มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2849

“หยาบคาย!”

หลงอวี้ตะลึงงัน สีหน้าดูย่ำแย่อย่างยิ่ง ผู้ที่มีตัวตนอย่างเขานั้นให้ความสำคัญกับกิริยาวาจาของตัวเองมาก ๆ คำพูดที่เป็นทำนองเดียวกันกับคำว่าเสแสร้งมันทำให้ตัวตนเขาดูต่ำลงไปจริง ๆ

“หยาบคาย? ข้าก็แค่พูดความจริงเท่านั้นแหละ หลงอวี้หากเจ้าดึงดันที่จะเป็นศัตรูกับข้า เจ้าจะโดนข้าสังหารได้นะ”หลัวซิวพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

“ช่างโอหังยิ่งนัก!”

หลงอวี้รู้สึกโกรธเกรี้ยวแล้วจริง ๆ มีพลังออร่าที่แข็งแกร่งแพร่กระจายออกมาจากตัวเขา แล้วพูดด้วยสีหน้าที่หม่นหมอง: “ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้เองว่าช่วงระยะความต่างระหว่างผู้สูงส่งและประมุขเต๋านั้นแตกต่างกันมากเพียงใด ทำให้เจ้าได้รู้ว่าอะไรคือที่ต่ำที่สูง”

แม้นจะมีผลการฝึกตนแค่ราชาเทพระดับเก้าขั้นสูง แต่ศักยภาพของหลงอวี้ก็ยังคงน่าสยดสยองอย่างไร้ข้อสงสัยอยู่เช่นเคย เนื่องจากเขาในอดีตชาติคือประมุขเต๋า ซึ่งมีการตระหนักรู้และแดนของผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋า

ไม่ว่าจะอยู่ในโลกมหาศักดิ์ทั้งแปดหรือโลกาเทพมังกรไท่ชู ประมุขเต๋าในทุกยุคสมัยล้วนเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์เป็นเลิศ เป็นผู้ที่น่าทึ่งของยุคสมัยหนึ่ง เป็นผู้ที่โดดเด่นที่สุดในหมู่ผู้แข็งแกร่งที่นับไม่ถ้วนในยุคสมัยนั้น

สามารถพูดได้อย่างไม่ลังเลใจเลยว่าในยุคสมัยที่หลงอวี้รุ่งโรจน์ พอจะพูดได้เลยว่าเขาเป็นผู้ที่โดดเด่นที่สุดในหมู่อัจฉริยะที่นับไม่ถ้วน ความรุ่งโรจน์ของเขาแวววาวจับตา สยบทุกคนที่อยู่ในยุคเดียวกันจนกลายเป็นผู้ไร้เทียมทาน ถึงจะย่างกรายขึ้นมาสู่แดนประมุขเต๋า แล้วปกครองยุคสมัยหนึ่ง

ประมุขเต๋าทุกคน ไม่ว่าความเป็นมาจะเป็นอย่างไร ล้วนแต่เคยผ่านสงครามและการเข่นฆ่ามานับไม่ถ้วน ประสบการณ์การต่อสู้และแดนเกณฑ์ของพวกเขาล้วนสูงส่งอย่างยิ่ง แม้ในยุคสมัยหนึ่งจะมีอัจฉริยะที่นับไม่ถ้วนบังเกิดขึ้น แต่ท้ายที่สุดแล้วราศีออร่าของทุกคนล้วนถูกบดบัง และเหลือเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น

หลงอวี้ในวินาทีนี้กลับไปดูสง่าน่าเกรงขามเหมือนครั้นยังเป็นหนุ่มในอดีตชาติอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาในวินาทีนี้ แข็งแกร่งกว่าเขาในอดีตชาติครั้นอยู่ในแดนราชาเทพระดับเก้าขั้นสูงเสียอีก เนื่องจากเขาในอดีตชาติไม่มีสภาพจิตใจของประมุขเต๋าอย่างภพชาติปัจจุบัน!

สามารถดับสลายสูญสิ้นไปพร้อมกับประมุขเต๋าเลี่ยเทียน และยิ่งเป็นฝ่ายได้เปรียบในคุณค่าบางอย่าง แค่จุดนี้จุดเดียว ก็สามารถมองเห็นได้แล้วว่าหลงอวี้เป็นบุคคลที่แข็งแกร่งมากเพียงใด

“หลัวซิว บัดนี้เจ้ายังกล้าพูดจาโอหังต่อหน้าข้าอีกหรือไม่?”

รอบกายมีพลังและออร่าที่แข็งแกร่งโอบล้อม หลงอวี้มั่นใจในตัวเองมาก ราวกับมองกราดหลัวซิวลงมาจากที่สูง

หลัวซิวมองหลงอวี้ที่พลังออร่าน่าเกรงขามรอบหนึ่ง แล้วหลุดหัวเราะออกมา “หากเจ้ามีความมั่นใจในตัวเองจริง ๆ เก่งจริงก็กดอัดผลการฝึกตนอยู่ที่เทพมารระดับเก้าด้วยสิ กล้าสู้กับข้าในแดนเดียวกันหรือไม่?”

“หึ ผลการฝึกตนก็เป็นส่วนหนึ่งของศักยภาพเช่นกัน เจ้าพูดมากเกินไปแล้ว!”

หลงอวี้ทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีหนึ่ง จากนั้นก็มีวิชาตราประทับหนึ่งกดอัดลงมา วิชาตราประทับดังกล่าวกลายเป็นรูปร่างลักษณะของมังกรตัวหนึ่งปรากฏกลางฝ่ามือเขา สะเทือนฟ้าสะเทือนดิน ราวกับมีมังกรเทพนับหมื่นแสนก้าวรุดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งทรงพลังและประณีตสวยวิจิตรกว่าพลังอมตะที่หลงฉิงเทียนปลดปล่อยเมื่อครั้นนั้นมาก

หลงอวี้ในวินาทีนี้ได้เปิดเผยความแข็งแกร่งของเขาออกมา ไม่ว่าจะเป็นศักยภาพหรือพลังออร่า ล้วนบรรลุถึงระดับที่สามารถเทียบทัดมกุฎเทพระดับเก้า และยิ่งอยู่เหนือมกุฎเทพระดับเก้าขั้นปฐมภูมิ บรรลุถึงระดับขั้นของมกุฎเทพระดับเก้าช่วงกลาง

แม้นหลัวซิวจะมีสติปัญญาแห่งวิถีเซียน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับประมุขเต๋าที่อยู่สูงกว่าตัวเองเกือบสองแดนใหญ่ เขาก็สัมผัสได้ถึงความจนตรอกเช่นกัน แต่น่าเสียดายที่เขายั่วยุหลงอวี้ไม่สำเร็จ ไม่ได้ทำให้ฝ่ายตรงข้ามกดอัดผลการฝึกตนให้อยู่ในแดนเดียวกันกับเขา จึงแสดงให้เห็นเลยว่าหลงอวี้ก็รู้ตัวเองดีอยู่ว่าเมื่ออยู่ภายใต้แดนเดียวกัน ตนไม่มีทางใช่คู่ต่อสู้ของหลัวซิวแน่นอน

“เข้าล็อกเดิม!”

มีรัศมีเทวพุ่งยิงออกมาจากดวงตาของหลัวซิวกะทันหัน เขาใช้พลังอมตะที่ทรงพลังที่สุดของตัวเองทันที ณ วินาทีนี้ ราวกับฝ่ามือทั้งสองข้างของเขาได้ควบคุมหมื่นจักรวาล สรรพวิถีสรรพวิชาล้วนผนึกรวมกันอยู่กลางฝ่ามือเขา แล้วกลายเป็นพลังอมตะวิชาหนึ่ง

เพียงพริบตาเดียว มหาอิทธิฤทธิ์ทั้งสองก็พุ่งชนกันอย่างรุนแรง มังกรเทพนับหมื่นแสนพังทลายแตกสลาย ทุกสรรพสิ่งในโลกหล้าล้วนกลายเป็นความว่างเปล่า

“ตู้มม!”

เงาดำร่างหนึ่งกระเด็นออกไป มีเลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดออกมาจากร่างกาย ผิวหนังกล้ามเนื้อแตกร้าว เลือดพุ่งกระฉูดดั่งน้ำพุ

เพียงการโจมตีเดียว หลงอวี้ที่ผลการฝึกตนพลังออร่าขึ้นไปถึงสภาวะสูงสุดก็บาดเจ็บสาหัสเลย!

“ช่างเป็นพลังอมตะที่แข็งแกร่งยิ่งนัก!”

ใบหน้าของหลงอวี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความเหลือเชื่อ พลังอมตะที่เขาปลดปล่อยคือพลังอมตะระดับประมุขเต๋าที่เขาริเริ่มในอดีตชาติ ผลการฝึกตนก็สูงกว่าหลัวซิวอีกเกือบสองแดนใหญ่ ไม่นึกเลยว่าจะพ่ายแพ้ให้เขาในการประสานงาของพลังอมตะอย่างนั้นหรือ?

“แม้นพลังที่เจ้าปลดปล่อยก็เป็นพลังอมตะวิถีเซียนเช่นกัน แต่เมื่อพูดตามหลักแล้วมันก็ไม่ควรทรงพลังเช่นนี้!”

ความเจ็บปวดที่ทรมานลุกลามไปทั้งร่างกาย แต่มันกลับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรต่อหลงอวี้ด้วยซ้ำ ณ บัดนี้วินาทีนี้ เขาที่เป็นประมุขเต๋าในอดีตชาติถึงขั้นรู้สึกหวาดกลัวต่อหลัวซิวที่อยู่ตรงหน้าเล็กน้อย

“ชัวะ!”

หลงอวี้ไม่ได้ลงมือโจมตีอีกครั้ง เขาผันร่างเป็นแสงกลดวงหนึ่ง แล้วบินออกไปนอกเขาผีเก้าอย่างไม่ลังเลใจ

จากการประสานงาของพลังอมตะในเมื่อครู่นี้ ทำให้เขาเข้าใจว่าหากหลัวซิวอยู่ในแดนเดียวกันกับเขา เช่นนั้นจากการโจมตีในเมื่อครู่นี้ เขาคงตายไปแล้ว!

เพ่งมองเงาหลังของหลงอวี้ที่จากไป หลัวซิวไม่ได้ไล่ล่าออกไปแต่อย่างใด เขาได้ปลดปล่อยพลังอมตะที่ทรงพลังที่สุดของตัวเองออกมาแล้ว แต่ก็แค่สามารถทำให้หลงอวี้ได้รับบาดเจ็บ กลับไม่สามารถสังหาร แม้นจักไล่ตามไปก็คงสังหารฝ่ายตรงข้ามไม่ได้

ค่อย ๆ เก็บพลังออร่าอันแข็งแกร่งที่ตลบฟุ้งอยู่รอบกายเข้ามา หลัวซิวยกมือโบกทีหนึ่ง ก็มีธงค่ายทั้งหลายบินออกไปจากทั่วทุกสารทิศ ทำการผนึกเขตพื้นที่แห่งนี้เอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้หลงอวี้นั่นแว้งกัดตนขณะเก็บพลังฉีกชั้นฟ้า

พลังฉีกชั้นฟ้าที่ผนึกรวมกันอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของเขาผีเก้ามีขนาดเท่าดาราดวงหนึ่ง พลังฉีกชั้นฟ้าที่อยู่บริเวณชั้นนอกยังไม่ได้ทรงพลังมากเท่าไหร่นัก แต่ทว่าเมื่อยิ่งเข้าใกล้ตำแหน่งที่เป็นศูนย์กลาง พลังที่แฝงซ่อนอยู่ในพลังฉีกชั้นฟ้าก็ยิ่งน่าสยดสยอง

อย่างไรเสียพลังนี้ก็เป็นพลังที่ผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าคนหนึ่งทิ้งไว้ มาตรแม้นว่าผลการฝึกตนของหลัวซิวในตอนนี้จะบรรลุถึงเทพมารระดับเก้าแล้ว เขาก็รู้ตัวดีอยู่ว่าตนไม่มีทางเอาพลังฉีกชั้นฟ้าทั้งหมดที่อยู่ในนี้กลับไปได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ