“ปัง!”
หลังจากที่ตู๋กูเจี้ยนเฉินบรรลุแล้ว ก็สำแดงพลังอมตะและเข้าร่วมในสงคราม เพียงพริบตาก็ทำให้จ้าวปีศาจเสวียนหยินที่ก่อนหน้านี้สามารถจัดการศัตรูสามต่อหนึ่งได้อย่างง่ายดายมีความกดดันเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ
ตู๋กูเจี้ยนเฉิน ถึงแม้ว่าผลการฝึกตนจะเพิ่งบรรลุถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปด แต่พลังที่แท้จริงของเขากลับเรียกได้ว่าสามารถเทียบเท่ามหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้า แข็งแกร่งยิ่งกว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดในแดนเดียวกันอย่างมาก
“ถอย!”
จ้าวปีศาจเสวียนหยินสะบัดชายเสื้อครั้งหนึ่ง มังกรจู๋หยินเงยหน้าคำรามอย่างบ้าคลั่ง ทำให้สามารถป้องกันการโจมตีของตู๋กูเจี้ยนเฉินทั้งสี่คนไว้ได้ ทันใดนั้นลมอำมหิตก็พัดผ่านมา และได้พัดพาผู้อาวุโสสำนักหยินที่มีนามว่าสุนฮู้หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“สำนักหยินวิถีมารเลวทรามโลภมาก เรื่องนี้เมื่อกลับไปแล้วจะต้องทูลต่อเจ้าแดนให้ได้!” มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดผู้หนึ่งเห็นจ้าวปีศาจเสวียนหยินหายตัวไป ก็อดไม่ได้ที่จะก่นด่าออกมา
“ยินดีกับผู้อาวุโสเจี้ยนเฉินที่บรรลุแล้ว” ตู๋กูเฉินกลับไม่ได้ใส่ใจกับปัญหานี้ แต่หันมาแสดงความยินดีกับตู๋กูเจี้ยนเฉินเป็นอย่างแรก
“ใช่ ๆ ยินดีด้วยผู้อาวุโสเจี้ยนเฉิน”
ผู้อาวุโสมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดทั้งสองก็นึกขึ้นมาได้ พากันเผยสีหน้าแสดงความยินดี
“ขอบใจผู้เพื่อนยุทธ์ทั้งสามยิ่ง” ตู๋กูเจี้ยนเฉินกำมือคำนับเป็นการขอบคุณน้ำใจ ในวันนี้เขาก็เป็นถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปด แน่นอนว่าสถานะก็ต้องเทียบเท่ากับระดับผู้อาวุโสไท่ซ่าง
พวกเขาต่างก็รู้ดีว่า ในครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะตู๋กูเจี้ยนเฉินสามารถข้ามผ่านทัณฑ์ได้สำเร็จทันเวลา เกรงว่าผู้อาวุโสไท่ซ่างทั้งสามต่างก็ต้องตายตกอยู่ในกำมือของจ้าวปีศาจเสวียนหยินเป็นแน่
แต่หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือหลัวซิว เขาอาศัยเพียงผลการฝึกตนเทพมารขั้นเก้าช่วงปลาย แต่กลับสามารถฆ่ามกุฎเทพขั้นเก้าสามคนซึ่ง ๆ หน้าได้ ต้านทานการโจมตีของผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเทพขั้นเก้าท่านหนึ่งได้!
ทั้งกลุ่มเดินทางกลับไปยังอาณากระบี่หวูจี๋ ผู้อาวุโสและผู้คุมกฎมากมายต่างพากันมาแสดงความยินดีกับตู๋กูเจี้ยนเฉินที่สามารถบรรลุมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นเก้าได้สำเร็จ
แต่ถึงกระนั้น เหล่าตู๋กูเจี้ยนเฉินพวกเขาทั้งสี่กลับไม่ได้ล่าช้าแม้แต่น้อย รีบพุ่งตรงไปยังหุบเขากระบี่ นำเอาเรื่องที่ถูกสำนักหยินวิถีมารลอบโจมตีทูลต่อเจ้าแดน
หลัวซิวไม่ได้ไปยังหุบเขากระบี่ เพราะจนถึงตอนนี้ทั่วทั้งอาณากระบี่หวูจี๋ยังไม่มีใครรับรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเจ้าแดน
แต่เมื่อพวกของตู๋กูเจี้ยนเฉินออกมาจากหุบเขากระบี่แล้ว หลัวซิวจึงได้เข้าไปยังหุบเขากระบี่ ท่ามกลางห้องใต้หลังคาที่เก่าแก่นั้น ก็ได้พบกับศิษย์พี่ของเขา ‘ตู๋กู’
“ศิษย์น้อง ข้ารู้ว่าเจ้ามาที่นี่ด้วยเหตุใด”
เมื่อเห็นหลัวซิวเดินเข้ามาในห้องใต้หลังคา ตู๋กูที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้นราวกับไม่ได้เคลื่อนไหวมานานนับหมื่นปีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ศิษย์พี่ยังคงคาดเดาได้ราวกับเทพยกร เช่นนั้นศิษย์พี่รู้ว่าข้าจะถามสิ่งใด? ” หลัวซิวนั่งขัดสมาธิลงตรงหน้าตู๋กู
“หากว่าข้าไม่ได้คากเดาผิด เหตุที่ศิษย์น้องเดินทางมาในครั้งนี้ น่าจะมาเผื่อถามเรื่องแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจใช่หรือไม่? ”
ตู๋กูยิ้ม พร้อมพูดต่อ “อาจารย์รู้ว่าเจ้าต้องเข้ามาถาม ดังนั้นจึงให้ข้าอธิบายให้เจ้าได้คลายสงสัย”
เมื่อได้ฟังว่าเป็นคำไหว้วานจากอาจารย์ หลัวซิวก็อดไม่ได้ที่จะตกใจอยู่บ้าง แต่ก็พอคาดเดาว่าพลังอมตะของอาจารย์นั้นแกร่งกล้า น่าจะรู้เรื่องราวที่ลึกลับมากมาย
“ข้าอยากรู้ว่าเหตุใดแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจจึงก่อการจลาจลที่โลกร้าง” หลัวซิวเอ่ยพูดข้อสงสัยของตนออกมา
ตามที่เขาได้อ่านจากรายงาน แดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจก่อนหน้านี้ก็ได้ก่อความวุ่นวายที่เมืองต้าฮวงโบราณไปก่อนแล้ว ส่วนครั้งนี้ก็มาลงมือกับอาณากระบี่หวูจี๋อีก ตามหลักแล้วแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจเพียงแห่งเดียวไม่มีความแข็งแกร่งขนาดนั้น แต่ทำไมพวกเขาถึงกล้าทำเช่นนั้น?
และที่หลัวซิวถามถึงเรื่องของแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจ อันที่จริง เขาต้องการคาดเดาความปลอดภัยของฮู๋ชิงชิงเป็นหลักจากข้อมูลที่ตนได้รับ ส่วนที่เขาเป็นกังวลใจนั้นไม่ใช่แดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจ แต่เป็นฮู๋ชิงชิง!
“พูดถึงแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจ เช่นนั้นก็ต้องเริ่มจากที่มาของแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจ” ตู๋กูยิ้มออกมาบาง ๆ
“ที่มาของแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจ? ไม่ใช่การสืบทอดจากการบำเพ็ญปรปักษ์ในยุคไท่ชูหรือ? ” หลัวซิวเอ่ยถาม
ตู๋กูพูดพร้อมรอยยิ้ม “เจ้าพูดมาถูกแล้ว แต่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น แดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจเป็นสิ่งสืบทอดจากการบำเพ็ญปรปักษ์ในยุคไท่ชูจริง แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าการบำเพ็ญปรปักษ์ในยุคไท่ชูมีที่มาอย่างไร? ”
“บำเพ็ญปรปักษ์? ที่เรียกว่าบำเพ็ญปรปักษ์ไม่ใช่นักยุทธ์ที่ฝึกตนด้วยวิถีที่แตกต่างจากกฎทวยเทพธรรมหรือ? ” หลัวซิวตอบไปเช่นนั้น
ในภพชาติก่อนเขาก็เคยได้ยินเกี่ยวกับชื่อของการบำเพ็ญปรปักษ์ และเขาก็ชื่นชมการบำเพ็ญปรปักษ์เหล่านั้นเสมอมา นั่นก็เพราะว่าเหล่าบรรดาผู้แข็งแกร่งที่บำเพ็ญปรปักษ์ ในยุคไท่ชูและยุควัฏสงสารได้ต่อสู้กับประมุขเต๋าสวรรค์และประมุขเต๋าวัฏสงสาร ทวงคืนโชคชะตาของตนเพื่อคนในใต้หล้า
“สิ่งที่เจ้าพูดเกี่ยวกับการบำเพ็ญปรปักษ์ทั้งหมดนั้น เป็นเพียงสิ่งที่เจ้าเข้าใจเท่านั้น แต่ภูมิหลังของการบำเพ็ญปรปักษ์ในยุคไท่ชูที่แท้จริงนั้น มันกลับไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น”
ตู๋กูพูดพร้อมส่ายหน้าไปมา “เจ้ารู้หรือไม่ว่านอกจากพื้นโลกดาราที่มีโลกมหาศักดิ์แปดด้านของเราอยู่นั้น ยังมีพื้นโลกดาราอื่น ๆ ดำรงอยู่ด้วยเช่นกัน? ”
หลัวซิวพยักหน้า เขารู้ว่ายังมีโลกาเทพมังกรไท่ชูรวมถึงโลกาฟ้าดินหลิงหลงอยู่ด้วย
“ในกาลเวลาก่อนหน้ายุคสมัยไท่ชูนานแสนนานนั้น ยังมีสมัยต้าเหยียนดำรงอยู่”
ตู๋กูค่อย ๆ พูดอธิบาย และกล่าวถึงประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่มาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...