มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2842

พลังอมตะเทียนหย่งสามารถทำให้มิติหนึ่งหยุดนิ่งไปตลอดกาล นอกเสียจากทลายพลังอมตะ มิเช่นนั้นประสิทธิผลของมิติที่หยุดนิ่งตลอดกาลก็จะคงอยู่ตลอดไป

พลังอมตะเช่นนี้พอจะพูดได้เลยว่าเป็นวิชาผนีกตราขั้นสุดยอด แต่ทว่าหากปลดปล่อยใส่คู่ต่อสู้ที่มีศักยภาพสูงกว่าตัวเองมากเกินไปละก็ ประสิทธิผลของมันก็จะเล็กน้อยมากถึงมากที่สุด

แม้เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนจะเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับเก้า ทว่าเนื่องจากถูกกดอัดจากเกณฑ์ฟ้าดินของพสุดารานอกนภา ศักยภาพของเขาจึงเทียบเท่าราชาเทพระดับเก้าขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นการยึดกุมในธรรมเกณฑ์ของพสุดารานอกนภาหรือด้านศักยภาพ เขากลับอ่อนกว่าหลัวซิวที่เพิ่งบรรลุสู่แดนเทพมารระดับเก้าไม่น้อยเลย

ด้วยเหตุนี้เมื่ออยู่ภายใต้การแผ่คลุมจากพลังอมตะเทียนหย่ง เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนไม่มีโอกาสที่จะตอบโต้ได้เลยด้วยซ้ำ แม้นเขาจะมีอุบายรักษาชีวิตซ่อนไว้เยอะมาก แต่เมื่ออยู่ในมิติที่หยุดนิ่ง มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

พลังอมตะเข้าล็อกเดิมที่หลัวซิวริเริ่มวิวัฒนาการจนกลายเป็นแสงเซียนหนึ่งดวง ซึ่งนี่ก็หมายความว่าพลังอมตะดังกล่าวของเขาอยู่เหนือขอบข่ายของพลังอมตะทั่วไปแล้ว แทบจะบรรลุถึงระดับที่สามารถเทียบทัดพลังอมตะวิถีเซียน

อนาคตหากผลการฝึกตนของเขาสามารถบรรลุถึงแดนเซียน เช่นนั้นพลังอมตะเข้าล็อกเดิมของเขาก็จะวิวัฒนาการเป็นพลังอมตะวิถีเซียนที่ทรงพลัง

เพราะนี่เป็นพลังอมตะที่เขาริเริ่มด้วยตนเอง ดังนั้นพลานุภาพที่เขาปลดปล่อยออกมาจึงแข็งแกร่งและชำนาญคล่องแคล่วกว่าตรามหาหัตถ์ราชาเซียน รวมไปถึงพลังอมตะทะยานเซียน

“ฟึ่บ!”

ในมิติที่หยุดนิ่งไปตลอดกาล สายตาของเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนเหม่อลอย ร่างกายขยับไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ยิ่งกว่านั้นแม้แต่ความคิดของเขาก็ได้รับผลกระทบไปด้วย จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงการขัดขืนอะไรเลย

และในฐานะที่หลัวซิวเป็นผู้ปลดปล่อยพลังอมตะ เขาที่อยู่ในมิติที่ถูกปกคลุมโดยพลังอมตะเทียนหย่งจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย

แสงเซียนสาดส่องผ่านไป ทำลายล้างทุกสรรพสิ่ง แม้ร่างยุทธ์ร่างเนื้อของเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนจะแข็งแรงมาก แต่ก็ค่อย ๆ พังทลายลงไปในแสงเซียนอยู่ดี แตกสลายกลายเป็นหมอกเลือดกลุ่มหนึ่ง

หลัวซิวยกมือขึ้นมาขยำทีหนึ่ง แหวนเก็บของของเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนก็ร่วงลงในมือเขา ทั้งยังมีช่องจิตชีวีของผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้ออีกหนึ่งดวง!

“มึง……มึงฆ่าเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนอย่างนั้นหรือ!?”เมื่อซือถูโฉวเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว เขาก็ถลึงตาเบิกตากว้างทันที

แม้นผู้ที่สังหารเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนจะไม่ใช่ตัวเอง ทว่าในฐานะที่เป็นผู้ที่เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนว่าจ้างมาแต่กลับไม่สามารถปกป้องเขาได้ หากวังสิงเทียนตามสืบสวนเรื่องนี้ เขาก็หนีความผิดไม่พ้นแน่นอน

เพียงพริบตาเดียวก็มีความคิดต่าง ๆ นานากระพริบผ่านไปในหัวซือถูโฉว แต่หลัวซิวกลับไม่สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ ร่างกายผันเป็นแสงกลดวงหนึ่งภายในพริบตา ก่อนจะหายไปจากขอบฟ้าภายในเสี้ยววินาที

การที่เขาสามารถสังหารเจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนได้นั้น ดูเหมือนจะทำได้อย่างสบายมือ แท้จริงแล้วเขาได้ปลดปล่อยตราสรรพสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง พลังอมตะอย่างเข้าล็อกเดิม รวมไปถึงพลังอมตะเทียนหย่งก็ทำให้เขาต้องสูญเสียผลการฝึกตนเยอะมากเช่นกัน

ซือถูโฉวคือผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพระดับเก้าช่วงกลาง ภายใต้สถานการณ์ที่ผลการฝึกตนเสียหายอย่างมาก หลัวซิวรู้ตัวเองดีอยู่ว่าตนต่อกรกับซือถูโฉวได้ยากมาก

“อย่าคิดจะหนีนะ!”

ซือถูโฉวตะคอกเสียงดังลั่นแล้วไล่ตามไป หากวางแผนตามสถานการณ์ตรงหน้า สิ่งเดียวที่เขาทำได้ก็คือจับกุมตัวฆาตกรคนนั้น

อย่างไรก็ตามความเร็วของหลัวซิวนั้นรวดเร็วมากเพียงใด ซือถูโฉวไล่ตามออกไปได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น ภายในขอบเขตที่กระแสสัมผัสเขาสามารถสัมผัสได้ ก็ไม่มีคลื่นออร่าของหลัวซิวเลย

……

ในฐานะที่วังสิงเทียนเป็นหนึ่งในการถ่ายทอดสืบสานของ 12 เผ่าฟ้า ซึ่งมีการถ่ายทอดสืบสานที่แข็งแกร่งและเก่าแก่อย่างยิ่ง

ในโลกสวรรค์ สถานที่ตั้งของวังสิงเทียนตั้งอยู่ในสถานที่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอัสนีที่ดุดัน และสถานที่ดังกล่าวก็ถูกเรียกขานว่าแดนต้องห้ามทัณฑ์สวรรค์เช่นกัน

ในอนัตตาของแดนต้องห้ามทัณฑ์สวรรค์ มีกระจกบานหนึ่งที่ผนึกรวมมาจากอัสนีสีทอง กระจกบานดังกล่าวใหญ่มาก ๆ สูงหลายหมื่นเมตร มีคลื่นอำนาจสวรรค์ที่มากมายมหาศาลจนไม่อาจคาดเดาได้แผ่กระจายออกมาจากกระจก

วันนี้ จู่ ๆ ก็มีเสียงที่ดังสะเทือนเลื่อนลั่นดังก้องอยู่กลางนภาสูงของแดนต้องห้ามทัณฑ์สวรรค์ มีสายฟ้าสีแดงเลือดที่ดุดันสายหนึ่งเคลื่อนผ่านขอบฟ้า แล้วผ่าลงบนกระจกเทพหมื่นเมตร

แสงอัสนีสีเลือดปรากฏบนกระจกเทพ ก่อนจะเผยให้เห็นภาพฉากที่เจ้าศักดิ์สิทธิ์สิงเทียนถูกสังหาร

“ชัวะ! ชัวะ! ชัวะ! ……”

เงาดำทั้งหลายที่ถูกปกคลุมอยู่ในรัศมีเทวและอัสนีปรากฏหน้ากระจกเทพหมื่นเมตร ณ เสี้ยววินาทีที่แสงอัสนีสีเลือดนั่นเคลื่อนผ่านขอบฟ้า พวกเขาก็คาดการณ์ล่วงหน้าได้แล้วว่ามีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น

วังสิงเทียนมีการถ่ายทอดสืบสานที่เป็นเคล็ดวิชาวิชาหนึ่ง เมื่อบุคคลสำคัญในวังสิงเทียนดับสลายสูญสิ้น เคล็ดวิชาดังกล่าวจะทำการบันทึกภาพฉากก่อนดับสลายสูญสิ้น ก่อนจะส่งผ่านแสงอัสนีแล้วทำให้ภาพฉากดังกล่าวปรากฏบนกระจกเทพ

บนกระจกเทพ หลัวซิวไม่ได้เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าออร่าของตัวเองแต่อย่างใด เหล่าผู้มีอำนาจแห่งวังสิงเทียนที่มองเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว ล้วนพิโรธมากจนจิตสังหารเดือดพล่าน

“ไม่นึกเลยว่าจะเป็นมัน!”

“คนดังกล่าวคือร่างที่ไท่ซ่างผู้สูงส่งเมื่อหนึ่งยุคตรีภพก่อนกลับชาติมาเกิด”

“ความเป็นมาของมันไม่ค่อยเท่าไหร่ ทว่าครั้นเมื่ออยู่ในเมืองเทพชิงเทียน ชูหวูจี๋เคยลงมือคุ้มครองมัน”

“ไม่ว่ามันจะมีความสัมพันธ์อะไรกับชูหวูจี๋ก็ตาม คนดังกล่าวบังอาจวางแผนลอบสังหารเจ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งวังสิงเทียนของเรา ข้าจักทำให้ร่างและวิญญาณมันดับสูญแน่นอน ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดตลอดไป!”

“เรื่องนี้เปิดเผยมิได้ แม้นจะถูกสังหารอยู่ภายใต้การกดอัดจากเกณฑ์ของพสุดารานอกนภา ทว่าหากเรื่องที่เจ้าศักดิ์สิทธิ์ถูกผู้อื่นสังหารแพร่งพรายออกไป มันต้องส่งผลกระทบต่อความเกรียงไกรของวังสิงเทียนเราไม่น้อยแน่นอน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ