เมืองเทียนโจว คือคูเมืองแห่งหนึ่งบนโลกเสวียน เนื่องจากรูปร่างลักษณะของคูเมืองดังกล่าวเหมือนเรือลำหนึ่ง ดังนั้นชื่อของมันจึงมีต้นกำเนิดมาจากนี้
ทางทิศตะวันออกของเมืองเทียนโจวคือทะเลที่กว้างใหญ่แห่งหนึ่ง ในทะเลมีอสูรกายแข็งแกร่งจำนวนมาก และมีทรัพยากรการฝึกตนที่อุดมสมบูรณ์เช่นกัน
ดังนั้นจึงมีจอมยุทธ์จำนวนมากมารวมตัวกันที่คูเมืองแห่งนี้ จอมยุทธ์ส่วนมากล้วนรวมตัวกันเป็นกองกำลังที่มั่นคงต่าง ๆ เพื่อเข้าไปตามหาทรัพยากรสมบัติในทะเลพร้อมกันเป็นประจำ แล้วยกระดับแดนผลการฝึกตนของตัวเอง
บนถนนภายในเมือง มีคนสามคนมาถึงหอโอสถเซียน
แน่นอนอยู่แล้วว่าในหอโอสถเซียนไม่มีเซียนอยู่แล้ว สาเหตุที่ตั้งชื่อเช่นนี้นั้น ก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพิเศษของตำแหน่งอำนาจ เนื่องจากหอโอสถเซียนจะทำธุรกิจเกี่ยวกับการบริหารจัดการยาเซียนต่าง ๆ นานา ธุรกิจยาเซียนเกือบเจ็ดในสิบของทั้งโลกเสวียนแทบจะถูกยึดกุมโดยหอโอสถเซียน
สามคนดังกล่าวคือชายหนึ่งสตรีสอง สีหน้าของชายคนดังกล่าวดูขาวซีดเล็กน้อยเหมือนป่วย ส่วนสตรีทั้งสองคนนั้นต่างงดงามอย่างยิ่ง รูปร่างลักษณะภายนอกก็โดดเด่นมากเช่นกัน
“ผู้อาวุโสต้วนคง สมุนไพรคงหลิงที่ขายในนี้แพงเกินไปแล้วเจ้าค่ะ”
ไม่นานนัก ทั้งสามคนก็เดินออกมาจากหอโอสถเซียน ก่อนที่หญิงสาวที่อยู่ในชุดกระโปรงสีขาวคนหนึ่งจะเอ่ยปากพูด
“ข้าก็นึกไม่ถูกเช่นกันว่าสมุนไพรคงหลิงจะแพงขนาดนี้”ต้วนคงถอนหายใจเฮือกหนึ่ง แล้วไอสองครั้ง สีหน้าจึงดูขาวซีดลงไปมากกว่าเดิม
“แต่ถ้าเกิดไม่มีสมุนไพรคงหลิงละก็ แล้วสภาพอาการบาดเจ็บของผู้อาวุโสต้วนคงจักทำอย่างไร?”หญิงสาวที่อยู่ในชุดดำอีกคนหนึ่งขมวดคิ้วพลางพูด
ต้วนคง ก็คือผู้บัญชาการใหญ่ของกองทัพเทพมารหลอมจิตอย่างไร้ข้อสงสัยแล้ว ครั้นเมื่ออาณากระบี่หวูจี๋ถูกล้มล้าง เขาพาผู้คนที่อยู่ข้างกายหลัวซิวหลบหนีออกมาจากโลกร้าง แต่ก็ยังถูกผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าสองคนไล่ล่าอยู่เช่นเคย
แม้นต่อมาเขาจะหลบหนีการไล่ล่าสำเร็จ แต่ตัวเขาเองก็บาดเจ็บสาหัสเช่นกัน กระทั่งบัดนี้สภาพอาการบาดเจ็บก็ยังไม่ฟื้นฟูกลับคืนมา
ส่วนหญิงสาวทั้งสองคนที่อยู่ข้างกายเขานั้น คนที่อยู่ในชุดขาวคือหลัวหานยู่ ส่วนชุดดำก็คือจี้เสี่ยวจื่อ
สตรีทั้งสองคนนี้ต่างเป็นน้องสาวที่หลัวซิวเอ่ยปากยอมรับ พวกนางไม่อยากเข้าไปในไข่มุกโลกา ต้วนคงก็ไม่ได้บังคับเช่นกัน แม้นสภาพอาการบาดเจ็บของเขาจะไม่ฟื้นฟูกลับคืนมา ทว่าขอแค่ถ่อมตัวหน่อย การปกป้องสตรีทั้งสองคนนี้น่าจะไม่เป็นปัญหาอะไร
แต่ทว่าจากการที่ยิ่งปล่อยบาดแผลไว้นานเท่าไหร่ อาการของต้วนคงก็จะยิ่งสาหัสมากเท่านั้น มากไปกว่านั้นคือผลการฝึกตนของเขาตกจากประมุขเต๋าขั้นปฐมภูมิ ลงมาผู้สูงส่งช่วงกลางแล้ว
หากต้องการฟื้นฟูสภาพอาการบาดเจ็บ ก็จำเป็นต้องตามหารวบรวมต้นยาเซียนมากลั่นยาเซียน อย่างไรก็ตามต้นยาเซียนระดับประมุขเต๋านั้นล้ำค่ามากเพียงใด สมุนไพรคงหลิงเป็นเพียงหนึ่งในวัตถุดิบยาที่มีมูลค่าต่ำที่สุดเท่านั้น ทว่ายังถูกหอโอสถเซียนมองเป็นสมบัติล้ำค่าในร้านเลย
พวกเขาได้ยินว่าในหอโอสถเซียนมีข้อมูลที่เกี่ยวกับสมุนไพรคงหลิง ดังนั้นจึงเดินทางมาที่นี่ แต่กลับไม่นึกเลยว่าราคาของสมุนไพรคงหลิงที่ขายอยู่ในหอโอสถเซียนสูงลิ่วมาก ซึ่งต้องใช้ไข่มุกเต๋า 80 ล้านเม็ด!
มาตรแม้นว่าเป็นผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋า ภายในแหวนเก็บของของต้วนคงก็มีไข่มุกเต๋าแค่ไม่กี่ล้านเม็ดเท่านั้น ครั้นเมื่อสมัยประเทศเซียนที่เขาคงอยู่ มากสุดมูลค่าของสมุนไพรคงหลิงหนึ่งต้นก็แค่ไข่มุกเต๋าหลักแสนเม็ดเท่านั้น
ทันใดนั้นเอง สีหน้าของต้วนคงก็เปลี่ยนไปกะทันหัน เนื่องจากตัวสำนึกของเขาสัมผัสได้ว่ามีคนกำลังแอบสอดแนมพวกเขาอยู่ในที่ลับ
นี่จึงทำให้จิตใจของเขาหล่นลงไปถึงตาตุ่มอย่างควบคุมไม่ได้ เห็นได้ชัดเจนเลยว่าพวกเขาทั้งสามคนที่ไปสอบถามราคาของสมุนไพรคงหลิงในหอโอสถเซียนถูกคนหมายตาไว้แล้ว
แค่ลองนึกคิดเพียงครู่เดียว ต้วนคงก็เข้าใจสาเหตุแล้ว ในเมื่อพวกเขาทั้งสามคนไปสอบถามราคาของสมุนไพรคงหลิง อีกทั้งมีความประสงค์ที่ต้องการจะซื้อ เช่นนั้นบนตัวพวกเขาต้องมีทรัพย์สินที่ไม่ธรรมดาแน่นอน จึงมีคนมองพวกเขาเป็นแกะอ้วนที่จะโดนเชือดทันที
……
ไข่มุกเต๋าจำนวนมากกองอยู่กลางถ้ำ ร่างกายของหลัวซิวจมหายไปในไข่มุกเต๋าโดยสิ้นเชิง เขาแค่ใช้ไข่มุกเต๋าชั้นล่างเพียงเล็กน้อย วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการฝึกตนคือไข่มุกเต๋าชั้นกลาง และมีไข่มุกเต๋าชั้นสูงปนอยู่บ้าง
แม้นการใช้ไข่มุกเต๋าที่คุณภาพสูงกว่ามาฝึกตนจะทำให้ประสิทธิผลดีกว่า แต่หลัวซิวกลับเข้าใจดีอยู่ว่าผลการฝึกตนในตอนนี้ของตัวเองยังค่อนข้างต่ำ หากใช้ไข่มุกเต๋าชั้นสูงจำนวนมากละก็ มันก็เป็นเพียงการสิ้นเปลืองอย่างเดียวเท่านั้น
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
หลัวซิวขมวดคิ้วลง เขาสามารถสัมผัสได้อยู่ว่าผลการฝึกตนในวินาทีนี้ของตัวเองแข็งแกร่งกว่าครั้นเมื่อเพิ่งบรรลุสู้ผู้แกร่งเลิศไม่น้อย เมื่อพูดตามหลักแล้ว ต่อให้เขาจะบรรลุไม่ถึงแดนประมุขเต๋า แต่ก็น่าจะสามารถสัมผัสจุดตีบตันของแดนประมุขเต๋าได้สิ
“หรือว่าการตระหนักรู้ในแดนของข้ายังไม่เพียงพอ?”
หลัวซิวขมวดคิ้วพลางไตร่ตรองสาเหตุอย่างลึกซึ้ง เนื่องจากเขารู้อยู่ว่าหากต้องการบรรลุสู่แดนประมุขเต๋า นอกจากผลการฝึกตนต้องบรรลุถึงเงื่อนไขที่ต้องการ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็ยังเป็นแดนธรรมวิถี หรือแดนบรรลุผลของธรรมดั้งเดิมนั่นเอง
วิญญาณดั้งเดิมของเขาหลอมรวมเข้ากับลูกแก้วความเป็นตายตั้งนานแล้ว ซึ่งลูกแก้วความเป็นตายเป็นสมบัติที่มีความเป็นตายดั้งเดิมแฝงซ่อนอยู่ เมื่อมองจากคุณค่าบางอย่าง วิญญาณดั้งเดิมของตัวหลัวซิวเองก็เหมือนความเป็นตายดั้งเดิม
ดังนั้นตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา การตระหนักรู้บนวิถีแห่งความเป็นตายของหลัวซิวจึงสูงที่สุด เขาเชื่อว่าจากการที่ผลการฝึกตนเพิ่มขึ้น ผลสำเร็จบนวิถีแห่งความเป็นตายของเขาต้องบรรลุถึงแดนบรรลุผลแน่นอน หรือระดับที่เทียบเท่าประมุขเต๋านั่นเอง
แต่ทว่าวิถีแห่งความเป็นตายไม่ใช่วิถีของตัวเขาเอง มันเป็นเพียงวิถีที่ครอบคลุมอยู่ในไร้ลักษณ์ ไร้ลักษณ์ต่างหากที่เป็นวิถีของเขา
ณ เสี้ยววินาทีนี้ หลัวซิวก็กระจ่างชัดแจ้งขึ้นมาทันที หากเขาต้องการบรรลุสู่แดนประมุขเต๋า ลำดับแรกคือจำเป็นต้องยกระดับแดนวิถีไร้ลักษณ์ของตัวเองให้ขึ้นไปถึงแดนบรรลุผล
ทันทีที่วิถีไร้ลักษณ์บรรลุถึงแดนบรรลุผล เช่นนั้นเขาก็สามารถอาศัยพลังไร้ลักษณ์ วิวัฒนาการพลังแห่งธรรมที่มีธาตุAttrต่าง ๆ ตามใจประสงค์
เนื้อแท้วิถีไร้ลักษณ์ของเขาบรรลุถึงระดับความสูงของวิถีเซียนแล้ว แต่แดนของตัวเขาเองกลับยังห่างไกลจากแดนเซียนที่แท้จริงมาก ๆ
“ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าศักยภาพในปัจจุบันของข้า จักแตกต่างจากผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋ามากน้อยเท่าไหร่กันนะ?”
หลัวซิวสูดหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง เขาอยากประลองกับคู่ต่อสู้ระดับประมุขเต๋าคนหนึ่งมาก ๆ เพื่อดูว่าดอกผลในการเพ็ญตนของตัวเองเป็นอย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...