จิตสังหารที่น่าสยดสยองผนึกร่างตัวเองเอาไว้ หลัวซิวเข้าใจดีมาก ๆ ว่าตัวเองไม่มีทางต้านทานพลังโจมตีนี้ของเจ้าศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงได้แน่นอน
ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ตอนนี้ผลการฝึกตนของเขาแห้งเหือด ต่อให้เขาอยู่ในสภาวะที่เฟื่องฟูจนถึงขีดสุด ก็ต้านทานไม่ไหวแน่นอน เนื่องจากอย่างน้อยเจ้าศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงก็เป็นผู้แกร่งเลิศคนหนึ่ง ทั้งยังเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นสุดยอดในหมู่ผู้แข็งแกร่งด้วย
“นี่คือความน่าเศร้าของศักยภาพที่อ่อนแอสินะ”
หลัวซิวส่ายหน้าพลางยิ้มอย่างขมขื่น แม้นเส้นทางการฝึกยุทธ์ในภพชาตินี้จะได้ประสบกับศัตรูตัวฉกาจคนแล้วคนเล่า ทว่าในเส้นทางการเจริญเติบโตที่ยาวไกล เขาล้วนข้ามผ่านความทุกข์ยากลำบากส่วนมากด้วยพลังของตัวเอง
แต่ว่าช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เขาถูกจู่โจมติดต่อกันสองครั้ง ครั้งหนึ่งคือตู๋กูเจี้ยนเฉินลงมือช่วยเหลือ ส่วนอีกครั้งหนึ่งคือศิษย์พี่ตู๋กูลงมือช่วยเหลือ
เห็นได้ชัดเจนมากเลยว่าศัตรูตัวฉกาจของเขาในปัจจุบันอยู่เหนือขอบข่ายพลังที่เขาสามารถรับไหวแล้ว อีกทั้งในจำนวนผู้แข็งแกร่งที่ลงมือต่อเขา แต่ละคนคนหนึ่งแข็งแกร่งกว่าคนหนึ่งเสียอีก
“เวิ่งง!”
ทันใดนั้นเอง เตาอลวนหวูจี๋ก็บินลอยออกไป สีหน้าอารมณ์ของหลัวซิวดูงุนงง เนื่องจากเขาไม่มีผลการฝึกตนที่จะกระตุ้นเตาเทพเตานี้ได้แล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าเตาเทพเตานี้จะบินออกไปเองอย่างนั้นหรือ?
แต่วินาทีต่อไปหลัวซิวก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากมีแสงกระบี่ดวงหนึ่งบินออกมาจากเตาอลวนหวูจี๋
“ตู้มม!”
จากการที่มีเสียงดังกึกก้องดังขึ้น แสงกระบี่ที่แวววาวจับตาก็ฉีกกระชากตรีภพ ก่อนจะพุ่งชนเข้ากับฝ่ามือที่เลือนลาง
“หื้ม?”
สีหน้าของเจ้าศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงที่อยู่ในโลกาฟ้าดินหลิงหลงเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย เขานึกไม่ถึงเลยว่าพลังโจมตีที่สามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้ของตัวเองจะถูกผู้อื่นต้านทานเอาไว้ในช่วงเวลาสำคัญ
ก้าวผ่านการขวางกั้นของพื้นโลกดารา เขาก็แค่สามารถอาศัยสายเลือดที่เชื่อมประสานกับลูกสาวกระตุ้นพลังอมตะวิชาหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถลงมือโจมตีได้อีกแล้ว และหลังจากพลังอมตะดังกล่าวถูกต้านทานไป กระจกที่ประกอบมาจากละอองน้ำที่อยู่ตรงหน้าเขาก็ค่อย ๆ สลายหายไปเช่นกัน ทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นลาดเลาฝั่งหลัวซิวได้อีก
“ศิษย์พี่ ท่านช่วยชีวิตข้าไว้อีกครั้งแล้ว”
กลางห้วงดาราแห่งหนึ่งที่ยุ่งเหยิง เตาอลวนหวูจี๋บินกลับมาข้างกายหลัวซิว หลังจากเห็นว่ามีแสงกระบี่ดวงหนึ่งบินออกมาจากเตาอลวนหวูจี๋ หลัวซิวก็รู้แล้วว่านี่ต้องเป็นพลังอมตะที่ศิษย์พี่ตู๋กูเขาทิ้งไว้ในเตาเทพแน่นอน
จากผลการฝึกตนของตู๋กู การที่เขาทิ้งพลังอมตะวิชาหนึ่งไว้ในเตาเทพนั้น แม้แต่ตัวหลัวซิวเองก็สังเกตไม่เห็นเช่นกัน เห็นได้ชัดเจนเลยว่าตู๋กูไม่อยากให้หลัวซิวรู้สึกว่าตนสามารถทำตัวกำเริบเสิบสานได้เพราะมีพลังอมตะคุ้มกันชีวิตติดตัว
เตาอลวนหวูจี๋บินเข้าไปกลางหว่างคิ้ว หลัวซิวเก็บแหวนเก็บของและของขลังอาวุธเทพของจักรพรรดิเทพเจ็ดกงล้อทั้ง 18 แห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงมา เขามองไปยังทิศทางของวังดับฟ้ารอบหนึ่ง ก่อนจะผันร่างเป็นแสงกลภายในพริบตา แล้วหายไปจากส่วนลึกของห้วงดารา
มีเรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้น เขาต้องไม่กล้าฝึกตนอยู่ที่นี่ต่ออยู่แล้ว ถ้าเกิดสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงส่งผู้แข็งแกร่งที่เก่งกาจกว่ามาอีก เขาก็ไม่มีพลังอมตะที่สองมาคุ้มกันชีวิตได้อีกแล้วนะ
ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นฝั่งวังดับฟ้านั้น เขาจำเป็นต้องรีบย้อนกลับไปยังอาณากระบี่หวูจี๋ เพื่อรายงานเรื่องดังกล่าวให้อาจารย์และศิษย์พี่ตน อย่างไรเสียผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าคนหนึ่งก็เป็นบุคคลที่สำคัญต่อศึกสงครามระหว่างพื้นโลกดารามาก ๆ
ในยุคสมัยที่ห้วงดาราไม่มีเซียน มกุฎเต๋าถือเป็นการคงอยู่ชั้นยอดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมกุฎเต๋าในโลกมหาศักดิ์ทั้งแปด หรือมกุฎเต๋าในโลกาเทพมังกรไท่ชูและโลกาฟ้าดินหลิงหลง บุคคลอย่างพวกเขาจะไม่ลงมือง่าย ๆ ทันทีที่พวกเขาลงมือ เช่นนั้นมันต้องเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่มหันตภัยได้ปะทุโดยสิ้นเชิงแล้ว
และก่อนที่จะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดที่ต่อกรซึ่งกันและกันก็เป็นเพียงประมุขเต๋า ทว่าการต่อสู้ของผู้สูงส่งกลับมีมากกว่า
อาศัยอุบายฉีกกระชากอนัตตา หลัวซิวจึงกลับมาถึงโลกร้างอย่างรวดเร็ว
……
ณ โลกาฟ้าดินหลิงหลง ตำหนักหลักแห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวง
“ท่านพ่อ!”
เสียงที่ตะลึงและโกรธเกรี้ยวดังขึ้น ถัดจากนั้นก็มีชายหนุ่มที่ใบหน้าหล่อเหลา สีหน้าอารมณ์ดูหยิ่งยโสคนหนึ่งบินเข้ามาในประตูใหญ่ของตำหนักหลัก
“ฮ่าวเอ๋อร์? เจ้ามาทำอะไร?”เจ้าศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงขมวดคิ้วลงเล็กน้อย เขาเริ่มคาดเดาได้ลาง ๆ แล้วว่าเหตุใดลูกชายคนนี้ของตนจึงต้องมาที่นี่
“ท่านพ่อกำลังถามทั้ง ๆ ที่รู้คำตอบอยู่แล้วหรือ? เซวียนเอ๋อร์นางตายแล้ว! นางตายแล้วท่านทราบหรือไม่? เหตุใดท่านพ่อจึงไม่ลงมือช่วยเหลือนาง?”หลิงฮ่าวถามอย่างโกรธเกรี้ยว
เจ้าศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “พ่อลงมือแล้ว แต่กลับไม่สามารถช่วยเซวียนเอ๋อร์เอาไว้ได้”
หลิงฮ่าวผงะ เขาเข้าใจดีมากว่าท่านพ่อรักน้องสาวมากเพียงใด ฉะนั้นท่านพ่อต้องลงมืออย่างแน่นอน เขาแค่รู้สึกโกรธจนสับสนไปหน่อย
แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้หลิงฮ่าวรู้สึกตะลึงงันจริง ๆ คือแม้แต่ท่านพ่อที่เป็นเจ้าศักดิ์สิทธิ์ยังลงมือแล้ว เหตุใดน้องสาวจึงยังตายได้อีก?
“ท่านพ่อ ท่านต้องล้างแค้นให้น้องนะขอรับ! ตกลงคนที่สังหารนางคือผู้ใดกันแน่?”ภายในแววตาหลิงฮ่าวเต็มเปี่ยมไปด้วยไฟแห่งความโกรธแค้น
เจ้าศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงถอนหายใจอีกเฮือกหนึ่ง เขาไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด แต่เป็นการยกมือขึ้นมาขยำทีหนึ่ง ก่อนจะมีรัศมีดวงหนึ่งปรากฏกลางฝ่ามือเขา แล้วมีคัมภีร์สำนักปรากฏหนึ่งฉบับ
เห็นเพียงเขาโยนคัมภีร์สำนักออกไป ก่อนที่มันจะบินไปตรงหน้าหลิงฮ่าวลูกชายตน
หลิงฮ่าวยื่นมือออกไปรับคัมภีร์สำนักมา หลังจากเขาเห็นเนื้อหาที่บันทึกอยู่ในคัมภีร์สำนักแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
สิ่งที่บันทึกอยู่บนคัมภีร์สำนักฉบับนี้คือข้อมูลของหลัวซิว สำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงได้ส่งผู้แข็งแกร่งลักลอบเข้าไปในโลกมหาศักดิ์ทั้งแปดแล้วทำการสังหารอัจฉริยะที่มีศักยภาพ ซึ่งหลัวซิวก็คือหนึ่งในนั้นนั่นเอง
บนคัมภีร์สำนักไม่เพียงบันทึกชีวประวัติในภพชาตินี้ของหลัวซิว แม้แต่ข้อมูลของไท่ซ่างฉิงในอดีตชาติของเขาก็รวบรวมได้ครบครันอย่างยิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...