“สามารถฝึกตนได้ถึงผู้แข็งแกร่งแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ ไม่มีสักคนที่จะสามารถจัดการได้ง่าย ๆ เลยจริง ๆ”
ในครั้งนี้ไม่สามารถยึดมังกรพิษเก้าตัวทั้งหมดเอาไว้ได้ ถึงแม้หลัวซิวจะรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง แต่ก็พึงพอใจมากแล้ว
ถึงอย่างไร นั่นก็เป็นถึงผู้แข็งแกร่งแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปด เขาใช้ผลการฝึกตนแดนมกุฎเทพแย่งชิงการคุ้มกันของมหาจักรพรรดิยุทธ์ผู้แข็งแกร่งมาได้ ไม่ต่างอะไรกับการถอนเขี้ยวออกจากปากเสือ
หากไม่ใช่เพราะพลังอำนาจอันไร้เทียมทานของของขลังเตาอลวนหวูจี๋ชิ้นนี้ หลัวซิวก็รู้ตัวดีว่าตนจะไม่มีทางมีพลังเฉกเช่นนี้ได้
ขาของเขาเพิ่งจะก้าวลงสู่พื้นโลกของเมืองต้าฮวงโบราณ ทันใดนั้นก็มีเสียงฟ้าร้องดังสนั่นบนท้องฟ้าเหนือหัว เมฆสีดำที่รวมตัวกันเป็นลูกคลื่น สีดำสนิทเหมือนน้ำหมึก สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์
“ทัณฑ์สายฟ้าช่างมาได้อย่างรวดเร็วดีเหลือเกิน”
สำหรับสิ่งนี้หลัวซิวไม่ได้ประหลาดใจแต่อย่างใด เขาฝึกตนมาถึงวันนี้ ไม่รู้ว่าผ่านมาทัณฑ์สายฟ้าพิโรธมามากน้อยเพียงใดแล้ว มันเหมือนเป็นความเคยชินสำหรับเขาไปเสียแล้ว
เมื่อเทียบกับนักยุทธ์คนอื่น ๆ ที่บรรลุแดนใหญ่จึงจะมีทัณฑ์สายฟ้าลงมาเยือน แต่เขากลับมีทัณฑ์สายฟ้าให้ทุก ๆ การบรรลุแดนเล็ก หากเว้นระยะไปช่วงหนึ่งแต่ยังไม่ถูกสายฟ้าฟาดนั่นก็กลับกลายเป็นความไม่เคยชินไปเสียอย่างนั้น
“ปัง! ปัง! ปัง!”
ทัณฑ์สายฟ้าใช้เวลาไม่นานในการควบแน่น ในพริบตา สายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนก็ตกลงมาจากบนฝากฟ้าท้องฟ้า
ท่ามกลางบททดสอบอันยิ่งใหญ่ที่โดนถล่มด้วยสายฟ้านั้น สีหน้าของหลัวซิวกลับแสดงออกมาถึงความรู้สึกผ่อนคลาย อาศัยร่างเนื้อเคล็ดเซียนแปรเก้าขั้นที่ห้า เรียกได้ว่าเป็นสมบัติแห่งจักรพรรดิเทพชั้นยอด ทัณฑ์สายฟ้าในระดับเช่นนี้สำหรับเขา ก็เหมือนการนอนแช่อยู่ในน้ำร้อนเท่านั้น
“นั่นคืออะไรน่ะ!”
“มีคนกำลังข้ามผ่านทัณฑ์?”
“เหตุใดเมฆทัณฑ์จึงเคลื่อนที่ได้?”
“……”
ตามระยะห่างของหลัวซิวที่เข้าใกล้เมืองต้าฮวงโบราณยิ่งใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ นักยุทธ์ซึ่งมีหน้าที่รักษากำแพงเมือง ทันใดนั้นก็เห็นกลุ่มเมฆทัณฑ์สายฟ้า เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เมืองต้าฮวงโบราณมากขึ้นเรื่อย ๆ
ทันใดนั้น ทหารรักษาการณ์จำนวนมากบนกำแพงเมือง ก็รู้สึกราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ!
แดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจและชนเผ่าเฉว่ซ่าได้ประกาศสงครามแล้ว มหาสงครามสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ สถานการณ์พิเศษใด ๆ ก็ตามก็สามารถดึงดูดความสนใจจากเมืองต้าฮวงโบราณได้เป็นอย่างดี
“ข้าดึงดูดความสนใจมากเกินไปหน่อยหรือเปล่า?”
ภาพเงาของเมืองต้าฮวงโบราณปรากฏขึ้นในสายตา หลัวซิวก็รู้สึกถึงตัวสํานึกอันแข็งแกร่งจำนวนหนึ่งที่กวาดเข้ามา อาจเป็นเพราะความกลัวจากทัณฑ์สายฟ้า ตัวสํานึกเหล่านี้จึงลอยอยู่ใกล้ ๆ ไม่กล้าเข้าใกล้จนเกินไป
ทัณฑ์สายฟ้าของนักยุทธ์เป็นถึงพลังแห่งทัณฑ์สวรรค์ บริเวณโดยรอบของทัณฑ์สวรรค์ที่ลงมานั้น ไม่มีการโจมตีอย่างแบ่งแยก และตัวสำนึกเมื่อเทียบกับตัวของนักยุทธ์แล้วจะค่อนข้างอ่อนแอกว่า ดังนั้นจึงไม่กล้าเข้าไปต้านอำนาจของทัณฑ์สวรรค์โดยตรง ๆ
แน่นอนว่า คนที่เหมือนอย่างหลัวซิวที่วิญญาณตัวสำนึกได้ฝึกตนถึงระดับพลังแห่งญาณเทวแล้วนั้น จะไม่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้
เมื่อเห็นว่าทัณฑ์สายฟ้าดูเหมือนจะไม่มีการสิ้นสุดในเร็ว ๆ นี้ หลัวซิวย่อมไม่เอาทัณฑ์สายฟ้าเคลื่อนเข้าไป ดังนั้นเขาจึงอยู่ในที่เดิมก่อน โดยตั้งใจว่าเมื่อจบทัณฑ์สายฟ้าแล้วค่อยว่ากันอีกที
“มีคนกำลังข้ามผ่านทัณฑ์จริง ๆ ด้วย ดูจากพลังของทัณฑ์สายฟ้าแล้ว ดูเหมือนจะมีคนกำลังบรรลุแดนจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดใช่หรือไม่?”
“อีกฝ่ายหยุดการเคลื่อนที่แล้ว น่าจะเป็นมิตรไม่ใช่ศัตรู เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นผู้เพื่อนยุทธ์จากสำนักใด จึงได้มาข้ามผ่านทัณฑ์ถึงที่นี่”
บนกําแพงเมืองนักยุทธ์หลายคนที่ได้รับข่าวต่างมารวมตัวกัน พวกเขาต่างก็พากันพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้
สองชั่วยามต่อมา ทัณฑ์สายฟ้าก็สลายตัว นักยุทธ์หลายคนก็กระจายตัวสํานึกออกไปในทันที เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีดำ หน้าตาเหมือนวัยหนุ่มสาวกำลังเดินไปทางเมืองต้าฮวงโบราณ
“คนผู้นี้เหตุใดจึงรู้สึกเหมือนเคยพบเจอ?”
“เป็นเจ้าสำนักน้อยแห่งอาณากระบี่หวูจี๋ ว่ากันว่าเป็นผู้สูงส่งไท่ซ่างกลับชาติมาเกิด ในชาตินี้เขามีนามว่าหลัวซิว!”
สถานะของหลัวซิวไม่นานก็ถูกผู้คนจำได้ ถึงอย่างไรเขาในวันนี้สำหรับโลกร้างก็ถือว่าเป็นบุคคลที่มีหน้ามีตาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นร่างเกิดใหม่ของผู้สูงส่งไท่ซ่าง หรือสถานะเจ้าสำนักน้อยแห่งอาณากระบี่หวูจี๋ ต่างก็เพียงพอให้นักยุทธ์จำนวนมากจดจำเขาได้
เมื่อมาถึงประตูเมืองของเมืองต้าฮวงโบราณ หลัวซิวก็หยิบใบเชิญขึ้นมา ทหารยามที่ประตูทำความเคารพด้วยความหวาดกลัว หลัวซิวก้าวเท้าเดินเข้าเมืองไป
เข้ามาในเมืองต้าฮวงโบราณ สายตาของหลัวซิวก็ทอดมองออกไปยังทิศทางของตำหนักหลักเมือง ออร่าอันกว้างใหญ่และทรงพลังรวมตัวกันในทิศทางของตําหนักหลักเมือง ทรงพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
“กงล้อเทพมากมายเหลือเกิน……”
แววตาของของหลัวซิวก็เผลอมองอย่างอดไม่ได้ เพราะในท้องฟ้าเหนือตําหนักหลักเมือง กงล้อเทพที่ส่องประกายระยิบระยิบที่มากมาย ลอยเคว้งอยู่ในอากาศเหมือน ราวกับดวงอาทิตย์จำนวนเป็นหมื่น!
กงล้อเทพนับหมื่นเรียงรายกันอยู่ในอนัตตา แตกต่างกันอย่างชัดเจน กงล้อเทพที่อยู่สูงที่สุดมีขนาดที่ใหญ่ที่สุด พลังเต๋าที่อยู่ภายในนั้นก็ทำให้คนตื่นตกใจมากที่สุด และนั่นคือกงล้อเทพของผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่ง
ต่ำลงมา เป็นกงล้อเทพของผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ มีมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปด และมีมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้า
ต่ำลงมาอีก ก็จะเป็นจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ด!
“ช่างน่าตื่นตาตื่นใจจริง ๆ”
หลัวซิวพูดด้วยความรู้สึกมหัศจรรย์ เพียงแค่กงล้อเทพของจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดขึ้นไป เขาก็สามารถมองเห็นหมื่นผสมได้แล้ว
ภาพนั้นไม่เพียงแต่ทำให้หลัวซิวตื่นตาตื่นใจได้ ทุกคนที่อยู่ในเมืองต้าฮวงโบราณณต่างตื่นตกใจและหวาดกลัวอย่างสุดหัวใจ เพราะผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดที่โดยปกติจะไม่ค่อยได้พบเจอ อาจกล่าวได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น แม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ที่สูงส่งเช่นนั้นก็ยังปรากฏตัวพากันขึ้นทีละคน ๆ อีกด้วย
มีผู้แข็งแกร่งมากมายรวมตัวกัน พลังศักดิ์สิทธิ์อันมหาศาลปกคลุมฟ้าดิน พลังเช่นนี้ ต่อให้เป็นผู้แกร่งเลิศมาเยือน ก็เกรงว่ายังต้องอ้อมเดิน
เมื่อหลัวซิวมาถึงยังตำหนักหลักเมือง ลานด้านหน้าของตำหนักหลักเมืองก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมายรวมตัวกันอยู่ก่อนแล้ว ส่วนผู้ที่มีสิทธิ์เข้าไปในงานประชุมในตำหนักหลักของตําหนักหลักเมืองนั้น ไม่เพียงแต่ต้องมีผลการฝึกตนบรรลุถึงแดนจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดขึ้นไป นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องมีตัวตนและสถานะที่สมควรอีกด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...