ป้ายบัญชาการของสระกระดูกอัคคีเซียนหงสา ถึงจะเป็นของดีเพียงใด แต่กลับไม่สามารภทำให้ผู้แข็งแกร่งอย่างมกุฎเต๋าหวูซินประทับใจได้
เมื่อเห็นมกุฎเต๋าหวูซินส่ายศีรษะ ประมุขเต๋าที่มีใบหน้าซีดเหลืองก็แสดงออกถึงความผิดหวัง ทำได้เพียงนั่งกลับลงไปอย่างช่วยไม่ได้
ท้ายที่สุด คนอื่น ๆ ก็ยังไม่สามารถนำของที่จะทำให้มกุฎเต๋าหวูซินประทับใจออกมาได้ ดังนั้นมกุฎเต๋าหวูซินจึงได้เก็บเอาแหล่งเซียนชิ้นนั้นกลับเข้าไป เหลือบมองไปยังมกุฎเต๋าบรรพเสวียนและมกุฎเต๋าหวูจี๋ที่นั่งข้าง ๆ
คนอื่น ๆ ต่างก็มองไปที่มกุฎเต๋าทั้งสองอย่างมีความหวัง ในฐานะของมกุฎเต๋า พวกเขาจะไม่นำสิ่งธรรมดาๆ ออกมา ในโอกาสเช่นนี้อย่างแน่นอน
แต่ไม่นานทุกคนก็ต้องผิดหวังอีกครั้ง เพราะหวูจี๋และบรรพจารย์เสวียน มกุฎเต๋าทั้งสองต่างไม่มีทีท่าว่าจะนำสมบัติใดออกมาแลกเปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย
สมาคมเต๋ายังคงดำเนินต่อไป ประมุขเต๋าอื่น ๆ ก็มาพร้อมกับสมบัติหายากเช่นกัน ท่ามกลางสมบัติเหล่านั้น ก็มีของดี ๆ ที่ทำให้หัวใจของหลัวซิวเต้นแรงอยู่เช่นกัน
สมาคมเต๋าไม่ได้มีข้อกำหนดว่าทุกคนต้องนำสมบัติออกมา ดังนั้นหลัวซิวจึงไม่ได้เข้าร่วมการแลกเปลี่ยนของสมาคมเต๋าในครั้งนี้
หลังจากที่สมาคมเต๋าสิ้นสุดลง หลัวซิวก็ไปตามหาประมุขเต๋าหน้าเหลืองผู้นั้น
“ผู้เพื่อนยุทธ์ ไม่รู้ว่าป้ายบัญชาการของสระกระดูกอัคคีเซียนหงสาในมือของผู้เพื่อนยุทธ์นั้นมีความคิดจะแลกเปลี่ยนหรือไม่?” หลัวซิวก้าวเข้าไปด้านหน้าพร้อมกำมือคำนับ
“ผู้เพื่อนยุทธ์หลัว ข้านามว่าหมินหยวน หรือว่าผู้เพื่อนยุทธ์สนใจป้ายบัญชาการของสระกระดูกอัคคีเซียนหงสาหรือ?” ประมุขเต๋าหน้าเหลืองกุมมือรับการคำนับ
ถึงจะบอกว่าหลัวซิวเป็นประมุขเต๋าหน้าใหม่ แต่เขาก็มีสถานะเป็นศิษย์ของมกุฎเต๋าหวูจี๋ ดังนั้นแม้ว่าผลการฝึกตนของหมินหยวนจะเป็นประมุขเต๋าช่วงกลาง แต่การพูดกับเขาก็ยังคงเต็มไปด้วยน้ำเสียงเกรงใจ
ไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างมกุฎเต๋าจะกลมเกลียวกันหรือไม่ อย่างน้อยประมุขเต๋าช่วงกลางอย่างเขา หากไม่มีความจำเป็นจริง ๆ ก็ไม่มีวันยั่วยุศิษย์ของมกุฎเต๋าเป็นแน่
“ใช่แล้ว อัคคีชีวีของข้าจำเป็นต้องยกระดับ และจำเป็นต้องไปสระกระดูกอัคคีเซียนหงสาสักครา” หลัวซิวยิ้มพร้อมพยักหน้า พูดต่อ “ประมุขเต๋าหมินหยวนหากไม่รังเกียจจะช่วยดูว่าสิ่งของชิ้นนี้ถูกใจท่านหรือไม่?”
ระหว่างที่พูด หลัวซิวก็ได้หยิบม้วนหยกชิ้นหนึ่งออกมายื่นให้
ประมุขเต๋าหมินหยวนเพิ่งจะรับม้วนหยกมาถึงมือ เพียงครู่ต่อมาสีหน้าของเขาก็พลันเปลี่ยนเป็นนิ่งเรียบขึ้นมาทันที มองไปทางหลัวซิวด้วยสีหน้าที่ไม่คาดคิด
“ผู้เพื่อนยุทธ์หลัวท่านพูดจริงหรือ? ท่านจะนำสิ่งนี้มาแลกกับป้ายบัญชาการเซียนหงสาอย่างนั้นหรือ?”
ก็ไม่แปลกหากว่าประมุขเต๋าหมินหยวนจะตกใจถึงเพียงนั้น ม้วนหยกที่หลัวซิวยื่นให้เขานั้นมันน่าตกใจเกินไปจริง ๆ เพราะด้านในม้วนหยกนี้มีบันทึกวรยุทธ์หนึ่งของระดับวิถีเซียนอยู่!
ในฐานะประมุขเต๋า ประมุขเต๋าหมินหยวนย่อมรู้ดีว่าในสมัยบรรพกาลไร้ที่สิ้นสุดนั้นดคยมียุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ยุคหนึ่งที่ชาวเซียนเป็นผู้กุมอำนาจ ดังนั้นภายในดาราจักรวาลที่กว้างขวางเช่นนี้ จึงมีร่องรอยอันเก่าแก่ที่ชาวเซียนหลงเหลือเอาไว้ มีการสืบทอดของชาวเซียนที่ทิ้งเอาไว้ด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม การสืบทอดของชาวเซียนนั้นใช่ว่าจะได้รับมาอย่างง่ายดาย ยกเว้นประมุขเต๋าอันดับต้น ๆ จำนวนน้อยมากที่มีโอกาสนี้ เฉพาะผู้ที่มีพลังอันยิ่งใหญ่เช่นเหล่ามกุฎเต๋าเท่านั้นที่ครอบครองวรยุทธ์วิถีเซียนอยู่ในมือ
พูดอย่างไม่เกรงใจ หากเขาสามารถฝึกตนวรยุทธ์วิถีเซียนได้ เช่นนั้นนอกจากผู้ที่ฝึกตนวรยุทธ์วิถีเซียนเช่นตนแล้ว คนอื่น ๆ ในแดนเดียวกัน ก็แทบไม่มีใครที่สามารถเป็นศัตรูกับเขาได้
ราคาของหนึ่งวรยุทธ์วิถีเซียนนั้นไม่อาจนำมาตีเป็นมูลค่าได้ ต่อให้เป็นศัสตราวุธเต๋าชั้นสูงชิ้นหนึ่งก็ไม่สามารถแลกมาได้ หากนำมาแลกเปลี่ยนกับแหล่งเซียนชิ้นนั้นของมกุฎเต๋าหวูซินจึงจะสามารถพอเทียบเคียงกันได้
แต่ในเวลานี้หลัวซิวกลับนำวรยุทธ์เช่นนี้มาแลกกับป้าบบัญชาการเซียนหงสาอัคคี จะไม่ให้ประมุขเต๋าหมินหยวนรู้สึกถึงความไม่สมเหตุสมผลได้อย่างไร?
“ในเมื่อข้ามาหาผู้เพื่อนยุทธ์ ย่อมต้องการที่จะทำการแลกเปลี่ยนอย่างจริงใจ แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าตำแหน่งของเผ่าเซียนหงสาตั้งอยู่ที่ใด อยากรบกวนให้ทานประมุขเต๋าหมินหยวนบอกแจ้งแก่ข้าด้วย” หลัวซิวพูดพร้อมรอยยิ้ม คัมภีร์เซียนหลอมจิตเป็นเพียงวรยุทธ์หนึ่งของระดับมนุษย์อมตะเท่านั้น สำหรับเขาแล้วมันไม่ต่างอะไรกับซี่โครงไก่ แต่สำหรับประมุขเต๋าส่วนใหญ่แล้วนั้น มูลค่ามันไม่สามารถประเมินได้
หากที่ตัวของหลัวซิวมีสิ่งของชิ้นอื่น แน่นอนว่าเขาจะไม่เลือกใช้วรยุทธ์วิถีเซียน อย่างไรก็ตามสมบัติในแหวนเก็บของของเขาถึงแม้จะมีมาก แต่หากไม่ใช่ว่าระดับของสมบัติชิ้นนั้นจะมีระดับสูงเกินไป ก็มีระดับต่ำเกินไป
“แน่นอนว่าไม่ใช่ปัญหา!”
เมื่อได้รับการยืนยันจากหลัวซิว หมินหยวนก็ใช้ความเร็วที่รวดเร็วที่สุดหยิบเอาม้วนหยกกับป้ายบัญชาการสีแดงเพลิงออกมา ด้วยเกรงว่าหลัวซิวจะเกิดเสียดายขึ้นมา จึงได้รีบจบการแลกเปลี่ยนนี้อย่างรวดเร็ว
ด้านบนของป้ายบัญชาการมีภาพสลักเซียนหงสาที่เกิดใหม่จากขี้เถ้าถูกสลักไว้ ตำแหน่งของเผ่าเซียนหงสาได้ถูกทำเครื่องหมายไว้ในม้วนหยก
เผ่าเซียนหงสาถึงแม้จะลึกลับ แต่ก็ไม่สามารถตัดขาดจากโลกภายนอกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นผู้แข็งแกร่งประมุขเต๋าจำนวนไม่น้อยที่รู้ถึงตำแหน่งที่ตั้งของเผ่านี้ จึงไม่ได้ถือว่าเป็นความลับแตาอย่างใด
หลัวซิวเมื่อได้ของที่ตนต้องการแล้ว จึงกลับไปยังข้างกายของมกุฎเต๋าหวูจี๋ พูดเอ่ยด้วยความเคารพ “ท่านอาจารย์ ศิษย์มีธุระที่จำเป็นจะต้องไปที่เผ่าเซียนหงสาสักครั้ง”
มกุฎเต๋าหวูจี๋ได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว พูดเสียงเข้ม “เจ้าใช้เวลาเพียงระยะสั้น ๆ ฝึกตนถึงแดนประมุขเต๋า นั่นทำให้คนมากมายเกิดความโลภในความลับบนตัวเจ้าแล้ว ตามข้ากลับไปยังโลกาอนัตตาอู๋จี๋ก่อนเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...