มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2988

หลังจากมกุฎเต๋าบรรพเสวียนจากไป หลัวซิวก็นั่งอยู่ในภัตตาคารคนเดียว พร้อมกับป้ายบัญชาการสีทองหนึ่งชิ้น

ป้ายบัญชาการชิ้นนี้ทำมาจากทองเซียนระดับประมุขเต๋า ด้านหนึ่งมีคำว่า‘เทียน’สลักอยู่ ส่วนอีกด้านหนึ่งมีคำว่า‘เต้า’สลักอยู่ เมื่อรวมเข้าด้วยกันก็คือเทียนเต้าหรือวิถีสวรรค์นั่นเอง

การที่สามารถฝึกถึงระดับประมุขเต๋า ระดับขั้นก็แทบจะสามารถเทียบทัดเทียนเต้าได้แล้ว ดังนั้นบัญชาเทียนเต้าจึงเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกตัวตนของผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋า

และในดาราจักรวาลนี้ ก็มีเพียงผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเต๋าเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์มอบบัญชาเทียนเต้าให้ผู้อื่น

จากการพูดคุยกับมกุฎเต๋าบรรพเสวียนในครั้งนี้ หลัวซิวได้รับดอกผลมาเยอะมาก ในขณะเดียวกันเขาก็ทราบเช่นกันว่าอาจารย์มกุฎเต๋าหวูจี๋ของตัวเองไม่ได้ดับสลายสูญสิ้นแต่อย่างใด เนื่องจากโลกาอนัตตาหวูจี๋ลึกลับมากเกินไป มาตรแม้นว่าเป็นมกุฎเต๋าคนอื่น ๆ ก็หาไม่เจอ ส่วนค่ายวาร์ฟทางเข้าที่ตั้งอยู่ในหุบเขากระบี่แห่งอาณากระบี่ก็ถูกทำลายไปตั้งนานแล้ว

นอกเหนือจากนี้ มกุฎเต๋าหวูซินแห่งโลกาฟ้าดินหลิงหลงจะจัดสมาคมเต๋าครั้งหนึ่งในสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวง ซึ่งมีเพียงผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าที่มีบัญชาเทียนเต้าติดตัว ถึงจะมีสิทธิ์เข้าร่วม

อ้างอิงจากคำพูดของมกุฎเต๋าบรรพเสวียน ในเมื่อเขาบรรลุถึงระดับของประมุขเต๋าแล้ว เช่นนั้นเขาก็มีสิทธิ์เข้าร่วมเรื่องราวบางอย่างแล้วล่ะ

เมื่อได้ยินว่าจะไปสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวง ปฏิกิริยาแรกของหลัวซิวก็คือไม่ไป อย่างไรเสียเขาก็เคยสังหารเทพธิดาคนหนึ่งของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวง อีกทั้งสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงก็เคยส่งผู้แข็งแกร่งมาสังหารเขาหลายครั้งเช่นกัน หากเขาไปจริง ๆ ก็จะเป็นเหมือนแกะที่เดินเข้าไปในปากเสือมิใช่หรือ?

ดูเหมือนมกุฎเต๋าบรรพเสวียนก็รู้ความกังวลใจของหลัวซิวเช่นกัน แต่เขากลับบอกให้หลัวซิวไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องพวกนี้ เนื่องจากถึงครานั้นมกุฎเต๋าหวูจี๋ก็จะไปเช่นกัน อีกทั้งสมาคมเต๋าประเภทนี้ก็ต้องมีผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าไปเข้าร่วมจำนวนมากแน่นอน มกุฎเต๋าหวูซินก็คงไม่สามารถลงมือในสถานการณ์เช่นนั้นได้

แน่นอนอยู่แล้วว่าสุดท้ายแล้วหลัวซิวจะไปเข้าร่วมสมาคมเต๋าหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตัวเขาเอง และอ้างอิงจากความหมายของมกุฎเต๋าบรรพเสวียน เขาได้ทำการมอบบัญชาเทียนเต้าให้แก่หลัวซิว ซึ่งเท่ากับการแสดงลักษณะท่าทีแล้วว่าเขามองหลัวซิวเป็นคนของตัวเอง

โดยส่วนใหญ่แล้ว มกุฎเต๋าทุกคนจะมอบบัญชาเทียนเต้าให้กับผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าในกองกำลังของตัวเองเท่านั้น เมื่อมีบัญชาเทียนเต้าของมกุฎเต๋าท่านใด โดยส่วนใหญ่ก็แทบจะสะท้อนให้เห็นแล้วว่าคนคนนั้นเป็นผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชามกุฎเต๋าคนใด

ในขณะเดียวกันมกุฎเต๋าบรรพเสวียนยังเปิดเผยข้อมูลอีกเรื่องหนึ่งด้วย นั่นก็คือระหว่างมกุฎเต๋าบรรพเสวียนและมกุฎเต๋าหวูจี๋ยังคงอยู่ในความสัมพันธ์พันธมิตรอยู่เช่นเคย

หลัวซิวไม่เข้าใจว่าตกลงมีเล่ห์เพทุบายอะไรซ่อนอยู่ในเรื่องนี้กันแน่ แต่เขารู้สึกว่ายังไงตัวเองก็ควรระมัดระวังหน่อยจะดีกว่า บางทีหากไม่ทันได้ระวังก็อาจถูกผู้อื่นวางแผนทำร้าย จนบางทีอาจได้ตายไปแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย

“เราไปกันเถอะ”

หลัวซิวค่อย ๆ ลุกตัวขึ้น ตี้ขุย เย่ห้าวหรานแล้วก็หลี่ยู่ต่างเดินอยู่ด้านหลังเขา ออกจากภัตตาคารแห่งนี้

หลัวซิวทราบมาจากปากมกุฎเต๋าบรรพเสวียนว่า สมาคมเต๋านี้จะจัดขึ้นในอีกหนึ่งเดือนภายหน้า หากจะมุ่งหน้าจากโลกเสวียนไปยังสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงแห่งโลกาฟ้าดินหลิงหลง ต่อให้อาศัยความเร็วของเข็มทิศสาส์นเต๋า อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาครึ่งเดือนกว่า

ในส่วนของเรื่องที่ว่าตกลงหลัวซิวตัดสินใจไปหรือไม่ไปนั้น เขายังตัดสินใจไม่ได้

ทว่าในเมื่อเวลายังถือว่าพอเพียงอยู่ เขาจึงไม่ได้รีบออกจากโลกเสวียนแต่อย่างใด เขาวางแผนที่จะอยู่ในโลกเสวียนต่ออีกสักสองวัน หากไม่ได้รับดอกผลหรือเบาะแสอะไรละก็ เขาก็จะเดินทางไปโลกเหลือง

เวลาสองวันล่วงเลยไปภายในพริบตา ในขณะที่หลัวซิวเตรียมพร้อมที่จะออกจากโลกเสวียนอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีกระแสสัมผัสเกิดขึ้นในตัวสำนึกของเขา

ในตำแหน่งที่อยู่ห่างไกลจากเขาประมาณสามแสนกว่าลี้ มีแสงกลดวงหนึ่งกำลังเคลื่อนที่ผ่านท้องฟ้าด้วยความเร็วที่น่าทึ่งอย่างยิ่ง ส่วนด้านหลังของแสงกลดวงนั้น ก็มีแสงกลอีกสามดวงไล่ตามมาด้วยความเร็วที่รวดเร็วอย่างยิ่งเช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นการไล่ล่าก็ดี บุญคุณความแค้นส่วนตัวหรือการฆ่าคนเพื่อแย่งสมบัติก็ช่าง เมื่ออยู่ในโลกแห่งการฝึกยุทธ์ เรื่องประเภทนี้ถือเป็นเรื่องที่หาพบได้บ่อยไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว และสาเหตุที่หลัวซิวสังเกตเห็นนั้น เป็นเพราะเขาสัมผัสออร่าที่คุ้นเคยได้จากแสงกลที่กำลังหลบหนีอยู่ด้านหน้า จึงทำให้เขานึกถึงคนคนหนึ่ง

ครั้นเมื่อเขาไปโลกสวรรค์ เคยมีโอกาสพบหนิงหานหลิง ต่อมาทั้งคู่ยังเคยไปมิติสมรภูมิกู่ไท่พร้อมกันด้วย หนิงหานหลิงได้รับโอกาสที่ไม่ธรรมดาในมิติสมรภูมิกู่ไท่ ดังนั้นจึงเข้าร่วมตำหนักเยว่เทียน แล้วกลายเป็นศิษย์แห่งตำหนักเยว่เทียน

มกุฎเต๋าเทียนชูดับสลายสูญสิ้นไปแล้ว รากฐานของเผ่าฟ้าจึงแทบจะถูกทำลายล้างจนหมดสิ้น วังนภาสิบสองดำรงอยู่แต่ในนาม ตำนานของสวรรค์ทั้ง 12 แห่งไท่ชูก็กลายเป็นประวัติศาสตร์ไปตลอดกาล

ในฐานะที่เป็นศิษย์แห่งตำหนักเยว่เทียน การที่หนิงหานหลิงสามารถมีชีวิตรอดมาจากมหันตภัยในครั้งนี้ได้นั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย บางทีนางอาจจะออกจากโลกสวรรค์ แล้วมาถึงโลกเสวียนก่อนมหันตภัยก็เป็นได้

ในส่วนของเรื่องที่ว่าเหตุใดหนิงหานหลิงจึงต้องมาโลกเสวียน หลัวซิวไม่ต้องคิดก็รู้แล้วว่าต้องมาเพราะหนี้เลือดของตระกูลหนิงของพวกนางแน่นอน

ตระกูลหนิงที่อยู่ในโลกเสวียนก็เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงโด่งดังเช่นกัน ไม่ใช่แดนศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็เป็นกองกำลังใหญ่ที่หาพบได้น้อย ทว่าคนทั้งตระกูลกลับถูกล้มล้างภายในชั่วข้ามคืนเดียว ทั้งตระกูลหนิงก็มีเพียงหนิงหานหลิงเท่านั้นที่โชคดีมีชีวิตหนีรอดออกมาได้ อีกทั้งหลบหนีไปยังโลกสวรรค์

ความเกลียดแค้นนี้ถูกหนิงหานหลิงฝังอยู่ในใจมาโดยตลอด นางเข้าร่วมตำหนักเยว่เทียนแล้วฝึกตนอย่างสุดกำลังสามารถ ก็เพื่อหวังว่าสักวันจะสามารถล้างแค้น แล้วสร้างวงศ์ตระกูลหนิงกลับคืนมาใหม่!

และทุกอย่างก็ค่อนข้างเหมือนอย่างที่หลัวซิวคาดการณ์เอาไว้ ก่อนเผ่าฟ้าจะถูกล้มล้างสองปี หนิงหานหลิงก็เดินทางมาโลกเสวียนตั้งนานแล้ว นางคิดไปเองว่าตนประสบความสำเร็จด้านการฝึกตน สิ่งแรกที่จะทำก็คือกลับมาล้างแค้นเพื่อตระกูล

อย่างไรก็ตามกองกำลังที่ล้มล้างตระกูลหนิงลึกลับมากเกินไป หนิงหานหลิงตามสืบหามาสองปีกว่า แต่ก็พบเบาะแสร่องรอยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่นางเตรียมพร้อมจะสืบสาวไปตามเบาะแสร่องรอยอันน้อยนิด นางก็ถูกคนหมายตาไว้แล้ว

ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ หนิงหานหลิงอาศัยโอกาสที่ได้รับจากมิติสมรภูมิกู่ไท่ บวกกับเงื่อนไขที่ดีเลิศของตำหนักเยว่เทียน พรสวรรค์ปัญญาของนางได้รับการยกระดับอย่างดีเยี่ยม ปัจจุบันก็ฝึกถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อช่วงกลางแล้ว

นางยังมีไพ่เด็ดที่แข็งแรงอีกหนึ่งใบ นั่นก็คือสมบัติที่นางได้รับจากมิติสมรภูมิกู่ไท่เมื่อปีนั้น เมื่ออาศัยพลานุภาพของสมบัติชิ้นนั้น ต่อให้เผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อขั้นสูง นางก็ไม่หวาดหวั่นเลยแม้แต่น้อย

อย่างไรก็ตามศัตรูของนางแข็งแกร่งมากเกินไป วินาทีนี้ในบรรดาทั้งสามคนที่กำลังไล่ล่านาง มีคนหนึ่งเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อขั้นสูง ส่วนอีกสองคนที่เหลือก็อยู่ในแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อช่วงปลายเช่นกัน

แม้นไพ่เด็ดของนางจะทรงพลังมาก แต่ก็สามารถรับมือกับคู่ต่อสู้ได้เพียงคนเดียว ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงเลือกที่จะหนีเอาชีวิตรอด

“ห้วงเวลาขัง!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ