“นี่มันเป็นไปไม่ได้! หากอยู่ต่ำกว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์ ค่ายมังกรฟ้าเสวียนหวงของเรานั้นจักไร้เทียมทาน!”
จักรพรรดิเทพเจ็ดกงล้อทั้งหลายในสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงต่างรู้สึกไม่ยอมใจมาก ๆ
“ทุกท่านอย่าเพิ่งลน แม้นมันจะกดอัดเราได้ ทว่าการที่จะทำลายร่างกายของมังกรฟ้าเสวียนหวงแล้วสร้างความเสียหายให้แก่เรา มันไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายขนาดนั้น!”เทพธิดาเสวียนหวงแสร้งทำเป็นสุขุมพลางพูด
แต่ทว่ายังไม่ทันสิ้นเสียงนาง จู่ ๆ ก็มีเสียงระเบิดที่ดังสะเทือนเลื่อนลั่นดังก้องกังวานขึ้นมา
เห็นเพียงหลัวซิวได้ทำการปลดปล่อยตรามหาหัตถ์ราชาเซียนอีกครั้ง ในมือใหญ่แสงเซียนจับเตาเทพไว้หนึ่งเตา เพียงการโจมตีเดียวก็ทำให้ร่างกายของมังกรฟ้าเสวียนหวงทะลุไปเป็นที่เรียบร้อย!
“ฟึ่บ!”
ร่างกายของมังกรฟ้าเสวียนหวงประกอบมาจากแรงเต๋าของจักรพรรดิเทพเจ็ดกงล้อทั้ง 18 คน ซึ่งมีเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับพลังโจมตีของเตาอลวนหวูจี๋ กลับไม่ต่างอะไรจากของเปราะบางเลย
เพียงพลังโจมตีเดียว ร่างกายของมังกรฟ้าเสวียนหวงก็ถูกโจมตีจนทะลุเป็นรูกว้าง จากจักรพรรดิเทพเจ็ดกงล้อทั้งหมด 18 คน เพียงพริบตาเดียวก็มีคนตายไปแล้วห้าคน!
“นะ……นี่มันเป็นไปไม่ได้!”บัดนี้เทพธิดาเสวียนหวงก็ใจเย็นต่อไปไม่ได้แล้ว ใบหน้าที่เรียวบางดูตะลึงงันเล็กน้อย “มกุฎเทพคนหนึ่งจะมีทางแข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร……”
เมื่อพูดตามหลักการทั่วไป มกุฎเทพระดับเก้าคนหนึ่งย่อมไม่มีทางแข็งแกร่งขนาดนี้อยู่แล้ว แต่น่าเสียดายที่ผู้ที่พวกเขาพบเจอคือหลัวซิว!
นอกจากหลัวซิวจะบุกเบิกวิถีเซียนได้แล้ว พลังที่เขาควบคุมยังเป็นพลังแห่งวิถีเซียนด้วย ยิ่งกว่านั้นคือระดับขั้นของพลังประเภทนี้อยู่เหนือพลังแห่งประมุขเต๋าแล้ว!
บวกกับเตาอลวนหวูจี๋เป็นอาวุธเทพมหาศักดิ์ชั้นยอด พลังโจมตีที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากเตาเทพเตานี้ สามารถเทียบเคียงกับผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อที่แท้จริงได้
“นี่มันมกุฎเทพที่ไหนกัน นี่มันมหาจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่งชัด ๆ ……”จักรพรรดิเทพเจ็ดกงล้อที่เหลือ รวมไปถึงเทพธิดาเสวียนหวงต่างจ้องมองหลัวซิวด้วยสายตาที่หวาดผวา จิตใจเกิดอารมณ์ชั่ววูบที่อยากจะบินหนีไปจากที่นี่แล้ว
“เทพธิดา! ทำอย่างไรดีขอรับ? ศัตรูแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
“ใช่ขอรับเทพธิดา ขืนยังต่อสู้ต่อไป อย่าว่าแต่จะทำภารกิจสำเร็จเลย คาดว่าเราทุกคนคงต้องได้ตายอยู่ในนี้แน่นอน!”
จักรพรรดิเทพเจ็ดกงล้อทั้งหลายที่ยังมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในตอนแรก วินาทีนี้ล้วนตื่นตระหนกตกใจจนทำอะไรไม่ถูกกันหมดแล้ว
“หนี!”
เทพธิดาเสวียนหวงรีบทำการตัดสินใจทันที และเสี้ยววินาทีที่นางพูดคำพูดนี้ออกมา จักรพรรดิเทพเจ็ดกงล้อ 13 คนก็ต่างพากันผันร่างเป็นแสงกล แล้วหลบหนีออกไปยังทั่วทุกสารทิศ
“อ๊ากก!”
จักรพรรดิเทพเจ็ดกงล้อคนหนึ่งของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงกรีดร้องอย่างน่าเวทนา กงล้อเทพเจ็ดวงที่อยู่หลังศีรษะถูกเตาอลวนหวูจี๋พุ่งชนจนแตกสลายภายในพริบตา ร่างกายระเบิดแตกเป็นฝุ่นผง ตายจนตายซ้ำเป็นรอบที่สองไม่ได้แล้ว
“ไม่ ข้าไม่อยากตาย!”
มีจักรพรรดิเทพเจ็ดกงล้ออีกคนหนึ่งตะคอกโกรธเกรี้ยวอย่างไม่ยอมใจ เขาต้านทานอย่างสุดกำลังสามารถ แต่กลับถูกแสงเซียนดวงหนึ่งทะลวงหว่างคิ้ว วิญญาณดั้งเดิมช่องจิตแตกสลาย ร่างตายธรรมสูญ
สีหน้าลงของหลัวซิวเย็นเยือกอย่างยิ่ง เนื่องจากเขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าทันทีที่มหันตภัยปะทุ โลกมหาศักดิ์ทั้งแปดและโลกาฟ้าดินหลิงหลงต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่จบไม่สิ้นอย่างแน่นอน จากจุดยืนของมกุฎเต๋าหวูจี๋ เขาย่อมต้องยืนอยู่ฝั่งโลกมหาศักดิ์ทั้งแปดอยู่แล้ว ดังนั้นผู้ที่เขาสังหารในวินาทีนี้ล้วนเป็นศัตรูในอนาคต!
เมื่อปฏิบัติต่อศัตรู เขาย่อมไม่มีทางปราณีใด ๆ อยู่แล้ว
ขณะที่โจมตีทะลวงมังกรฟ้าเสวียนหวง เขาก็ได้ทำการสังหารจักรพรรดิเทพเจ็ดกงล้อไปห้าคนแล้ว แต่หลังจากจักรพรรดิเทพเจ็ดกงล้ออีก 13 คนที่เหลือต่างแยกย้ายกันหลบหนีออกไป หลัวซิวก็ทำได้เพียงสังหารทีละคน
“ดูท่าน่าจะไม่สามารถฆ่าทุกคนได้แล้วล่ะ”
หลัวซิวพูดพึมพำคนเดียวด้วยน้ำเสียงที่ต่ำทุ้ม จากผลการฝึกตน ณ ปัจจุบันของเขา ไม่ว่าจะกระตุ้นเตาอลวนหวูจี๋ก็ดี หรือปลดปล่อยพลังอมตะวรยุทธ์เซียนก็ช่าง ต่างก็ทำให้เขาต้องสูญเสียผลการฝึกตนค่อนข้างมากเลย
ทันใดนั้นเอง ตัวสำนึกของเขาก็ผนึกไปที่เทพธิดาเสวียนหวง เขาแอบฟังบทสนทนาของพวกคนในสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวง แล้วทราบว่าตัวตนของสตรีดังกล่าวพิเศษ อีกทั้งเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในบรรดาคนเหล่านี้ด้วย
“เข้าล็อกเดิม!”
หลัวซิวใช้มือทั้งสองข้างประสานอิน แล้วพุ่งสังหารออกไปภายในเสี้ยววินาที สรรพวิชาวิวัฒนาการพลังอมตะแล้วผนึกรวมกันเป็นแสงเซียนดวงหนึ่ง แสงเซียนผนึกรวมกันที่ปลายนิ้วเขา เห็นเพียงนิ้วมือของเขาขยายใหญ่ขึ้นกะทันหัน ราวกับเสาหินหนึ่งเสา ทลายอนัตตา แล้วพุ่งกดอัดสังหารไปทางเทพธิดาเสวียนหวง
พลังอมตะวิชานี้เป็นพลังอมตะที่ทรงพลังที่สุดของเขา เนื่องจากเป็นพลังอมตะที่เขาริเริ่มเอง เมื่อพูดถึงพลานุภาพ พลังอมตะวิชานี้จะแข็งแกร่งกว่าตรามหาหัตถ์ราชาเซียนหรือวิชาทะยานเซียนไม่น้อยเลย
อย่างไรก็ตาม พลังโจมตีที่มั่นใจว่าจะสามารถสังหารเทพธิดาเสวียนหวงนั่นได้กลับไม่เป็นดั่งหวัง
เห็นเพียงมีหอคอยเล็ก ๆ หลังหนึ่งที่มีธรรมเวชเสวียนหวงไหลเวียนปรากฏเหนือศีรษะเทพธิดาเสวียนหวง หอคอยเทวดังกล่าวน่ารักจุ๋มจิ๋ม มีชี่เหลืองที่เข้มข้นแพร่กระจายลงมาจากหอคอย ทำการคุ้มกันร่างกายนางไว้ และต้านทานพลังอมตะเข้าล็อกเดิมของหลัวซิวเอาไว้
“มันคือผู้ใดกันแน่? เห็น ๆ อยู่ว่าคลื่นผลการฝึกตนอยู่ในแดนมกุฎเทพ ทว่าเหตุใดศักยภาพจึงแข็งแกร่งเช่นนี้?”บัดนี้เทพธิดาเสวียนหวงรู้สึกหวาดหวั่นอย่างยิ่ง หากไม่ใช่เพราะสมบัติคุ้มกันชีวิตที่ท่านพ่อให้นางก่อนออกปฏิบัติภารกิจ คาดว่าจากพลังโจมตีในเมื่อครู่นี้ นางคงดับสลายสูญสิ้นไปแล้ว
“เผ่น! เจ้าหมอนั่นเก่งกาจเช่นนั้น มันต้องเป็นอัจฉริยะที่มีปัญญาแห่งวิถีเซียนอย่างแน่นอน ต้องนำข้อมูลของคนดังกล่าวกลับไปรายงานที่สำนักศักดิ์สิทธิ์ให้ได้!”
เทพธิดาเสวียนหวงควบคุมแสงกลอย่างสุดชีวิต ใช้ความเร็วที่รวดเร็วที่สุดบินหนีไปนอกอนัตตาตรีภพ ส่วนภารกิจในการช่วยเหลือประมุขเต๋าเยว่เทียนนั้น วินาทีนี้นางไม่มีกะจิตกะใจที่จะไปตรึกตรองเลยแม้แต่น้อย
……
ณ โลกาฟ้าดินหลิงหลงที่อยู่ห่างกันไกลมาก ๆ บนยอดเขาเซียนลูกหนึ่งที่มีเมฆหมอกลอยวนเป็นเกลียวมีวัดเต๋าตั้งอยู่หนึ่งหลัง ภายในตำหนักใหญ่ของวัดเต๋า จู่ ๆ ร่างกายอันสูงใหญ่ที่กำลังนั่งอยู่ในท่าขัดสมาธิก็สั่นเทาขึ้นมา
ในขณะเดียวกัน เขาก็ลืมตาทั้งสองข้างขึ้นมา ก่อนที่จิตสังหารจะตลบฟุ้งไปทั่ว
“ลูกสาวข้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...