื่อหนึ่งยุคตรีภพก่อนกลับชาติมาเกิด มิหนำซ้ำนี่ก็เป็นบุญคุณความแค้นระหว่างข้าและมัน ข้าไม่อยากให้สหายยู่เหมินเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยแต่อย่างใด”
“แค่ร่างผู้สูงส่งกระจอก ๆ กลับชาติมาเกิดเท่านั้นเอง อย่าว่าแต่โลกาฟ้าดินหลิงหลงของเราเลย ต่อให้เป็นโลกมหาศักดิ์ทั้งแปดของพวกเจ้า ตั้งแต่โบราณกาลมาก็มีผู้สูงส่งกลับชาติมาเกิดไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ แต่ในจำนวนผู้แข็งแกร่งทั้งหมดที่กลับชาติมาเกิดก็มีผู้ที่ตายก่อนวัยอันควรเยอะมาก ตลอดจนผู้ที่ไม่สามารถฟื้นฟูผลการฝึกตนในอดีตชาติ ดังนั้นเจ้าไม่มีความจำเป็นต้องเอาคนต่ำต้อยเช่นนั้นมาใส่ใจเลยด้วยซ้ำ”
ชายชุดขาวเบ้ปาก ราวกับในสายตาเขา ผู้ที่มีภูมิฐานกลับชาติมาเกิดเล็กน้อยมากจนไม่มีค่าพอที่จะให้พูดถึงยังไงอย่างนั้น
“แต่ว่าในเมื่อสหหายสิงพูดเช่นนี้แล้ว ข้าย่อมไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยอยู่แล้ว”ชายชุดขาวพูดอย่างไม่รีบไม่ร้อน เขาก็ทราบเช่นกันว่าเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนคือมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อ ในฐานะที่เป็นผู้แข็งแกร่งประเภทนี้ ทุกคนล้วนมีความหยิ่งผยองของตัวเอง การที่ไม่ไปร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอยู่
“ขอบพระคุณอย่างยิ่งที่สหายยู่เหมินเข้าใจ”เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนยิ้มพลางพยักหน้า “ช่วงนี้เจ้าสำนักน้อยแห่งตระกูลเจ้าสบายดีหรือไม่?”
เมื่อพูดถึงเจ้าสำนักน้อย ใบหน้าของชายชุดขาวก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความเคารพน้อมน้อมทันที ก่อนจะตอบกลับว่า: “เจ้าสำนักน้อยของเราย่อมสบายดีอยู่แล้ว อีกทั้งผลการฝึกตนของเจ้าสำนักน้อยบรรลุถึงแดนราชาเทพระดับเก้าตั้งแต่หนึ่งร้อยกว่าปีก่อนแล้ว สหายสิง เจ้าก็น่าจะทราบอยู่ว่าเจ้าสำนักน้อยแตกต่างจากเรา ๆ เจ้าสำนักน้อยฝึกตนหนึ่งร้อยปี ก็แทบจะสามารถเทียบเท่าเราทั้งสองตบะเป็นหมื่นปีตลอดจนล้านปีแล้ว เกรงว่าใช้เวลาอีกไม่กี่ปี เจ้าสำนักน้อยก็น่าจะสามารถบรรลุถึงแดนมกุฎเทพระดับเก้าแล้ว”
“เซียนนอกนภาเป็นผู้แข็งแกร่งที่เก่าแก่อย่างยิ่ง เล่ากันว่าเขาประสบความสำเร็จบนวิถีเซียนแล้ว ครั้งนี้ข้าก็ได้รับคำสั่งจากเจ้าสำนักน้อยเพื่อมาสำรวจพสุดารานอกนภาเช่นกัน หากที่นี่มีการถ่ายทอดสืบสานของเซียนคงอยู่จริง ๆ ไม่แน่เจ้าสำนักน้อยก็อาจจะเดินทางมาด้วยตนเองหนึ่งเที่ยว”
ในฐานะที่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อคนหนึ่ง เมื่อมองในมุมโลกมหาศักดิ์ทั้งแปด ก็ถือเป็นผู้แข็งแกร่งที่หาพบได้ยากมากแล้ว
อย่างไรก็ตามผู้แข็งแกร่งเช่นนี้กลับเลื่อมใสและเคารพในตัวชายหนุ่มที่เพิ่งบรรลุสู่แดนราชาเทพระดับเก้าคนหนึ่งมาก ๆ เช่นนั้นเจ้าสำนักน้อยที่พวกเขากล่าวถึงนั้น ต้องเป็นผู้ที่มีภูมิหลังน่าสยดสยองอย่างยิ่งแน่นอน
แต่เจ้าสำนักน้อยนั่นใช้เวลาเพียงร้อยกว่าปี ก็ใกล้จะบรรลุสู่แดนมกุฎเทพระดับเก้าแล้ว ความเร็วในการฝึกตนและพรสวรรค์ปัญญาเช่นนี้ ก็พอจะพูดได้เลยว่าสะเทือนฟ้าสะเทือนมากแล้ว
หลัวซิวไม่ได้อยู่ในตำหนักหงฮวงนานเท่าไหร่นัก จากการที่ผู้แข็งแกร่งจำนวนมากที่อยู่ในนี้ไม่ได้รับดอกผลอะไร ดังนั้นจึงต่างพากันเลือกที่ออกจากที่นี่
ดินแดนนอกนภากว้างใหญ่มาก เดินทางข้ามผ่านกลุ่มตำหนักพระราชวังที่กว้างใหญ่ จากนั้นด้านหน้าก็มีตรีภพโกลาหลที่มโหฬารพันลึกปรากฏเป็นวงกว้าง
ผลการฝึกตนยิ่งสูง แดนยิ่งสูง ก็จะยิ่งสามารถสัมผัสได้ถึงความกว้างใหญ่และความลึกซึ้งที่ไม่อาจคาดเดาได้ของตรีภพโกลาหล
จอมยุทธ์ทั่วไปส่วนมากล้วนคิดว่าวิถีตรีภพไม่แข็งแกร่งเท่ากฎชั้นยอดอย่างการเวียนว่ายตายเกิดและห้วงเวลา ทว่าแท้จริงแล้วสาเหตุที่ทำให้จอมยุทธ์ส่วนมากคิดเช่นนี้นั้น อันที่จริงมันเป็นเพราะวิถีตรีภพฝึกยากเกินไป
ยกตัวอย่างเช่นอัจฉริยะไร้เทียมทานคนหนึ่ง ถ้าเกิดเขาฝึกวิถีห้วงเวลา แค่ต้องใช้เวลาหมื่นปีก็สามารถฝึกถึงแดนเทพมารแล้ว
และถ้าเกิดให้เขาฝึกวิถีตรีภพละก็ ต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานกว่ามาตกตะกอน และยิ่งอาจจะทำให้หยุดอยู่ในแดนใดแดนหนึ่ง ไม่สามารถบรรลุสู่แดนที่สูงยิ่งกว่า
เพราะตรีภพครอบจักรวาล ตำนานเล่ากันว่าทั้งดาราจักรวาลก็กำเนิดและวิวัฒนาการออกมาจากตรีภพโกลาหลนี่แหละ ยิ่งกว่านั้นคือสามารถพูดได้เลยว่ากฎเกณฑ์ต่าง ๆ นานาในจักรวาลฟ้าดิน ล้วนวิวัฒนาการออกมาจากตรีภพ
ตรีภพกำเนิดสรรพสิ่ง และสามารถทำลายสรรพสิ่งได้เช่นกัน ลักษณะพิเศษประเภทนี้ค่อนข้างคล้ายคลึงกับวิถีไร้ลักษณ์ของหลัวซิว แต่ในด้านเนื้อแท้ก็แตกต่างจากวิถีไร้ลักษณ์อยู่
เพราะตรีภพนั้นมีรูปร่าง เป็นการวิวัฒนาการและทำลายอย่างมีรูปร่าง ส่วนไร้ลักษณ์กลับไม่มีรูปร่าง ซึ่งนี่ก็หมายความว่าหากวิถีไร้ลักษณ์ของหลัวซิวสามารถบรรลุถึงแดนที่แน่นอน เช่นนั้นแม้แต่ตรีภพ วิถีไร้ลักษณ์สามารถวิวัฒนาการออกมาได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...