มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2852

สำหรับกองกำลังทั้งปวงแล้ว ดินแดนของสำนักและสถานบรรพบุรุษของตระกูลต่างเป็นรากฐานของกองกำลังนั้น ๆ

ด้วยเหตุนี้การป้องกันรากฐานจึงดูสำคัญมากอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งวิธีที่มีประสิทธิผลดีมากที่สุดก็คือการจัดวางค่ายกล

วิถีค่ายกล เป็นวิถีที่มีความเกี่ยวข้องกับการใช้สอยพลังแห่งเกณฑ์ของจอมยุทธ์

ในอดีตชาติของหลัวซิว เขาก็ได้ทำการจัดวางค่ายกลจำนวนมากไว้ในหุบเขาสยบปีศาจแล้ว ซึ่งระดับขั้นของค่ายกลบรรลุถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับเก้า

แต่เมื่อกาลเวลาผ่านพ้นมาอย่างยาวนาน การโคจรในหลาย ๆ จุดของค่ายกลที่จัดวางไว้ในตอนแรกเริ่มไม่ค่อยเสถียร มิหนำซ้ำหลัวซิวยังรู้สึกไม่ค่อยพึงพอใจด้วย ถ้าเกิดแค่สามารถป้องกันพลังโจมตีจากผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับเก้า

หากอยู่ในอดีต หลัวซิวไม่มีความสามารถที่จะทำเช่นนั้นได้ แม้เขาจะยึดกุมวิชาฎีกาค่าย แต่ถ้าเกิดไม่มีผลการฝึกตนที่แข็งแกร่งมากพอ รวมไปถึงการยึดกุมแรงเต๋าปริภูมิ เขาก็ไม่สามารถจัดวางค่ายกลที่มีระดับขั้นสูงเกินไปได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตามหลัวซิวไม่สามารถจัดวางด้วยตนเอง แต่เขากลับสามารถอาศัยกำลังแรงจากผู้อื่นได้อยู่ และศิษย์พี่ตู๋กูของเขาก็คือผู้แข็งแกร่งแดนผู้สูงส่ง ตนเป็นฝ่ายจัดเสนอผังค่ายให้ บวกกับวัตถุดิบบางส่วนที่ได้รับจากการใช้เส้นสายของอาณากระบี่หวูจี๋ การที่จะจัดวางค่ายกลระดับผู้สูงส่งออกมานั้น น่าจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร

หลัวซิวเดินทางไปหุบเขากระบี่ด้วยตนเองหนึ่งรอบ และได้พบกับตู๋กูเจ้าแห่งอาณากระบี่

เมื่อได้ยินจุดประสงค์ในการมาเยือนของหลัวซิว เจ้าแดนตู๋กูก็พยักหน้าตอบตกลงเช่นกัน

“ไม่นึกเลยว่าศิษย์น้องจักเชี่ยวชาญในวิถีค่ายมากขนาดนี้ด้วย”

เมื่อตู๋กูได้รับผังค่ายมาจากมือหลัวซิว แม้นเขาจะเป็นผู้แข็งแกร่งผู้สูงส่งช่วงปลาย แต่ก็รู้สึกตะลึงในระดับหนึ่งเลย

การจัดวางของผังค่ายดังกล่าวประณีตสวยวิจิตรอย่างยิ่ง ทันทีที่จัดวางสำเร็จ เช่นนั้นก็จะสามารถครอบคลุมห้วงเวลาของฟ้าดินผืนหนึ่ง ซึ่งผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่งอย่าคิดว่าจะสามารถบุกรุกเข้าไปได้เลย มีเพียงผู้แข็งแกร่งที่ผลการฝึกตนศักยภาพบรรลุถึงผู้แกร่งเลิศเท่านั้น ถึงจะสามารถอาศัยอำนาจบุกรุกเข้าไปได้

และทั้งโลกมหาศักดิ์ทั้งแปดจะมีผู้แกร่งเลิศกี่คนเล่า? จวบจนปัจจุบันผู้แกร่งเลิศที่ปรากฏให้เห็นนั้น ก็มีไม่ถึงสิบคน

สามารถพูดได้เลยว่าเมื่อมีค่ายกลคุ้มกันประเภทนี้ พอจะพูดได้เลยว่าหุบเขาสยบปีศาจเป็นกำแพงเมืองแข็งแกร่งมั่นคงยากที่จะมลาย ขอเพียงมีการป้องกันรักษาที่ปลอดภัย เช่นนั้นขอแค่มีระยะเวลาที่เพียงพอ ศักยภาพของหุบเขาสยบปีศาจก็จะค่อย ๆ สั่งสมตกตะกอน ค่อย ๆ แข็งแกร่งรุ่งเรืองขึ้น จนมีตำแหน่งเล็ก ๆ ในมหันตภัยในครั้งนี้

“ทว่าน่าเสียดายที่ผลการฝึกตนของข้าต่ำเกินไป มิเช่นนั้นเมื่ออาศัยวิชาฎีกาค่าย การที่จะอนุมานค่ายกลระดับประมุขเต๋าออกมานั้น ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเช่นกัน”

หลัวซิวกล่าวเช่นนี้ ไม่ได้ปิดบังเรื่องที่ตนได้รับการถ่ายทอดสืบสานของฎีกาค่าย

“ศิษย์น้องเป็นผู้ที่มีโอกาสยิ่งใหญ่มาก มิน่าล่ะถึงได้รับความสำคัญจากอาจารย์มากเช่นนี้”

เจ้าแดนตู๋กูหัวเราะ “ผังค่ายม้วนนี้ของเจ้าค่อนข้างซับซ้อน ระดับขั้นของวัตถุดิบที่ต้องการก็สูงมากเช่นกัน ข้าที่เป็นศิษย์พี่เจ้าจะลงทุนวัตถุดิบให้เจ้าส่วนหนึ่งก็แล้วกัน”

…..

ในฐานะที่เป็นเจ้าแดน ส่วนใหญ่แล้วตู๋กูเดินออกไปจากหุบเขากระบี่น้อยมาก ๆ กิจธุระจำนวนมากของอาณากระบี่ก็ถูกดูแลรับผิดชอบโดยผู้อาวุโสทั้งหลาย

ในอาณากระบี่ ณ ปัจจุบัน ก็มีเพียงหลัวซิวคนเดียวเท่านั้นแหละที่มีเกียรติถึงขั้นสามารถเชิญตู๋กูออกจากเขาได้

เห็นเพียงเจ้าแดนตู๋กูโบกมือหยิบวัตถุดิบต่าง ๆ นานาออกมา ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้ล้วนเป็นตัวเซียนระดับผู้สูงส่ง สามารถพูดได้เลยว่าเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการจัดวางค่ายกลดังกล่าว

“ขอบพระคุณศิษย์พี่อย่างยิ่งขอรับ”หลัวซิวประสานมือทำท่าคารวะ เขาต้องเข้าใจน้ำจิตน้ำใจของศิษย์พี่ตู๋กูท่านนี้อยู่แล้ว อย่างไรเสียเมื่อดูจากภูมิฐานที่สั่งสมมาของหุบเขาสยบปีศาจและตัวเอง ไม่มีทางเอาตัวเซียนระดับผู้สูงส่งที่มากมายก่ายกองเช่นนี้ออกมาได้ในทีเดียวแน่นอน

วัตถุดิบทั้งหมดที่ตู๋กูเอาออกมานั้น สามารถพูดได้เลยว่าเป็นการช่วยเหลือเขาได้เยอะมาก ๆ ต่อให้เจ้าแดนตู๋กูจะมั่งคั่งใจป้ำมากเพียงใด สำหรับเขาแล้วตัวเซียนระดับผู้สูงส่งก็เป็นวัตถุดิบที่ล้ำค่ามาก ๆ

หลัวซิวย่อมต้องจดจำบุญคุณในครั้งนี้ไว้ในใจอยู่แล้ว ในขณะเดียวกันเขาก็สัมผัสไมตรีจิตของศิษย์พี่น้องได้อย่างแท้จริงด้วย

เมื่อมีผังค่ายที่หลัวซิวจัดเสนอให้ ต่อให้ตู๋กูจะไม่ค่อยเชี่ยวชาญในวิถีค่ายมากเท่าไหร่ก็ตาม เมื่อจัดวางตามขั้นตอนบนผังค่าย ก็จัดวางผังค่ายม้วนนี้สำเร็จไปหนึ่งในสามได้อย่างรวดเร็ว

ค่ายกลดังกล่าวที่หลัวซิวอนุมานออกมาโดยการอ้างอิงจากฎีกาค่ายประกอบขึ้นมาจากสามส่วนหลัก ๆ

ส่วนแรกก็คือค่ายใหญ่กักกัน เมื่อมีการคงอยู่ของกักกัน เช่นนั้นนอกเสียจากมีสิ่งยืนยันที่พิเศษ มิเช่นนั้นคนนอกก็อย่าคิดว่าจะสามารถเข้าไปในหุบเขาสยบปีศาจได้

ต่อมาส่วนที่สองนั้นคือมหาค่ายคุ้มกัน ซึ่งสามารถต้านทานพลังโจมตีของผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่ง

ส่วนสุดท้ายอย่างส่วนที่สามนั้นคือค่ายสังหาร เมื่อระเบิดพลังอานุภาพทั้งหมดออกมาอย่างหมดเปลือก ก็แทบจะสามารถเทียบทัดพลังโจมตีของผู้แกร่งเลิศได้เลย หากมีผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่งติดอยู่ภายในมหาค่าย เช่นนั้นนอกเสียจากมีอุบายพิเศษในการหลบหนี มิเช่นนั้นก็ต้องตายสถานเดียวเท่านั้น!

ค่ายกลหนึ่งค่ายได้หลอมรวมมหาค่ายสามประเภทเข้าด้วยกัน พอจะพูดได้เลยว่าเป็นค่ายเทพมหาศักดิ์ขั้นสุดยอดแล้ว

หลัวซิวนำศิลาเทวชิงเทียนวางอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของค่ายใหญ่กักกัน เมื่อมีศิลาเทวกดอัดค่ายใหญ่กักกัน เช่นนั้นทันทีที่มีคนใช้อำนาจบุกรุกเข้ามาในค่ายกล หรือติดอยู่ในมหาค่าย ก็จะถูกศิลาเทวชิงเทียนกดอัดด้วย

สมบัติทั้งสองชิ้นนี้ต่างเป็นอาวุธเทพระดับประมุขเต๋า อนาคตหากมีเงื่อนไขที่เพียงพอ เมื่อเปลี่ยนวัตถุดิบหลักในการจัดวางค่ายกลให้เป็นตัวเซียนระดับประมุขเต๋า เช่นนั้นทั้งมหาค่ายก็จะได้รับการยกระดับในทุก ๆ ด้าน บรรลุถึงขั้นที่สามารถสยบและต้านทานพลังโจมตีของผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋า!

ตัวเซียนระดับประมุขต่ำหายากมาก ๆ แม้แต่บนตัวหลัวซิวก็ไม่มีเช่นกัน เจ้าแดนตู๋กูก็เป็นเพียงผู้สูงส่งช่วงปลาย ต่อให้มีตัวเซียนระดับประมุขเต๋า เขาก็ไม่มีทางเอาออกมาใช้เยอะขนาดนี้แน่นอน

มิหนำซ้ำแม้นระหว่างเขาและเจ้าแดนตู๋กูจะเป็นศิษย์พี่น้องกัน แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองยังไม่ได้ดีถึงขั้นที่สามารถหยิบตัวเซียนประมุขเต๋าออกมาได้โดยไม่มีการตอบแทนใด ๆ

การที่เจ้าแดนตู๋กูจัดเสนอตัวเซียนระดับผู้สูงส่งที่มากมายขนาดนี้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ก็ทำให้หลัวซิวรู้สึกตื้นตันใจมาก ๆ แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ