ออร่าความตายที่น่ากลัวแผ่คลุมทั้งร่างกาย หลัวซิวไม่เคยตรึกตรองเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองจะสามารถต้านทานพลังโจมตีนี้ได้หรือไม่ เพราะคำตอบคือเขาไม่มีทางต้านทานได้อยู่แล้ว
ต่อให้เขาจะเก่งกาจมากเพียงใด ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นเพียงมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อคนหนึ่งเท่านั้นเอง เมื่อเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเต๋า ก็ไม่ต่างอะไรจากเด็กทารกแรกเกิดที่เผชิญหน้ากับผู้บรรลุนิติภาวะที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง
“ตู้มม!”
เสี้ยววินาทีที่มือใหญ่ร่วงลงมา คลื่นพลังทั้งหลายที่สามารถมองเห็นได้ด้วยเนื้อตาเปล่าก็แผ่กระจายออกไปภายในพริบตา ทุกสรรพสิ่งที่อยู่ในรัศมีโดยรอบหนึ่งหมื่นลี้ล้วนถูกทำลายล้าง!
“หื้ม?”
รูม่านตาของมกุฎเต๋าวัฏสงสารหดลงเล็กน้อย เพราะในกระแสสัมผัสของเขา หลัวซิวยังไม่ตาย
ในฐานะที่เป็นมกุฎเต๋า มาตรแม้นว่าเป็นพลังโจมตีที่ปลดปล่อยออกไปอย่างสบายมือ ก็ไม่ใช่สิ่งที่หลัวซิวสามารถต้านทานได้แน่นอน นี่จึงทำให้มกุฎเต๋าวัฏสงสารรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
ทว่ามกุฎเต๋าวัฏสงสารก็ไม่ได้นำมาใส่ใจอย่างจริงจัง เพราะเขาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะมีอุบายใดที่สามารถทำให้มหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อคนหนึ่งต่อกรกับมกุฎเต๋าได้ ต่อให้สามารถต้านทานหนึ่งกระบวนท่าแล้วไม่ตาย แต่สมบัติประเภทนั้นจักต้านทานพลังโจมตีได้กี่หนเล่า?
“เวิ่ง!”
ทันใดนั้นเอง ก็มีแสงเซียนที่แวววาวจับตาดวงหนึ่งบินออกมาจากฝุ่นที่ตลบฟุ้งอยู่ด้านล่าง ก่อนจะมีพลังออร่าที่มากมายมหาศาลจนไม่อาจคาดเดาได้ปรากฏในฟ้าดินผืนนี้
“มกุฎเต๋าวัฏสงสาร เจ้าสามารถไปลงนรกได้แล้ว”
เงาร่างของหลัวซิวปรากฏกลางแสงเซียน จู่ ๆ ก็มีเพลิงอัคคีหลายดวงปรากฏข้างกายเขาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้ปริภูมิที่อยู่รอบกายเขาถูกแผดเผาจนว่างเปล่า ราวกับเขตแดนที่มีเขาเป็นใจกลางประกอบเป็นอาณาจักรสีดำ
เพลิงอัคคีเหล่านี้คือเซียนอัคคีหลอมจิต เหลือศีรษะมีขวดเศษณ์ที่ราวกับถูกสลักจารึกโดยหินหยกสีเลือดลอยอยู่หนึ่งขวด ซึ่งมันก็คือขวดเซียนอัคคีหลอมจิตนั่นเอง
เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าตัวเองต้านทานพลังโจมตีของผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเต๋าไม่ได้แน่นอน ดังนั้นวินาทีนี้เขาจึงเปิดใช้พลังแห่งเซียนที่อยู่ในตัวต้องห้ามขั้นแรกของขวดเซียนอัคคีหลอมจิตอย่างไม่ลังเลใจ
“นี่คือพลังของเซียนสินะ?”
ณ บัดนี้วินาทีนี้ หลัวซิวสามารถสัมผัสได้ว่ามีพลังที่ไม่อาจจินตนาการได้กำลังม้วนซัดอยู่ในร่างกายตัวเอง เมื่อเปรียบเทียบพลังเซียนที่เขาผนึกรวมได้เองกับพลังแห่งเซียนที่กำลังซัดสาดอยู่ในร่างกาย มันก็ไม่ต่างอะไรจากฝุ่นละอองและทองคำเลย
สามารถประคองพลังแห่งเซียนได้เพียง 15 นาทีเท่านั้น ฉะนั้นหลัวซิวจึงไม่ปล่อยให้ทุกวินาทีเสียเปล่าไปอย่างไร้ประโยชน์ โบกมือครั้งเดียวก็มีมือใหญ่ที่ผนึกรวมมาจากอัคคีเซียนปรากฏ ก่อนจะตบไปทางมกุฎเต๋าวัฏสงสารที่ลอยอยู่กลางอากาศ
เป็นพลังอมตะอย่างตรามหาหัตถ์ราชาเซียนเหมือนกัน ทว่าพลานุภาพที่หลัวซิวปลดปล่อยออกมาในวินาทีนี้กลับไม่ใช่สิ่งที่อดีตสามารถเทียบเคียงได้ด้วยซ้ำ
“นี่มันจะมีทางเป็นไปได้อย่างไร? ……”
ความรู้สึกสุขุมบนใบหน้ามกุฎเต๋าวัฏสงสารหายวับไปแล้ว สิ่งที่เข้ามาทดแทนคือความตะลึงและความช็อกที่ไร้ขอบเขต
ราวกับบทบาทของทั้งสองเกิดการเปลี่ยนแปลงยังไงอย่างนั้น วินาทีก่อนหลัวซิวยังเป็นฝ่ายที่สัมผัสได้ถึงแรงกดดันจากความตายอยู่เลย ส่วนวินาทีนี้ผู้ที่มีความรู้สึกเช่นนั้น กลับเปลี่ยนเป็นตัวมกุฎเต๋าวัฏสงสารแทน
“พลังของเซียน!”
มกุฎเต๋าวัฏสงสารไม่ใช่คนโง่ ตัวเขาเองบรรลุถึงแดนมกุฎเต๋าแล้ว แต่กลับยังมีความรู้สึกเหมือนตัวเองเล็กน้อยมาก และพลังที่สามารถทำให้มกุฎเต๋าอย่างเขารับรู้ได้ถึงความต่ำต้อยเล็กน้อยของตัวเองได้นั้น นอกจากพลังของเซียน จักยังมีพลังอะไรได้อีก?
“เผ่น!”
มกุฎเต๋าวัฏสงสารเลือกที่จะหลบหนีอย่างไม่ลังเลใจ เขามีชีวิตคงอยู่ในจักรวาลนี้มาหลายยุคตรีภพแล้ว ซึ่งนี่ก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่เขาหนีเอาชีวิตรอด
“เจ้าหนีรอดหรือ?”
เสียงของหลัวซิวสะท้อนเข้าไปในหูมกุฎเต๋าวัฏสงสาร ถัดจากนั้นฝ่ามือของเขาก็ประทับลงบนแผ่นหลังของมกุฎเต๋าวัฏสงสารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ตู้มม!”
เสียงที่ดังสะเทือนเลื่อนลั่นดังก้องอยู่กลางท้องฟ้า อัคคีเซียนที่ไร้ขอบเขตพรั่งพรูออกไปจากฝ่ามือหลัวซิว เผาผลาญทำลายล้างทุกสรรพสิ่ง
เดิมทีอัคคีเซียนหลอมจิตก็มีความสามารถในการกลั่นแปรทุกสรรพสิ่งอยู่แล้ว ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่แดนมกุฎเต๋าสามารถต้านทานได้ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามหลัวซิวกลับไม่คิดว่าทำเช่นนี้แล้วจะสามารถสังหารมกุฎเต๋าวัฏสงสารได้ แววตาเขาจ้องมองไปทางอนัตตาที่อยู่ห่างไกลออกไป เห็นเพียงกงล้อวัฏจักรธรรมปรากฏที่นั่น จากนั้นเงาร่างของมกุฎเต๋าวัฏสงสารก็เดินออกมาจากปริภูมิมิติที่บิดเบี้ยวนั่น เดินออกมาจากกงล้อวัฏจักรธรรม
“วัฏสงสารไม่ดับสูญ ก็จะไม่ตายอย่างนั้นหรือ?”
อดีตหลัวซิวเคยฝึกเส้นทางแห่งวัฏสงสารมาก่อน ด้วยเหตุนี้เขาก็พอเข้าใจเส้นทางแห่งวัฏสงสารอยู่บ้างเหมือนกัน จากแดนของมกุฎเต๋าวัฏสงสาร ย่อมต้องนำร่างกายของตัวเองหลอมรวมเข้ากับสงสารวัฏจักรวาลฟ้าดินตั้งนานแล้ว ขอแค่วัฏสงสารไม่มอดไหม้ เขาก็แทบจะไม่ต่างอะไรจากผู้เป็นอมตะ
ซึ่งอุบายเช่นนี้ปราดเปรื่องกว่ามกุฎเต๋าบรรพฮวงที่ใช้ร่างกายหลอมรวมเข้ากับหอคอยฮวง แล้วบุกเบิกห้วงดาราโลกร้างออกมาเสียอีก
ชัวะ!
เงาร่างของหลัวซิวหายไปภายในชั่วลมหายใจเดียว ไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้ ใช้พลังแห่งเซียนเทเลพอร์ต มาตรแม้นว่าเป็นตัวสำนึกของผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเต๋า ก็ไม่สามารถสัมผัสคลื่นใด ๆ ได้เลยแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...