มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2985

หลังจากผลการฝึกตนบรรลุถึงแดนผู้แกร่งเลิศ ความเร็วในการควบคุมเข็มทิศสาส์นเต๋าของหลัวซิวก็รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

หลังจากเขาโบยบินอย่างรวดเร็วอยู่ในห้วงดาราอีกสี่วัน ในวิสัยทัศน์ของเขาก็มีดาราเก้าดวงที่เรียงกันในแนวนอนปรากฏ

มุกประสานเก้าดาว เพียงแวบเดียวหลัวซิวก็ดูออกแล้วว่านั่นคือโลกใต้ดิน เนื่องจากลักษณะรูปร่างนี้คล้ายคลึงกับหนึ่งในอัญดั้งเดิมอย่างไข่มุกจิ่วหลงในตำนานมาก

ต่อจากบรรพจารย์ฮวง บรรพจารย์ดินคือบรรพโบราณที่สองที่ดับสลายสูญสิ้น เล่ากันว่าไข่มุกจิ่วหลงก็หายเข้าไปในกลีบเมฆเช่นกัน

โลกใต้ดินเก้าดาวในปัจจุบันได้กลายเป็นอาณานิคมของเผ่ามังกรไท่ชูแล้ว เช่นนั้นภายในโลกใต้ดินก็ต้องมีผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าคอยคุ้มกันรักษาอยู่แน่นอน ในส่วนของผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเต๋านั้น ย่อมต้องคอยปกปักรักษาอยู่ในโลกาเทพมังกรไท่ชูอยู่แล้ว

หลัวซิวในปัจจุบัน แม้นจักต้องต่อกรกับประมุขเต๋าเขาก็ไม่หวาดหวั่น ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะไปโลกใต้ดินหนึ่งหน

แน่นอนอยู่แล้วว่าจุดประสงค์หลักที่เขามาโลกใต้ดิน ไม่ได้มาเพื่อต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋า แต่มาเพื่อดาบโลหิตเล่มนั้นในหุบเขาเยว่หย่า!

หุบเขาเยว่หย่าเป็นเขตต้องห้ามของโลกใต้ดิน ใช้พลังในการวิวัฒนาการของวิถีไร้ลักษณ์ หลัวซิวก็สามารถเปลี่ยนแปลงออร่าผลการฝึกตนของตัวเองได้อย่างง่ายดายแล้ว ดังนั้นเมื่อเขาเข้าไปในโลกใต้ดิน จึงไม่ได้รับความสนใจจากผู้แข็งแกร่งใด ๆ

เขาเข้าไปในระลอกคลื่นที่ประกอบมาจากไอสังหารสีเลือด ทันทีที่เข้าไป ไอสังหารอันน่าสยดสยองที่มากมายมหาศก็ม้วนซัดเข้ามา กัดกร่อนทุกสรรพสิ่ง

เมื่อเปรียบเทียบกับการมาที่นี่เมื่อครั้งก่อน หลัวซิวในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นผลการฝึกตนหรือศักยภาพ ต่างก็มีการเพิ่มขึ้นสูงมาก

แม้นเมื่อเปรียบเทียบกับมกุฎเต๋าที่แข็งแกร่งแล้วก็ยังแตกต่างกันไม่น้อย แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเหล่าผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋า หลัวซิวก็มีข้อได้เปรียบของตัวเขาเองเช่นกัน นั่นก็คือพลังเซียนที่ผนึกรวมมาจากวิถีไร้ลักษณ์

เขาไม่ได้บรรลุถึงแดนประมุขเต๋าแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นเมื่อพูดตามหลักแล้ว ผลการฝึกตนที่ผนึกรวมอยู่ในร่างกายน่าจะอยู่ที่ระดับแรงเต๋าผู้สูงส่งเหมือนเคย

และเป็นเพราะเขาตระหนักความล้ำลึกของวิถีเซียนได้นี่แหละ ดังนั้นพลังเซียนไร้ลักษณ์ระดับแรงเต๋าผู้สูงส่งจึงสามารถเทียบทัดพลังแห่งประมุขเต๋าได้อย่างสมบูรณ์เลย

ซึ่งนั่นก็หมายความว่าในด้านผลการฝึกตนที่แท้จริง หลัวซิวไม่ค่อยต่างจากประมุขเต๋าที่แท้จริงมากเท่าไหร่นัก ต่างกันแค่เขายังไม่ได้ทลายพันธนาการของแดนใหญ่

สิ่งที่วิถีไร้ลักษณ์ชำนาญมากที่สุดก็คือการอนุมานและวิวัฒนาการ ผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเต๋ายังไม่สามารถครอบครองดาบโลหิตเล่มนั้นได้ แต่ใช่ว่าเขาจะไม่สามารถทำได้เสมอไป

มิหนำซ้ำสาเหตุที่หลัวซิวมาที่นี่นั้นก็เป็นเพราะบังเอิญเดินทางผ่านโลกใต้ดินพอดี เขาจึงมาทดลองดู ใช่ว่าจะมีความมั่นใจว่าสามารถครอบครองดาบเล่มนั้นได้จริง ๆ

“อาณาจักรไร้ลักษณ์!”

ท่ามกลางไอสังหารสีเลือดที่ตลบฟุ้งอยู่ทั่วทุกสารทิศ หลัวซิวหกระเหินเดินฟ้า ย่ำเท้าเดินอยู่กลางอากาศที่ว่างเปล่า มีแสงเซียนที่ขมุกขมัวแย้มบานออกมาจากตัวเขา จากเขตพื้นที่โดยรอบหนึ่งร้อยเมตรที่มีเขาเป็นจุดศูนย์กลาง ได้ผนึกรวมกันแล้วประกอบเป็นพลังอาณา

ความเร็วในการเคลื่อนที่ของหลัวซิวไม่ช้าเลยสักนิด เพียงพริบตาเดียวเขาก็มาถึงส่วนลึกของหุบเขาเสว่หย่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อเขามองเห็นดาบโลหิตที่ลอยขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่กลางไอสังหารที่แทบจะผนึกรวมกันเป็นแก่นแท้ พลานุภาพของไอสังหารที่อยู่รอบ ๆ ก็บรรลุถึงระดับที่แข็งแกร่งมากกว่าเดิม ทำให้อาณาจักรไร้ลักษณ์ของเขาสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง แล้วเกิดเป็นเสียงแคว็ก ๆ เหมือนกำลังจะแตกสลาย

“ช่างเป็นอาวุธเพชรฆาตที่ทรงพลังยิ่งนัก”

หลัวซิวเพ่งมองดาบโลหิตเล่มนั้น นี่ยังอยู่ภายใต้สภาวะที่ไร้จ้าวอยู่ หากเป็นคนที่มีผลการฝึกตนเพียงพอมากระตุ้นพลานุภาพของดาบเล่มนี้ คาดว่าแม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเต๋าก็คงไม่สามารถต่อกรกับคนดังกล่าวได้

สาเหตุที่บอกว่าเป็นอาวุธเพชรฆาตนั้น เป็นเพราะจากออร่าที่แผ่กระจายออกมาจากดาบเล่มนั้น หลัวซิวสัมผัสได้แค่จิตสังหารที่บริสุทธิ์ถึงขีดสุด ซึ่งภายในจิตสังหารประเภทนี้มีธรรมเวชเพชรฆาตที่ปราดเปรื่องอย่างยิ่งแฝงซ่อนอยู่ ราวกับเมื่ออยู่ต่อหน้าจิตสังหารที่มากมายมหาศาลนี้ ธรรมทั้งปวงในจักรวาลล้วนต้องหลบหลีก ไม่อาจหยุดยั้ง ทะลวงทุกสรรพสิ่ง!

หลัวซิวก้าวเท้าไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว จากการที่ยิ่งอยู่ยิ่งเข้าใกล้ดาบโลหิตเล่มนั้น จิตสังหารที่อยู่รอบ ๆ ก็ยิ่งน่าสยดสยอง ซึ่งจิตสังหารประเภทนี้ยังสามารถกัดกร่อนจิตใจได้ด้วย หากตัวธรรมไม่แข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยวมากพอ จิตใจก็จะถูกจิตสังหารนี้ทลาย ถูกครอบงำโดยตรง จนร่างตายธรรมสูญ

ดูเหมือนจะอยู่ตรงหน้า ทว่ายังคงห่างกันหลายสิบลี้ เมื่อหลัวซิวเดินถึงตำแหน่งที่เข้าใกล้ดาบโลหิตเล่มนั้นประมาณ 20 กว่าลี้ ดาบโลหิตเล่มนั้นก็เหมือนสัมผัสได้ว่ามีคนเข้าใกล้ ตัวดาบสีเลือดสั่นเทิ้มจนเกิดเป็นเสียงดังหึ่ง ๆ ก่อนจะมีไอสังหารแท้ดวงหนึ่งผันเป็นมังกร แล้วกระโจนเข้าไปทางหลัวซิวอย่างรวดเร็ว

“ตู้มม!”

ไอสังหารร่างมังกรสีเลือดน่าสยดสยองถึงขีดสุด เสี้ยววินาทีที่ประสานงากัน ก็ทำให้อาณาจักรไร้ลักษณ์ของหลัวซิวแตกสลาย ต่อมาจิตสังหารที่ไร้ขอบเขตก็พุ่งเข้าไปในตัวหยั่งรู้ของเขา ทำให้หลัวซิวรู้สึกเหมือนมีมังกรโลหิตที่ดุร้ายน่ากลัวตัวหนึ่งกำลังจะกลืนกินวิญญาณดั้งเดิมของเขา

“ช่างเป็นจิตสังหารที่แข็งแกร่งยิ่งนัก!”

สีหน้าของหลัวซิวเปลี่ยนไป ต้องท้าวความก่อนว่าหลังจากผลการฝึกตนของเขาบรรลุถึงแดนผู้แกร่งเลิศแล้ว ตัวสำนึกวิญญาณของเขาก็เลื่อนระดับตามเช่นกัน บรรลุถึงระดับที่เทียบทัดประมุขเต๋าขั้นปฐมภูมิ

ทว่าจากพลังตัวสำนึกระดับประมุขเต๋าขั้นปฐมภูมิ เมื่อเผชิญหน้ากับไอสังหารมังกรโลหิตที่น่ากลัวตัวนี้ หลัวซิวก็ยังคงสามารถสัมผัสความต่ำต้อยของตัวเองได้อยู่เช่นเคย

เขากล้ายืนยันเลยว่าต่อให้ผู้แข็งแกร่งประมุขเต๋าช่วงปลายคนหนึ่งมาถึงที่นี่ ก็ต้านทานไอสังหารที่สั่นสะท้อนออกมาจากดาบโลหิตไม่ไหวแน่นอน!

“แย่แล้ว ข้าต้านทานไอสังหารดวงนี้ไม่ไหวแน่นอน!”

หลัวซิวทำการวิเคราะห์สถานการณ์ในวินาทีนี้ได้ภายในพริบตา เขารีบกระตุ้นหอคอยฮวงที่อยู่ในตัวหยั่งรู้ให้ลอยขึ้น จนส่งผลกระทบต่อไอสังหารมังกรโลหิตที่กระโจนเข้ามา พลางควบคุมร่างกายตัวเองให้อยู่ห่างจากดาบโลหิต

อย่างไรก็ตาม วินาทีนี้หลัวซิวกลับพบว่าตนไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ด้วยซ้ำ ภายใต้การผนึกจากจิตสังหารที่ไร้ขอบเขต ปริภูมิที่อยู่รอบกายเขาล้วนถูกผนึกไปแล้ว

ซึ่งนี่ก็หมายความว่าหากหลัวซิวไม่สามารถต้านทานการดูดกลืนของไอสังหารมังกรโลหิตในตัวหยั่งรู้ เช่นนั้นวันนี้เขาก็มีโอกาสฝากชีวิตอยู่ที่นี่แล้วจริง ๆ

ในตัวหยั่งรู้ รัศมีของหอคอยฮวงสีทองสว่างจ้ามาก พุ่งชนเข้ากับไอสังหารมังกรโลหิตอย่างรุนแรง ตัวหยั่งรู้ที่เหมือนดั่งจักรวาลหนึ่งของหลัวซิวจึงกลายเป็นสนามรบทันที

หอคอยฮวงคืออัญดั้งเดิม แต่ไอสังหารมังกรโลหิตกลับกลายมาจากจิตสังหารเสี้ยวหนึ่งในดาบโลหิต อย่างไรก็ตามการปะทะในครั้งนี้ หอคอยฮวงกลับเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด

แต่ท้ายที่สุดแล้วดาบโลหิตเล่มนี้ก็เป็นสมบัติไร้จ้าว หลัวซิวจึงรีบกระตุ้นเข็มทิศสาส์นเต๋าเข้าร่วมสนามรบ เช่นนี้ถึงจะสามารถต้านทานไอสังหารมังกรโลหิตดวงนี้เอาไว้ได้อย่างยากลำบาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ