แดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจ กลางอากาศเหนือวังปีศาจเทียนหยาง ประตูปริภูมิสูงใหญ่สองบานตั้งตระหง่าน เงาร่างซึ่งมีรัศมีพลังแข็งแกร่งลอยออกมาจากประตูปริภูมิสายแล้วสายเล่า
ผู้คนที่ลอยออกมาจากบานประตูหนึ่งในนั้น ล้วนสวมในชุดเครื่องแบบที่เหมือนกัน ไอสังหารแผ่ซ่านอยู่รอบกาย กระแสพลังดุร้าย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นกำลังพลของชาเผ่าเฉว่ซ่า
ส่วนผู้คนที่ลอยออกมาจากประตูอีกบาน กระแสพลังของแต่ละคนนั้นแตกต่างไปจากนักยุทธ์ในโลกมหาศักดิ์แปดด้าน ที่สวมในชุดสีเหลืองคือคนที่ของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงที่มาจากโลกาฟ้าดินหลิงหลง ส่วนคนอีกกลุ่มซึ่งมีกระแสพลังที่แฝงไปด้วยความดุร้ายป่าเถื่อน คือผู้แข็งแกร่งที่มาจากโลกาเทพมังกรไท่ชู
เบื้องหลังของแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจคือโลกาฟ้าดินหลิงหลง เบื้องหลังของชนเผ่าเฉว่ซ่าคือโลกาเทพมังกรไท่ชู สงครามพ้นพิบัติของทั้งสามโลกายังไม่ทันเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ สำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงกับโลกาเทพมังกรไท่ชูก็ได้ร่วมมือกันเสียแล้ว!
ตำแหน่งที่กำลังพลของทั้งสองฝ่ายมารวมตัวกัน ได้เลือกเป็นที่แดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจ ตอนที่บรรดามกุฎเทพจักรพรรดิเทพของแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจเห็นคนพวกนี้ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเหนือวังปีศาจเทียนหยางต่างพากันหัวใจร้อนแผดเผา ทั้งตื่นเต้นทั้งประหลาดใจ
เรื่องที่สำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลาย ทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจกับชนเผ่าเฉว่ซ่าไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม สำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงกับโลกาเทพมังกรไท่ชูก็ได้ตอบรับตามคำเรียกร้องของพวกเขา ส่งผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่ง มาช่วยพวกเขาต่อสู้เอาชนะเมืองต้าฮวงโบราณ ยึดครองดินแดนโลกร้าง!
เมืองกองกำลังเสริมกลุ่มนี้ได้เพิ่มเขามา แดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจกับชนเผ่าเฉว่ซ่าก็มีความมั่นใจขึ้นมาเป็นทวีคูณ แล้วรวบรวมกองทัพกำลังพลอย่างรวดเร็ว เตรียมโจมตีเมืองต้าฮวงโบราณ
และเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ได้ผ่านมาแล้วห้าปีหลังจากที่สำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลาย
แดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจแบ่งออกเป็นหยินหยางสองสำนัก วังปีศาจเทียนหยางก็คือวังของจ้าวปีศาจเทียนหยาง ซึ่งเป็นผู้นำสำนักหยาง(เอี๊ยง)
ด้านในวังปีศาจเทียนหยางในตอนนี้ มีเงาร่างสูงโปร่งซึ่งมีกระแสพลังอันลึกล้ำมิอาจคาดเดานั่งขัดสมาธิอยู่มากมาย และหนึ่งในนั้น ก็คือฮวงจวินนั่นเอง!
......
แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์แบ่งออกเป็นวัฏจักรแปดกับวัฏจักรเก้า ความแข็งแกร่งของหลัวซิวเทียบเท่ากับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดช่วงกลาง แต่ถ้าหากเปรียบเทียบกับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าละก็ ไม่รู้ว่ายังด้อยกว่ามากเพียงใด
ยาเซียนวัฏจักรเก้า ก็คือยาเซียนที่ผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าใช้ฝึกฝน สำหรับหลัวซิวที่มีผลการฝึกตนในแดนมกุฎเทพช่วงปลายในตอนนี้ มันเหมาะให้เขานำมาเพิ่มระดับผลการฝึกตนพอดี
โดยทั่วไปแล้ว มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าถึงจะสามารถใช้ยาเซียนวัฏจักรเก้าได้ เนื่องจากฤทธิ์ยาที่แฝงอยู่ในยาเซียนระดับนี้เป็นที่น่าทึ่ง นักยุทธ์ที่มีผลการฝึกตนไม่เพียงพอมิอาจต้านรับได้ แต่กลับจะได้ผลในทางตรงกันข้าม
แม้ว่าผลการฝึกตนของหลัวซิวจะไม่ตรงตามเงื่อนไขของการใช้ยาเซียนวัฏจักรเก้า แต่เขามีร่างเนื้อที่แข็งแกร่งพอ บวกกับความมหัศจรรย์ของพลังแห่งวิถีเซียน จึงไม่ต้องกังวลว่ายาเซียนจะเป็นอันตราย
สำหรับยาเซียนวัฏจักรสิบพวกนั้นที่ได้มาจากผู้เป็นอาจารย์ หลัวซิวทำได้แค่มองดู เพราะนั่นเป็นยาเซียนสำหรับให้ผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่งใช้โดยเฉพาะ ต่อให้เขาฝึกฝนเคล็ดเซียนแปรเก้าจนถึงแดนแปรที่ห้า ยาเซียนเพียงเม็ดเดียวก็สามารถทำให้เขาร่างแตกตายได้
เวลาห้าปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลัวซิวอาศัยฤทธิ์ยาของยาเซียนวัฏจักรเก้า ทำให้เลื่อนขั้นถึงแดนมกุฎเทพขั้นสูงได้อย่างราบรื่น
จากมกุฎเทพช่วงปลายถึงขั้นสูง ทัณฑ์สายฟ้าพิโรธยังคงปรากฏเหมือนเดิม แต่กลับไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ เขาได้เลย
หลังจากทัณฑ์สายฟ้าพิโรธสลายไป หลัวซิวก็ยืนสองมือไขว้หลัง สายตาทอดยาวไกลไปทางเมืองต้าฮวงโบราณ ปากกล่าวพึมพำ: “ห้าปีแล้ว แดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจกับชนเผ่าเฉว่ซ่าคงทนรอไม่ไหวแล้วกระมัง?”
ตามที่มกุฎเต๋าหวูจี๋ผู้เป็นอาจารย์ได้บอกกล่าว ศึกแห่งเมืองต้าฮวงโบราณในครั้งนี้ เขาไปขัดเกลาตนเอง อาศัยการเข่นฆ่าและแรงกดดันจากสนามรบ พยายามเพิ่มระดับผลการฝึกตนของตนให้ได้เร็วขึ้น
ผลการฝึกตนบรรลุถึงแดนมกุฎเทพขึ้นสูง เช่นนั้นปัญหาที่หลัวซิวต้องเผชิญในเวลาต่อมา ก็คือกฎเกณฑ์ของแดนใหญ่แล้ว
อาศัยทรัพยากรจำนวนมากที่มีอยู่ในมือของเขาในตอนนี้ ไม่มีปัญหาอะไรที่จะทะลวงกฎเกณฑ์ของแดนใหญ่ แต่เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทะลวงแดนจักรพรรดิเทพขั้นปฐมภูมิทันทีหลังจากบรรลุแดนมกุฎเทพขึ้นสูงมาได้ไม่นาน
การฝึกยุทธ์นั้น ยึดหลักตามขั้นตอน ดังนั้นเขาต้องการเวลาเพื่อคุ้นเคยและมั่นคงผลการฝึกตนของจนเอง เอาแต่ไล่ตามเพื่อทะลวงแดนที่สูงยิ่งกว่า มีแต่จะทำให้รากฐานของตนเองไม่มั่นคง ส่งผลกระทบต่อความสำเร็จในอนาคต
ความผิดพลาดระดับต่ำเช่นนี้ หลัวซิวจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
“ยินดีกับศิษย์น้องที่เลื่อนขั้นอีกแล้ว”
ในตอนนี้เอง เสียงหัวเราะของคนผู้หนึ่งพลันดังลอยมา จากนั้นร่างของตู๋กูก็ปรากฏขึ้นข้างกายของหลัวซิว
“แดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจมีความเคลื่อนไหวแล้วหรือ?” เมื่อเห็นตู๋กูปรากฏตัว หลัวซิวก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
หลัวซิวรู้ดีว่าหากไม่มีเรื่องอะไรโดยทั่วไปแล้วศิษย์พี่คนนี้ของตนต้องไม่มาหาตนเองแน่ ทันทีที่เขามาหาตน เช่นนั้นย่อมต้องมาเรื่องอะไรอย่างแน่นอน
แดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจและชนเผ่าเฉว่ซ่าประกาศศึกกับเมืองต้าฮวงโบราณ การกระทำเช่นนี้เดิมทีก็อุกอาจมากแล้ว ดังนั้นระยะนี้ทั้งสองกองกำลังจึงได้ก่อความโกลาหลขึ้นมาไม่น้อย ใช้แดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจเป็นศูนย์รวมตัว หลายปีมานี้ได้รวบรวมกองกำลังต่าง ๆ มาโดยตลอด
เวลาห้าปีจะว่านานก็ไม่นาน หลัวซิวคาดการณ์ว่าคงใกล้ถึงเวลาแล้ว
ตู๋กูมองดูศิษย์น้องของตนคนนี้ด้วยแววตาชื่นชม พรสวรรค์และกำลังแฝงในการฝึกฝนเป็นเรื่องหนึ่ง การคาดการณ์และควบคุมสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถทำได้
“ศิษย์น้องกล่าวไม่ผิด กองทัพใหญ่ของแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจและชนเผ่าเฉว่ซ่าระดมพลเสร็จเรียบร้อย กองทัพใหญ่ได้ออกเดินทาง มุ่งหน้าไปยังเมืองต้าฮวงโบราณแล้ว”
ตู๋กูพยักหน้า กล่าว: “กองทัพใหญ่ของทั้งสองกองกำลังแข็งแกร่งมาก ระหว่างทางนั้นได้กำจัดตระกูลสำนักที่เมื่อก่อนไม่ยอมศิโรราบไปจำนวนมาก”
“คงจะไม่มีผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าเข้ามาแทรกแซงใช่หรือไม่?” หลัวซิวมองไปยังตู๋กู ความจริงแล้วนี่ถึงเป็นปัญหาที่เขาใส่ใจที่สุด
“ศิษย์น้องพูดตลกแล้ว อย่าว่าแต่โลกมหาศักดิ์แปดด้านเลย ทั่วทั้งสามโลกาห้วงดาราก็มีประมุขเต๋าอยู่ไม่กี่คนเอง การดำรงอยู่อย่างประมุขเต๋าจะไม่ลงมือง่าย ๆ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้”
“ตามการคาดการณ์ของอาจารย์ การต่อสู้ครั้งนี้เป็นเพียงสงครามเล็ก ๆ เท่านั้น ระดับสูงที่สุดก็จะถูกจำกัดไว้ที่แดนผู้สูงส่งเท่านั้น” ตู๋กูกล่าวเช่นนี้
“เช่นนั้นหมายความว่าจะมีผู้แข็งแกร่งแดนผู้สูงส่งลงมือด้วยสินะ?” หลัวซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย เขานึกถึงผู้สูงส่งทั้งเจ็ดคนที่ได้พบในตำหนักหลักของตำหนักหลักเมืองต้าฮวงเมื่อห้าปีก่อน
ก็เหมือนกับคำพูดที่ว่าเทพทำสงคราม มนุษย์เป็นผู้รับเคราะห์ ต่อให้เป็นจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดสำหรับผู้สูงส่งแล้ว ก็เป็นแค่มดที่ค่อนข้างแข็งแรงหน่อยเท่านั้นเอง
ทันทีที่สงครามวิวัฒนาการเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่ง เช่นนั้นเพียงแค่ควันหลงจากการต่อสู้ของผู้สูงส่ง มันก็คือหายนะแห่งการทำลายล้างดี ๆ นี่เอง
ดังนั้น หากหลัวซิวจะไปร่วมต่อสู้ในสงครามครั้งนี้ เช่นนั้นเขาก็จะมีอันตรายถึงชีวิตได้ทุกเมื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...