มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2887

“แม่มเอ้ย แน่จริงอย่าหนีสิวะ!”

มหาจักรพรรดิยุทธ์เซวี่ยตู๋โกรธจนกระอักเลือด เพื่อที่จะฝึกเซ่นมังกรพิษเก้าตัวนั้น เขาใช้เวลาหลายร้อยล้านปี แต่กลับต้องดูมันจะถูกฉกไปกับตาโดยเด็กหนุ่มที่ผลการฝึกตนอ่อนแอกว่าตัวเอง หนำซ้ำเขาก็ยังไม่สามารถตามไปเอาคืนมาได้ทันอีกด้วย?

“ไอ้พวกข้างล่างที่รับผิดชอบรายงานสถานการณ์มันทำบ้าอะไรกันอยู่วะ เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าพลังของไอ้เด็กนี่มันแข็งแกร่งกว่าในรายงานไม่รู้ตั้งกี่เท่า!”

แม้ว่าจะเต็มไปด้วยคำก่นด่าและความโกรธ แต่มหาจักรพรรดิยุทธ์เซวี่ยตู๋ก็ยังคงใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดของตนเองไล่ตามไป

ความเร็วของมหาจักรพรรดิยุทธ์เซวี่ยตู๋นั้นไม่อยู่ในสายตาของหลัวซิว ถึงแม้ความเร็วของมหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจจะเร็วกว่าเขา แต่หากอาศัยเพียงมหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจแค่คนเดียว หลัวซิวก็ไม่ต้องเสียเวลาเลย สามารถบินหนีไปได้ตลอดเวลา

“ไอ้หนู หยุดอยู่ตรงนั้น!”

มหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจอัญเชิญหอคอยปีศาจสีดำสนิทไล่ตามไป หอคอยปีศาจสั่นสะท้าน รชนีปีศาจสีดำสนิทหลายสายมืดฟ้ามัวดินพัดพาเข้ามา

ตึง! ตึง! ตึง! ……

รชนีปีศาจจำนวนมหาศาลโจมตีลงบนเตากลั่นนภาจื่อเซียว เห็นเพียงเตาเซียนเตานี้ที่สั้นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง แต่ภายใต้การหนุนของพลังแห่งวิถีเซียน การป้องกันของเตาเซียนก็ยังสามารถฝืนป้องกันเอาไว้ได้

อีกทั้งผลข้างเคียงของการโจมตีจากรชนีปีศาจ ทำให้ความเร็วของหลัวซิวกลับกลายเป็นยิ่งพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วขึ้น

“เงามายาปีศาจนภา!”

หลัวซิวหันหลังกลับไปมอง เห็นเพียงร่างของมหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจที่หายไปต่อหน้าต่อตา กลายเป็นลำแสงสีดำสนิท เศษเงาเรียงกันเป็นชุด ทันใดนั้นระยะห่างระหว่างเขากับหลัวซิวจึงสั้นลงมาก

“สว่างมืดกักกัน!”

มหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจกางมือออก ทันใดนั้นรัชนีปีศาจสีดำที่ม้วนเป็นคลื่นก็พุ่งออกมา รวมตัวกันเป็นวงกลมของดวงอาทิตย์สีดำสนิท จากนั้นก็ม้วนเป็นแสงสีขาวเจิดจ้า หลอมรวมเป็นดวงอาทิตย์สีขาวที่ลุกโชน!

หนึ่งดำหนึ่งขาว พระอาทิตย์ดวงโตสองดวงลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า รวมกันกลายเป็นค่ายกักกันหนึ่งค่าย ท้องฟ้าเต็มไปด้วยโซนนภาที่ล้อมรอบตัวหลัวซิวเอาไว้หลายแสนลี้!

นี่คือหนึ่งในพลังอมตะที่แกร่งกล้าที่สุดของมหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจ ภายใต้สถานการณ์ปกติ เขาแทบจะไม่สำแดงวิชานี้ เพราะวิชาพลังอมตะนี้สิ้นเปลืองผลการฝึกตนของเขาอย่างมาก อย่างไรก็ตามเขาได้ฆ่าคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังมากมายด้วยพลังอมตะนี้ เมื่อถูกคุมขังโดยพลังอมตะนี้ พลังแห่งสว่างมืดจะบีบอัดและบดขยี้คู่ต่อสู้ภายในอย่างต่อเนื่อง

หลัวซิวจ้องมองออกไป แน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะต้านพลังอมตะนี้ไปตรง ๆ เห็นเพียงเขายกมือขึ้นตบเตาอลวนหวูจี๋ครั้งหนึ่ง ระหว่างที่แสงเทวพวยพุ่ง ก็หลอมรวมออกมาเป็นภาพมายาผู้สูงส่ง

“ปัง! ”

ภาพมายาผู้สูงส่งกางสองมือใหญ่ออก แล้วตบดวงอาทิตย์สว่างมืดที่ลอยเคว้งอยู่บนกลางอากาศ

คลื่นพลังงานจำนวนมหาศาลถาโถมเข้าใส่ พลังทำลายล้างสรรพสิ่งก็ปะทุออกมา ภาพมายาผู้สูงส่งที่ถูกหลอมรวมขึ้นโดยเตาเทพ พลันแตกสลายเป็นส่วน ๆ แม้แต่หลัวซิวเองก็ถูกแรกกระแทกกลับเช่นกัน ละอองเลือดจำนวนมากพวยพุ่งออกมาทั่วร่างของเขา เลือดสดไหลโชก

ในเวลาเดียวกัน ปริภูมิที่ถูกกักขังก็พลันหายตามไปด้วย และหลัวซิวก็รีบบินหนีออกไปโดยไร้ซึ่งความลังเล

พลังอมตะถูกทำลาย มหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน ภายใต้ผลกระทบของพลังแห่งการทำลายล้าง เลือดเนื้อทั่วร่างกายของเขาก็ระเบิดออกมา ปรากฏคราบเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขาเช่นกัน

“ไอ้เด็กเวร! ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่!”

มหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจโกรธจนไม่อาจให้อภัยได้ แววตาเผยรังสีสังหารเหมือนจะกินคนออกมาจากดวงตาคู่นั้น ตัวสำนึกของเขาตรึงเอาไว้ที่ตัวของหลัวซิวอีกครั้ง กลายเป็นลำแสงสีดำไล่ตามออกไป

“รชนีปีศาจ ไอ้เวรตะไล!”

มหาจักรพรรดิยุทธ์เซวี่ยตู๋ไล่ตามมาจากด้านหลังอย่างลำบากลำบน แต่เมื่อมาถึงอีกครั้ง การปะทะกันของหลัวซิวและมหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจก็จบลงและเริ่มออกตัวหนีอีกครั้ง

“เจ้าพูดอะไร? ถ้ากล้าก็พูดอีกครั้งซิ?”

มหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจเพิ่งเสียเปรียบให้กับหลัวซิวไปเมื่อครู่ ในเวลานี้คือช่วงเวลาที่เขากำลังหัวเสียถึงที่สุด เมื่อได้ยินมหาจักรพรรดิยุทธ์เซวี่ยตู๋ด่าตนมาอย่างนั้น ก็พลันถลึงตาจนกลมโตในทันที ดูเหมือนจะเบนสายตากินคนไปทางมหาจักรพรรดิยุทธ์เซวี่ยตู๋แทน

หากมีมังกรพิษเก้าตัวอยู่ในมือ มหาจักรพรรดิยุทธ์เซวี่ยตู๋ย่อมไม่มีทางหวาดเกรงต่อสายตากินคนของมหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจอย่างแน่นอน แต่ว่าในเวลาเช่นนี้ไม่ใช่เวลามาถือสากับเรื่องอะไรแบบนี้ เขาใช้สีหน้าที่เคร่งขรึมพร้อมเอ่ยพูด “อย่าบอกนะว่าเจ้ายังมองสถานการณ์ไม่ออก? เจ้าเพียงคนเดียวไม่สามารถทำอะไรมันได้ มีเพียงแค่เจ้าร่วมมือกับข้าเท่านั้นจึงจะมีโอกาสกำจัดมันได้!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สายตาที่ดุดันของมหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจก็อ่อนลงไปมากโข พูดพร้อมขมวดคิ้ว “เจ้าพูดมาก็ดูมีเหตุผล”

มหาจักรพรรดิยุทธ์เซวี่ยตู๋พูดด้วยน้ำเสียงไม่สลอารมณ์ “ข้าไม่เชี่ยวชาญด้านความเร็ว เจ้าขับเคลื่อนแสงกลพาข้าไล่ตามไป จะต้องจัดการไอ้เวรนั่นได้แน่นอน!”

แน่นอนว่ามีประโยคหนึ่งที่มหาจักรพรรดิยุทธ์เซวี่ยตู๋ไม่ได้กล่าวไว้ นั่นคือ รอให้ข้าแย่งมังกรพิษเก้าตัวกลับมาได้ก่อน ค่อยมาคิดบัญชีกับเจ้า

มหาจักรพรรดิยุทธ์ทั้งสองต่างก็เกลียดหลัวซิวเข้าไส้ เมื่อได้ยินคำแนะนำจากมหาจักรพรรดิยุทธ์เซวี่ยตู๋ ทันใดนั้นมหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจก็โบกมือขึ้นสำแดงวิชาแสงกลอย่างไม่ลังเล พามหาจักรพรรดิยุทธ์เซวี่ยตู๋ไล่ตามไปด้วยกัน

ถึงแม้ว่าจะมีคนเพิ่มมอีกคน แต่ความเร็วของมหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจก็ยังคงเร็วกว่าหลัวซิวอยู่ดี ผ่านไปไม่นาน ก็พบร่องรอยของหลัวซิวอยู่ที่ท้องนภาด้านหน้า

“โอ้? ในที่สุดสมองของมหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจก็ฉลาดขึ้นเสียที ไม่สู้คนเดียวแล้ว?”

หลัวซิวหันหลังไปมองแวบหนึ่ง ก็สามารถสัมผัสได้ว่าท่ามกลางแสงกลนั้นมีออร่าของรชนีปีศาจและเซวี่ยตู๋สองผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์อยู่

ไม่นานจากนั้น มหาจักรพรรดิยุทธ์ทั้งสองไล่ตามมาพร้อมกัน ซ้ายหนึ่งขวาหนึ่งล้อมโจมตีเขาไว้

“มาได้จังหวะพอดี!”

หลัวซิวไม่ถอยแต่เดินหน้าต่อ แสงเซียนรอบกายปะทุขึ้น ทันใดนั้นก็สำแดงพลังอมตะพุ่งเข้าหามหาจักรพรรดิยุทธ์ทั้งสอง ทำสงครามกันอย่างดุเดือดบนท้องนภา

การต่อสู้ครั้งนี้ รุนแรงกว่าการต่อสู้กับมหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจเพียงผู้เดียวไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า อนัตตาทั่วทั้งผืนแตกเป็นเสี่ยง ๆ กลายเป็นความโกลาหล ภูเขาบางแห่งด้านล่างยังประสบกับภัยพิบัติตามไปด้วยเช่นกัน ถูกทำลายจากการต่อสู้กันระหว่างทั้งสาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ