สำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์
วินาทีนี้ใบหน้าของผู้สูงส่งแห่งโลกร้างในยุคปัจจุบัน หรือผู้สูงส่งอัมพรเทวบรรพอาจารย์แห่งสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์ดูหม่นหมองมากจนน่ากลัว
ตั้งแต่ครั้งก่อนหลังจากที่มีคนใช้อำนาจฝืนเรียกหอคอยฮวงแล้ว นี่เพิ่งผ่านไปกี่ปีเอง ก็มีคนใช้อำนาจฝืนเรียกร่างดั้งเดิมของหอคอยฮวงอีกครั้ง!
เมื่อปีนั้นหอคอยฮวงได้เปิดออก แล้วทำการเลือกเจ้านายด้วยตนเอง ผู้สูงส่งอัมพรเทวไม่สามารถหยุดยั้งได้ แต่ทว่าสำหรับเขาแล้วขอแค่ตัวเองยังเป็นผู้สูงส่งแห่งโลกร้างอยู่ เขาก็มองว่าหอคอยฮวงเป็นของตัวเองมาโดยตลอด
ตลอดกาลเวลาอันยาวนานที่ผ่านพ้นมา เขาล้วนใช้เวลาส่วนมากอยู่กับการตระหนักรู้ความล้ำลึกของธรรมเวชกาลร้าง หวังว่าสักวันจะสามารถกลั่นแปรหอคอยฮวงได้โดยสิ้นเชิง ฝึกเซ่นอัญมณีดั้งเดิมชิ้นนี้ให้กลายเป็นอัญแห่งบรรลุชีวีของตัวเอง
ค่ายใหญ่ของสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์ถูกเปิดออกอีกครั้ง สีหน้าของผู้สูงส่งอัมพรเทวยิ่งอยู่ยิ่งย่ำลง เนื่องจากเขาสามารถสัมผัสได้อยู่ว่า พลังการเรียกหอคอยฮวงในครั้งนี้แข็งแกร่งกว่าครั้งก่อนมาก ๆ แม้นเขาจะอยู่ในแดนผู้แกร่งเลิศ เกรงว่าก็คงไม่สามารถหยุดยั้งหอคอยฮวงที่จะบินจากไปได้
……
นิ้วมือของทูตเพ้าดำกดอัดลงมา พลังอำนาจมากมายมหาศาลอย่างไร้ขอบเขต ตี๋ซันก็ถอนร่างแยกทั้งเก้าออกเช่นกัน เหลือเพียงร่างแท้แล้วถอยหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว ไม่อยากโดนลูกหลงไปด้วย
“ฟึ่บ!”
เงาลวงมหาศักดิ์ที่ผนึกรวมมาจากเตาอลวนหวูจี๋ต้านทานพลังโจมตีชุดแรกเอาไว้ก่อน ต่างก็เป็นผู้สูงส่งเหมือนกัน ทว่ามันเป็นเพียงเงาลวงร่างหนึ่งที่ของขลังอาวุธเทพผนึกรวมออกมา ส่วนผู้ที่ลงมือกลับเป็นผู้สูงส่งที่แท้จริง ศักยภาพของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!
เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น เงาลวงมหาศักดิ์ก็แตกสลายไปแล้ว ส่วนตัวหลัวซิวก็ถูกพลังแว้งกัดเช่นกัน กระอักเลือด ร่างกายเซไปมา
อย่างไรก็ตามเขากลับอาศัยตัวธรรมปณิธานที่แน่วแน่ฝืนอดกลั้นเอาไว้ วิชาตราประทับที่อยู่ในมือทั้งสองข้างแปรเปลี่ยนไปอย่างซับซ้อน ใช้หอคอยฮวงดั้งเดิมที่อยู่ในตัวหยั่งรู้ สัมผัสตำแหน่งของหอคอยฮวงของจริงแล้วใช้อำนาจเรียกมา!
เขาสามารถสัมผัสได้อยู่ว่าหอคอยฮวงของจริงถูกพันธนาการไว้ บัดนี้มันกำลังทุ่มแรงทั้งหมดเพื่อทำให้หลุดพ้นจากการถูกพันธนาการ
“ไอ้หอคอยฮวงขยะ!”ภายในจิตใจหลัวซิวโกรธเกรี้ยวอย่างยิ่ง ครั้งก่อนก็เป็นเพราะการขัดขวางของฮวงจวินนี่แหละ ถึงทำให้เขาไม่สามารถเรียกหอคอยฮวงที่แท้จริงมาได้ ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะตู๋กูเจี้ยนเฉินมาได้ทันเวลา บางทีเขาคงตายไปแล้ว
ส่วนวิกฤตการณ์ในครั้งนี้กลับรุนแรงกว่าครั้งก่อนมาก หากยังไม่สามารถเรื่องหอคอยฮวงมาได้ เช่นนั้นก็สามารถพูดได้เลยว่าฮวงจวินเป็นคนฆ่าตัวเองทางอ้อม!
“กวง!”
หลัวซิวไม่มีเวลาไปครุ่นคิด หลังจากเงาลวงมหาศักดิ์แตกสลายไปแล้ว นิ้วมือที่เหมือนดังเสาเทพก็พุ่งชนเข้ากับเตาอลวนหวูจี๋ อาวุธเทพมหาศักดิ์ชั้นยอดชิ้นนี้ราวกับถูกฟ้าผ่า กลายเป็นแสงกลดวงหนึ่งแล้วกระเด็นออกไปทันที
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เหนือศีรษะหลัวซิวก็ไม่มีอาวุธชิ้นใดคอยป้องกันเลย เปิดเผยอยู่ภายใต้การโจมตีของนิ้วมือค้ำฟ้านั่นโดยสิ้นเชิง!
อย่างไรก็ตามในเวลานี้เอง เขากลับไม่สามารถเรียกหอคอยฮวงมาได้
“ตายซะเถอะ!”
มีเสียงที่เยือกเย็นสะท้อนมาจากอนัตตา ทูตเพ้าดำไม่มีความคิดที่จะสังหารหลัวซิวจริง ๆ แต่เตรียมพร้อมที่จะบดขยี้ร่างเนื้อเขา จับกุมวิญญาณดั้งเดิมของเขา ขอแค่ทำการค้นวิญญาณหลัวซิว เช่นนั้นความลับทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขาก็จะตกเป็นของตนเอง
“ไสหัวไป!”
ภายใต้วิกฤตการณ์แห่งความตาย จู่ ๆ หลัวซิวก็คำรามเสียงดังลั่นจนท้องฟ้าสนั่นหวั่นไหว
วินาทีนี้พลังทั้งหมดในร่างกายเขาได้ผนึกรวมกันอยู่ที่กำปั้นทั้งสองข้างสองเขา แม้แต่การตระหนักรู้ในวิถียุทธ์ทั้งปวงของเขาก็ผนึกรวมกันอย่างบ้าระห่ำเช่นกัน
เขาไม่ใช่คนที่จะรอให้ความตายมาเยือนโดยไม่ทำอะไร ต่อให้คู่ต่อสู้ของเขาคือผู้สูงส่งคนหนึ่ง เขาก็จะตอบโต้อย่างฮึกเหิมโดยที่ไม่สนว่าต้องแลกกับอะไร แม้นต้องตายแต่ก็ต้องปลดปล่อยศักยภาพให้ถึงขีดสูงสุด มาตรแม้นว่าตายไปแล้วจะได้ไม่เสียดาย!
“เวิ่ง! ……”
วินาทีนี้ มีแสงเซียนที่งดงามเป็นประกายระยิบระยับอยู่บนตัวหลัวซิว เขาฝ่าฟันไปถึงชั้นที่ 23 ของวังเซียนศักดิ์สิทธิ์แล้วได้รับสัญลักษณ์วิถีเซียนมา 22 ชิ้น บัดนี้สัญลักษณ์เหล่านั้นได้พากันปรากฏบนผิวหนังชั้นนอกของเขา
ความล้ำลึกอันนับไม่ถ้วนที่มีวิถีเซียนร่างศักดิ์สิทธิ์แฝงซ่อนดังก้องอยู่ในส่วนลึกของจิตวิญญาณ วินาทีนี้หลัวซิวได้ระเบิดรัศมีที่แวววาวจับตาที่สุดในชีวิตออกมา ร่างกายเขาปกคลุมอยู่ในแสงเซียน ราวกับจักกลายเซียนโบยบินสู่สวรรค์ยังไงอย่างนั้น
“ตู้มม!”
เสียงที่ดังกึกก้องก้องกังวาน กำปั้นทั้งสองข้างของหลัวซิวพุ่งชนเข้ากับนิ้วมือของทูตเพ้าดำ จากการที่มีเลือดสีแดงสดพุ่งออกมาจากปากเขา ต่อมาร่างกายเขาก็กระเด็นออกไป ผิวหนังระเบิดแตก เลือดอาบท่วมตัว
“ว่าอย่างไรนะ!”
ทูตเพ้าดำเบิกตากว้างจนดวงตากลมโต “นี่มันจะมีทางเป็นไปได้อย่างไร!”
จากผลการฝึกตนผู้สูงส่งช่วงปลายของเขา เพียงนิ้วมือเดียวก็สามารถสังหารมหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อได้อย่างง่ายดาย ทำให้มหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงอล้อบาดเจ็บสาหัสได้แล้ว แต่เจ้าหมอนี่กลับต้านทานเอาไว้ได้อย่างนั้นรึ?
ทูตเพ้าดำรู้สึกตะลึงช็อกมากขนาดนี้ไม่ว่า แม้แต่ตัวหลัวซิวเองก็ไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน
บางทีอาจเป็นเพราะได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์จนตรอกแห่งวิกฤตการณ์ความตาย ร่างกายเขาจึงทลายพันธนาการบางอย่าง ใช้ธรรมเวชกาลร้างเป็นพื้นฐาน การตระหนักรู้ที่นับไม่ถ้วนในกฎธรรมทั้งปวงของเขาถึงขั้นผสมผสานกันในเวลานี้!
มีแนวคิดธรรมประเภทหนึ่งที่ใหม่เอี่ยมผุดขึ้นมาในหัวเขา……
“นี่ก็คือวิถีเซียนหรือ? วิถีเซียนของตัวข้าเอง?”
แนวคิดธรรมที่ใหม่เอี่ยม ราวกับมีประตูใหญ่บานใหม่ที่อยู่ตรงหน้าหลัวซิวถูกเปิดออก ซึ่งนี่คือวิถีเส้นทางที่แปรเปลี่ยนจากพื้นฐานของวิถีกลั่นร่างสู่วิถีเซียนร่างศักดิ์สิทธิ์!
วิถีเซียนร่างศักดิ์สิทธิ์ของเขาแตกต่างจากวิถีเซียนร่างศักดิ์สิทธิ์ของวังเซียนศักดิ์สิทธิ์เพราะมันเป็นการผสมผสานของการตระหนักรู้ที่เขาได้รับจากวังเซียนศักดิ์สิทธิ์บวกกับการตระหนักรู้ในเคล็ดเซียนแปรเก้าของเขา แล้วก็การตระหนักรู้ที่ทำให้ถ้วนในธรรมทั้งปวงของเขา นี่ถึงจะวิวัฒนาการวิถีที่ใหม่เอี่ยมออกมาได้!
“หึ่ง!”
มีรัศมีที่แวววาวจับตาแย้มบานออกมาจากตัวหลัวซิว รัศมีเหล่านี้ล้วนเป็นแสงเซียน ส่วนร่างกายเขาที่อยู่ในแสงเซียนประเภทนี้ก็เริ่มได้รับการแปรเปลี่ยนที่ใหม่เอี่ยมเช่นกัน!
“ไม่นึกเลยว่าจะบรรลุในสถานการณ์จนตรอกที่ไร้โอกาสรอดอย่างนั้นหรือ?”
สีหน้าของทูตเพ้าดำหม่นหมองอย่างยิ่ง จิตสังหารที่อยู่ในแววตาทั้งสองข้างเข้มข้นในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เขาสามารถสัมผัสได้อยู่ว่าคลื่นผลการฝึกตนบนตัวหลัวซิวกำลังเพิ่มขึ้นตามจังหวะ จากราชาเทพระดับเก้าขั้นปฐมภูมิในตอนแรก ยกระดับถึงราชาเทพระดับเก้าช่วงกลางอย่างรวดเร็ว
การยกระดับของหนึ่งแดนเล็กไม่มีประโยชน์อะไรต่อการต่อสู้ในครั้งนี้ แต่สิ่งที่ทำให้ทูตเพ้าดำใส่ใจอย่างแท้จริงกลับเป็นแสงเซียนที่แย้มบานออกมาจากตัวหลัวซิว!
“มันกำลังลอกคราบใหม่ มีแรงเต๋าหนึ่งที่ทรงพลังอย่างยิ่งกำลังผนึกรวมกันอยู่ในร่างกายมัน!”
ในฐานะที่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่ง พลังที่ทูตเพ้าดำปลดปล่อยก็คือแรงเต๋ามหาศักดิ์ แต่เขากลับสามารถสัมผัสได้อยู่ว่าพลังที่กำลังผนึกรวมกันในร่างกายหลัวซิว ณ วินาทีนี้ กลับเป็นแรงเต๋าบางอย่างที่มีระดับสูงกว่าแรงเต๋ามหาศักดิ์!
ราชาเทพเล็ก ๆ คนหนึ่ง แต่กลับสามารถผนึกรวมแรงเต๋าที่ทรงพลังกว่าแรงเต๋ามหาศักดิ์ออกมาได้ เรื่องนี้มันน่าสยดสยองมากเกินไปแล้ว!
ยิ่งเป็นเช่นนี้ ทูตเพ้าดำก็ยิ่งอยากสังหารหลัวซิวอย่างอดใจรอไม่ไหว! ยิ่งกว่านั้นคือเขายอมไม่เอาความลับที่อยู่บนตัวหลัวซิว แต่ก็ต้องกำจัดภัยคุกคามอันใหญ่หลวงในอนาคตนี้ทิ้งให้ได้!
“ตาย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...