สตรีชุดเขียวอ่อนไม่สามารถทำอะไรได้เพราะอาการบาดเจ็บของนาง ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วหลัวซิวทำได้เพียงจัดการกับมือใหญ่ที่โจมตีพวกเขาทั้งสามคน
ภายใต้การปกคลุมของมือใหญ่ อนัตตาถูกกักขัง เข็มทิศสาสน์เต๋าดูเหมือนจะบินเข้าไปในหนองน้ำ ทำให้ยากต่อการขยับนิ้ว
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือเมื่อมือใหญ่นี้มาถึงเหนือศีรษะ แม้แต่การป้องกันระยะหนึ่งร้อยเมตรที่สร้างโดยอาณาจักรไร้ลักษณ์ของหลัวซิวก็ยังถูกฉีกออกจากกันอย่างง่ายดาย
“แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยรึ?”
สีหน้าของหลัวซิวเปลี่ยนไป จากออร่าที่กดขี่เล็ดลอดออกมาจากมือใหญ่นี้ เขารู้สึกหายใจลำบาก
ทันทีที่เขาเข้าสู่โลกคุกเซียน สตรีชุดเขียวอ่อนเตือนเขาว่านักโทษที่ถูกคุมขังที่นี่ล้วนเป็นชาวเซียนที่มีชีวิตมานาน ร่างกายของพวกเขาถูกผนึกต้องห้าม ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถออกจากโลกคุกเซียนนี้ได้
แม้ว่าจะอยู่ภายใต้การจำกัดและการผนึกของโลกนี้ ชาวเซียนโบราณเหล่านี้สามารถแสดงความแข็งแกร่งในระดับแดนผู้สูงส่งได้เท่านั้น แต่แน่นอนว่าเป็นระดับผู้แกร่งเลิศ!
หลังจากก้าวเข้าสู่แดนผู้สูงส่ง ไม่ใช่ว่าหลัวซิวไม่เคยต่อสู้กับผู้แกร่งเลิศ แม้ว่าเขาจะรู้ว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นด้อยกว่าผู้แกร่งเลิศเล็กน้อย แต่ความแตกต่างก็จะไม่มาก
แต่เมื่อเขาเผชิญกับการลอบโจมตีของมือใหญ่นี้ หลัวซิวก็เข้าใจในทันทีว่าเมื่อเทียบกับผู้แกร่งเลิศจริง ๆ เขายังมีช่องว่างขนาดใหญ่ เมื่อตอนที่เขาอยู่ที่เมืองศักดิ์สิทธิ์ชิงเทียนลอบโจมตีแล้วสังหารประมุขเต๋าคนหนึ่งเป็นเพราะประมุขเต๋าคนนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถใช้ตัวสำนึกได้ และคาดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าลอบโจมตีเขา
เขาสามารถฆ่าประมุขเต๋า ไม่ได้หมายความว่าเขามีความแข็งแกร่งที่จะเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าตรงๆได้
แม้เขาจะรู้สึกประหลาดใจ แต่หลัวซิวไม่สามารถถอยหลังได้กับการโจมตีครั้งนี้ เพราะไม่เพียงแต่ตัวเขาเองเท่านั้น แต่ลู่เมิ่งเหยาและสตรีชุดเขียวอ่อนก็อยู่บนเข็มทิศสาสน์เต๋า
“ทะยานเซียน!”
หลัวซิวบีบนิ้ว แสงเซียนที่สว่างไสวรวมตัวกันระหว่างมือของเขา กลายเป็นกระบี่แสงเซียน ฟันออกมาเสียงดังกึกก้อง เผชิญหน้ากับมือใหญ่ที่บดขยี้
“โครม!”
เมื่อแสงกระบี่ของวิชาทะยานเซียนปะทะกับมือใหญ่ ร่างกายของหลัวซิวก็สั่นสะเทือนด้วยพลังกัดกลืนกลับมาอันทรงพลัง มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา
กระบี่แสงเซียนแตกเป็นเสี่ยงๆ ในอากาศ แต่มือใหญ่ไม่สลายไป และยังคงคว้ามาจับไว้ไม่ลดละ
แม้ว่าพลังอมตะของเขาจะแตกสลาย แต่หลัวซิวก็ล็อคตำแหน่งของเป้าหมายไว้ในช่วงเวลานี้ จากนั้นเขาก็ปลดปล่อยการโจมตีวิญญาณโดยไม่ลังเล
ทันใดนั้น อนัตตาในระยะไกลก็เปิดออก ร่างที่ปกคลุมไปด้วยออร่าสีดำก็ปรากฏขึ้น มือใหญ่ที่แหลกสลายได้รับผลกระทบจากการโจมตีวิญญาณหยุดชั่วขณะ ในขณะที่หลัวซิวขับเข็มทิศสาสน์เต๋าถอยกลับไปไกลกว่าสิบลี้ ทำให้มือใหญ่นี้จับเขาไม่ได้
“”ฮี้ฮี้...ตอนนี้วิถียุทธ์ข้างนอกนั้นแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยรึ? แดนผู้สูงส่งขั้นปฐมภูมิเล็กๆก็มีความแข็งแกร่งเช่นนี้”
ดวงตาคู่หนึ่งเป็นประกายจับจ้องหลัวซิว “วิชาวิญญาณอมตะของเจ้าไม่เลวเลย แต่แม้ว่าแดนของเจ้าจะถูกกักขังโดยโลกคุกเซียน เช่นเดียวกับข้าที่เป็นแดนเซียนชั้นฟ้า ตัวหยั่งรู้ก็ไม่ใช่รุ่นเยาว์อย่างเจ้าจะสั่นคลอนได้” ”
“เป็นเวลานานแล้วที่ไม่มีคนจากภายนอกเข้ามา วันนี้ข้า เซียนชั้นฟ้ากุ่ยสีจะเล่นให้สนุก เจ้าอย่าตายไปก่อนที่ข้าจะสนุกนะ ฮี้ฮี้...”
ร่างสีดำปล่อยเสียงหัวเราะแปลกๆออกมา ทันทีที่เขาก้าวมาข้างหน้า ร่างของเขาก็หายไปในชั่วพริบตา ด้วยความเร็วที่เทียบได้กับเทเลพอร์ต
“พรึบ!”
หลัวซิวโยนหอคอยฮวงออกมาโดยไม่ลังเล สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมมาก โชคดีที่นี่คือโลกคุกเซียน อีกฝ่ายไม่เพียงแต่ผลการฝึกตนถูกระงับโดยวิชาห้ามค่ายกลของที่นี่ แต่หลังจากถูกคุมขังที่นี่ สมบัติบนร่างกายและแหวนเก็บของก็ถูกแย่งไปด้วย มิฉะนั้นหากฝ่ายตรงข้ามมีภัณฑ์เซียนอยู่ในมือ เขาจะตกอยู่ในอันตรายจริงๆ
“เซียนชั้นฟ้ากุ่ยสีใช่ไหม? ในเมื่อเจ้าสามารถฝึกฝนจนถึงแดนเซียนได้ งั้นเจ้าต้องเข้าใจหลักการหนึ่ง”
หอคอยฮวงลอยอยู่เหนือหัว มีเข็มทิศสาสน์เต๋าอยู่ใต้เท้า หลัวซิวมีความเชื่อมั่นในใจ ดังนั้นเขาจึงเริ่มพูด
“ผู้น้อยหมายความว่ายังไง?” เซียนชั้นฟ้ากุ่ยสีตะคอกอย่างเย็นชา
“ความหมายของข้าง่ายดายนัก นี่คือโลกคุกเซียน เจ้าถูกจองจำอยู่ที่นี่มาเนิ่นนาน เจ้าถูกประทับผนึกอยู่บนร่างกาย เป็นไปไม่ได้ที่จะออกจากโลกคุกเซียนนี้ แต่บนร่างของข้าไม่มีผนึก ดังนั้นข้าจะออกไปเมื่อไหร่ก็ได้”
หลัวซิวพูดเบา ๆ ว่า “เจ้าดูออกแล้ว แม้ว่าข้าจะเป็นแดนผู้สูงส่งขั้นปฐมภูมิ แต่ความแข็งแกร่งของข้าก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าแดนผู้สูงส่งขั้นสูง แม้ว่าข้าจะยังไม่สามารถเอาชนะเจ้าได้ แต่ข้ายังสามารถเอาของขลังภัณฑ์เซียนออกมาได้อีกหนึ่งชิ้น หากข้าต้องการหนี เจ้าก็ไม่สามารถจับตัวข้าให้อยู่ที่นี่ต่อได้ วันข้างหน้าหากข้างฝึกฝนถึงแดนผู้สูงส่งช่วงปลาย หรือแม้แต่แดนผู้สูงส่งขั้นสูง ถ้าข้าอยากฆ่าเจ้า เจ้าคิดว่าจะเป็นผลแบบไหนกัน?”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา สีหน้าของ เซียนชั้นฟ้ากุ่ยสีที่อยู่ตรงหน้าก็เปลี่ยนไป สถานการณ์ที่หลัวซิวพูดทำให้เขากลัวมาก แม้ว่าเขาจะถูกขังอยู่ในโลกคุกเซียนและผลการฝึกตนของเขาถูกระงับ แต่ก็ไม่มีอิสระ แต่อย่างน้อยก็ยังมีชีวิตอยู่ไม่ใช่รึ? ถ้าถูกฆ่าตาย ความเชื่อที่ว่าเขาทนมาแสนนานเพื่อเฝ้ารอวันหนึ่งที่จะออกจากสถานที่แห่งนี้ก็จะสูญเปล่าไปน่ะสิ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...