เจ้าเมืองต้าฮวงไม่พูดอะไรอีก เช่นนั้นทุกคนที่อยู่ตรงนี้ก็ยิ่งไม่มีคุณสมบัติที่จะกล่าวแทรก
สายตาของฮวงจวินจ้องมองหลัวซิวอย่างเยือกเย็น ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาอย่างช้า ๆ แล้วแบมือออก “เอามา”
แม้จะเป็นเพียงเงาลวงตัวสำนึก ไม่มีผลการฝึกตนใด ๆ ปะปนอยู่ ทว่าอำนาจบารมีของผู้แกร่งเลิศแห่งยุคนั้นลึกล้ำมิอาจคาดเดา ทำให้บรรดาผู้แข็งแกร่งที่นั่งอยู่รอบข้างหลัวซิวต่างรู้สึกถึงพลังกดดันอันมหาศาล
“เอาอะไร?” หลัวซิวท่าทางสงบนิ่ง สบตากับฮวงจวินอย่างไม่เกรงกลัว มีผู้แข็งแกร่งโลกยุทธ์ที่แข็งแกร่งกว่าเขาบนโลกใบนี้ แต่ไม่มีผู้ใดที่สามารถสั่นคลอนเขาหลัวซิวได้ด้วยการอาศัยเพียงพลังกดดัน
อำนาจบารมี พลังกดดันที่ว่า มีต้นกำเนิดมาจากพลังของตัวธรรมเท่านั้น ส่วนตัวธรรมของหลัวซิวนั้นแข็งแรงไร้ที่เปรียบ ทนทานมิอาจทำลายได้!
“ถึงขั้นนี้แล้วเจ้ายังคิดทำเป็นไม่รู้เรื่องอีกหรือ? เจ้ามอบหอคอยฮวงดั้งเดิมออกมาเอง ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า มิเช่นนั้น......”
ฮวงจวินพูดยังไม่ทันจบ กลับถูกหลัวซิวโบกมือตัดคำพูด เห็นเพียงเขายิ้มอ่อน ๆ มองฮวงจวินด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความเย้ยหยัน “มิเช่นนั้นอย่างไร?”
ระหว่างที่พูดนั้น ร่างของหลัวซิวยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เหยียดตรงไม่ขยับเขยื้อน กล่าวอย่างเย้ยหยัน: “หอคอยฮวงยอมรับข้าเป็นผู้ครอบครอง จะว่าไปแล้วข้าถึงเป็นนายของหอคอยฮวง ผู้เป็นนายอย่างข้าอัญเชิญหอคอยฮวงถึงสองครั้งต่างก็ถูกท่านขัดขวางเอาไว้ ท่านรู้หรือไม่ว่าสองครั้งนี้เกือบทำให้ข้าต้องตายเต๋าสลาย?”
“ข้ามิได้ให้ท่านคืนหอคอยฮวงให้ข้า ท่านกลับมาถามเอาหอคอยฮวงดั้งเดิมกับข้าอย่างหน้าไม่อาย? หนังหน้าของผู้แกร่งเลิศอย่างท่านช่างด้านทนยิ่งกว่าการป้องกันของหอคอยฮวงมากนัก!”
หลัวซิวมีท่าทีบีบคั้น ดุเดือดก้าวร้าว ไม่มีความเคารพนอบน้อมเพราะอีกฝ่ายคือฮวงจวินอยู่เลยสักนิด
“เจ้าอยากตายหรืออย่างไร?”
เด็กหนุ่มคนหนึ่งกลับกล้าพูดกับตนเองเช่นนี้ ฮวงจวินจึงรู้สึกโมโหขึ้นมาเล็กน้อย แม้ว่าชาติก่อนหลัวซิวก็เป็นผู้สูงส่งเช่นกัน แต่ก็เป็นเพียงผู้สูงส่งขั้นปฐมภูมิเท่านั้น ไม่อาจเทียบกับผู้แกร่งเลิศอย่างเขาได้เลย
สำหรับสถานะอาณากระบี่หวูจี๋ ด้วยสถานะตำแหน่งของฮวงจวิน ก็ยิ่งไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา
“ตายงั้นหรือ?” หลัวซิวหัวเราะเสียงดัง ฮึกเหิมลำพอง กล่าวอย่างเยาะเย้ย: “ต่อให้ท่านคิดอาศัยผลการฝึกตนมาสังหารข้า แค่อาศัยเงาลวงตัวสำนึกที่ไร้ซึ่งผลการฝึกตน ท่านจะเอาอะไรมาสังหารข้า?”
“เจ้าคนไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ กล้าล่วงเกินผู้สูงส่ง ช่างสมควรตายยิ่งนัก!”
โจว๋ชิวที่อยู่ด้านข้างในฐานะที่เป็นลูกศิษย์ของฮวงจวินได้ตวาดขึ้นมาเสียงดัง ซัดฝ่ามือเข้าหาหลัวซิว
เขาอยากประลองฝีมือกับหลัวซิวมานานแล้ว ก่อนหน้านี้เขาไม่สมปรารถนาเนื่องจากการมาของเจ้าเมืองต้าฮวง พอลงมือในตอนนี้ จึงแฝงไว้ด้วยเจตนาฆ่า มิได้ยั้งมือเลยสักนิด
“แดนจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดช่วงกลาง!”
ทันทีที่โจว๋ชิวลงมือ ก็ทำให้ใครหลายคนสีหน้าเปลี่ยนไป จักต้องรู้ว่าโจว๋ชิวผู้นี้ได้รับขนานนามว่าบุรุษหนุ่มจักรพรรดิเทพ ใช้เวลาฝึกตนยังไม่ถึงสามพันปี
อัจฉริยะที่อายุยังน้อยเช่นนี้สามารถฝึกฝนจนบรรลุถึงแดนจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดได้ก็เพียงพอทำให้ผู้คนตกตะลึงกันแล้ว ยิ่งกว่านั้นเขายังบรรลุถึงแดนจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดช่วงกลาง!”
แม้แต่ฮวงหวูจี๋เองก็ไม่ยอมรับไม่ได้ว่าพรสวรรค์ความสามารถของโจว๋ชิวผู้นี้อยู่เหนือตนเอง เขาฝึกตนมาเป็นเวลานานมากกว่าโจว๋ชิว แต่ก็เพิ่งบรรลุถึงแดนจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดขั้นปฐมภูมิได้อย่างตะเกียกตะกายมาเมื่อไม่นานนี่เอง
เมื่อเห็นโจว๋ชิวลงมือ ฮวงหวูจี๋เพิ่งคิดก้าวออกไป แต่กลับถูกหลัวซิวกดหัวไหล่เอาไว้
“ไสหัวกลับไป!”
เห็นเพียงหลัวซิวนั่งอยู่บนที่นั่งอย่างสบายไม่รีบร้อน เขาไม่ได้ลุกขึ้น เพียงแค่สะบัดแขนเสื้อเท่านั้น กลุ่มก้อนพลังอันมหาศาลก็ได้ทะลักออกมา สะเทือนจนเกิดระลอกคลื่นนับไม่ถ้วนขึ้นมาในอนัตตา
ทันใดนั้นเอง อนัตตาเกิดการสั่นคลอนอยู่หลายครั้งจนนับไม่ถ้วน ทุกครั้งที่สั่นคลอนล้วนมีกลุ่มก้อนพลังอันรุนแรงถาโถมขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อน
หลังจากก้อนพลังกลุ่มนี้เกิดเป็นระลอกคลื่นทับซ้อนกันขึ้นมาหลายครั้งอย่างนับไม่ถ้วนภายใต้แรงสั่นสะท้าน ก็ได้กระแทกเข้ากับฝ่ามือที่ซัดเข้ามาของโจว๋ชิว
สวบ!
ลำแสงสายหนึ่งได้ลอยออกไป เป็นร่างของโจว๋ชิวนั่นเอง หลัวซิวสะบัดแขนเสื้อเพียงครั้งเดียว ก็ถูกกระแทกจนลอยออกไปเสียแล้ว
“ก็แค่ตัวตลกคนหนึ่ง ยังกล้ามาอวดดีต่อหน้าข้าอีกหรือ?”
หลัวซิวหัวเราะเยาะ กวัดแกว่งแขนเสื้อ หยิบจอกสุราที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมา แล้วกล่าวอย่างเรียบ ๆ
ชั่วขณะนั้น ทั่วทั้งห้องโถงเงียบสงบไปทันควัน!
ไม่ว่าจะเป็นเจ้าเมือต้าฮวง หรือเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนฮวง รวมทั้งผู้สูงส่งคนอื่น ๆ วินาทีนี้ต่างพากันไหวหวั่น
นั่นเป็นผู้แข็งแกร่งแดนจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดช่วงกลางเชียวนะ และยังเป็นศิษย์สืบทอดของฮวงจวิน ย่อมโดดเด่นกว่าผู้ที่อยู่ในแดนเดียวกันคนอื่น ๆ กระทั่งที่ว่ามีความสามารถที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดช่วงปลายอีก
แต่กลับถูกหลัวซิวเพียงสะบัดแขนเสื้อก็ลอยปลิวออกไป แล้วหลัวซิวผู้นี้อยู่ในแดนใดกันแน่?
จากข้อมูลที่กองกำลังต่าง ๆ มีอยู่ในมือ ผลการฝึกตนของหลัวซิวยังไม่บรรลุถึงแดนจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดถึงจะถูก!
เปิดวิถีเซียน กงล้อเทพวงหนึ่ง หลัวซิวไม่เปิดโปงคลื่นพลังผลการฝึกตนออกมาเอง ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ล้วนไม่อาจประเมินอย่างแน่นอนได้ว่าผลการฝึกตนของหลัวซิวบรรลุถึงแดนไหนแล้วกันแน่
ในก่อนหน้านี้ โจว๋ชิวผู้ซึ่งมีจิตใจฮึกเหิมได้ยั่วยุหลัวซิว ทำให้ใครหลายคนต่างพากันรู้สึกเศร้าสลดแทนโจว๋ชิว หากไม่ใช่เพราะการมาถึงของเจ้าเมืองต้าฮวง เกรงว่าในเมื่อสักครู่ โจว๋ชิวผู้นึกว่าตัวเองเก่งกาจคนนี้คงหน้าแตกไปตั้งแต่แรกแล้วกระมัง?
“บังอาจ!”
ฮวงจวินโมโหขึ้นมา ตั้งแต่เขาได้ขึ้นเป็นผู้สูงส่งโลกร้างนับร้อยนับพันปีมานี้ ทั่วทั้งโลกร้างยังไม่เคยมีใครกล้าต่อต้านอำนาจบารมีของเขามาก่อนเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าลงมือกับลูกศิษย์ของเขาต่อหน้าเขา!
พบเพียงว่าเงาลวงตัวสำนึกเงานี้ของฮวงจวินจู่ ๆ ก็หายไป กลายเป็นลำแสงกระจายไปทั่วท้องฟ้า แล้วเข้าสู้ร่างของโจว๋ชิว
เงาลวงตัวสพนึกไม่มีผลการฝึกตนใด ๆ รวมอยู่ก็จริง แต่เขากลับสามารถเข้าประทับควบคุมร่างของโจว๋ชิวได้ เช่นนี้เมื่อมีร่างให้ประทับแล้ว เงาลวงตัวสำนึกสายนี้ของเขา ก็จะสามารถดึงผลการฝึกตนของร่างแท้ที่อยู่ห่างออกไปไกลร้อยล้านลี้มาใช้ได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...