มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2994

สถานบรรพบุรุษของเผ่าเซียนหงสาเป็นสถานที่หนึ่งท่ามกลางแดนปริศนา ผู้ที่ดูแลต้อนรับหลัวซิวคือนักยุทธ์ชายระดับผู้สูงส่งช่วงปลายผู้หนึ่ง

“ผู้อาวุโสโปรดตามข้าน้อยมา”

นักยุทธ์ชายผู้นี้ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่ทำความเคารพ และเดินนำทางอยู่ด้านหน้า

หลัวซิวก็ไม่ได้เอ่ยปากถามเรื่องเหยียนเยว่เอ๋อร์ไปตรง ๆ หลังจากนั้นด้วยการนำทางของนักยุทธ์ชายผู้นี้ ก็มาถึงภายในสำหนึ่งหนึ่งของเผ่าเซียนหงสา

ด้านในของสำนักมียายแก่อยู่คนหนึ่ง ผลการฝึกตนระดับผู้สูงส่งขั้นสูง เมื่อเห็นหลัวซิวนำป้ายบัญชาเซียนหงสาออกมา ก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “เป็นเครื่องรางของเราเผ่าเซียนหงสาจริง ๆ ขอเสียมารยาทถามท่านผู้อาวุโสมีนามว่าอย่างไร?”

“ซิวหลัว” หลัวซิวตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ที่แท้ก็คือผู้อาวุโสซิวหลัว ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสได้รับป้ายบัญชาเซียนหงสานี้มาได้อย่างไรหรือ?” ยายแก่เอ่ยถาม

เห็นได้ชัดว่า เผ่าเซียนหงสานั้นมีการบันทึกเกี่ยวกับป้ายบัญชาการเครื่องรางที่ถูกส่งออกไปทั้งหมด แต่ในบันทึกของเผ่าเซียนหงสา กลับไม่มีชื่อของซิวหลัวอยู่

“ป้ายบัญชาการเป็นสิ่งที่ผู้เพื่อนยุทธ์หมินหยวนมอบให้กับข้า มีปัญหาใดหรือ?” หลัวซิวขมวดคิ้ว

“ผู้อาวุโสโปรดอภัย ผู้น้อยมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ จึงได้ถามออกไปเช่นนั้น” ยายแก่เมื่อเห็นสีหน้าของหลัวซิวดูไม่สบอารมณ์นัก ก็รีบเอ่ยคำขอโทษขอโพยออกมา

ผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าบางท่านที่ได้รับป้ายบัญชาเซียนหงสาไปก็นำไปแลกเปลี่ยนกับผู้อื่น หรืออาจจะมอบต่อเป็นรางวัลให้ผู้อื่น สำหรับเผ่าเซียนหงสาแล้วถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาเรื่องหนึ่ง ดังนั้นในเมื่อป้ายบัญชาการของหลัวซิวนี้ได้รับมาจากมือของผู้อื่น ก็ไม่ได้ทำผิดข้อบังคับแต่อย่างใด

“ในเมื่อไม่มีปัญหาใด เช่นนั้นก็พาข้าไปยังสระกระดูกอัคคีเซียนหงสาเถอะ” หลัวซิวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา วางมาดด้วยท่าทีเย็นชาและเย่อหยิ่งอย่างผู้อาวุโสสูงศักดิ์

แน่นอนว่ายายแก่ไม่กล้าเอ่ยถามต่อให้มากความ ทำได้เพียงแค่ทำตามกิจวัตรบันทึกข้อมูลลงไป จากนั้นก็มีคนของเผ่าเซียนหงสาอีกคนเข้ามายังสำนักแห่งนี้ พาหลัวซิวมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งของสระกระดูกอัคคีเซียนหงสา

แดนปริศนาคีตโลกาที่เป็นตำแหน่งของสถานบรรพบุรุษเผ่าเซียนหงสาแห่งนี้มีดวงอาทิตย์ดวงหนึ่ง เป็นสิ่งที่บรรพอาจารย์ท่านหนึ่งในประวัติศาสตร์อันยาวนานของเผ่าเซียนหงสาเป็นดาวฤกษ์ดวงหนึ่งที่ถูกเคลื่อนย้ายมาไว้ในที่แห่งนี้

และสระกระดูกอัคคีเซียนหงสา ก็อยู่บนดวงอาทิตย์ดวงนี้

โดยรอบของดวงอาทิตย์มีค่ายต้องห้ามที่แข็งแกร่งอยู่ มีเพียงป้ายบัญชาเซียนหงสาเท่านั้นที่สามารถเปิดได้ และเมื่อหลัวซิวเข้าไปแล้วจะสามารถอยู่ด้านในเพื่อฝึกตนได้เพียงสิบชั่วยาม เมื่อเวลามาถึง ค่ายต้องห้ามจะเริ่มทำงานด้วยตนเอง ส่งเขาออกมาด้านนอก

สระกระดูกอัคคีเซียนหงสาเป็นถึงสถานที่สำคัญ ค่ายต้องห้ามที่อยู่โดยรอบต่างมีระดับที่สูงมาก แทบจะเป็นถึงระดับเซียน ดังนั้นต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าก็อย่าได้คิดว่าจะสามารถอยู่ต่อได้นานขึ้นแม้เพียงสองสามนาที ไม่มีทางที่จะต่อต้านพลังการวาร์ปของค่ายกลได้

ท่ามกลางสระกระดูกอัคคีเซียนหงสาเต็มไปด้วยพลังธาตุไฟที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่าที่หลัวซิวคาดคิดเอาไว้ เพิ่งเหยียบเข้ามาถึงที่แห่งนี้ เขาสามารถสัมผัสได้ถึงดวงอัคคีชีวีไร้ลักษณ์ภายในร่างกายถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งความยินดีและตื่นเต้น แสดงให้เห็นว่าพลังธาตุไฟในที่แห่งนี้ สามารถยกระดับดวงอัคคีชีวีไร้ลักษณ์ของเขาให้เพิ่มขึ้นได้อีกครั้ง

สิบชั่วยามผ่านไปเพียงพริบตา ดวงอัคคีชีวีไร้ลักษณ์ก็ได้รับการเพิ่มระดับอย่างที่คาดไว้ บรรลุถึงอัคคีแห่งประมุขเต๋า

ด้วยขีดจำกัดของเวลาที่บีบครั้นเข้ามา คลื่นปริภูมิอันรุนแรงก็พลันบังเกิด หลัวซิวไม่ได้ต่อต้าน ปล่อยให้คลื่นปริภูมินี้ครอบคลุมไปทั่วร่างของเขา เพียงครู่เดียวก็ถูกส่งออกมาอยู่ด้านนอกของดวงอาทิตย์ดวงนี้

ด้านนอกของค่ายต้องห้าม นักยุทธ์ชายผู้สูงส่งช่วงปลายของเผ่าเซียนหงสาที่คอยดูแลหลัวซิวมาตั้งแต่แรกก็ได้มารอเขาอยู่นานแล้ว

“ผู้อาวุโสพึงพอใจต่อสระกระดูกอัคคีของเผ่าเซียนหงสาหรือไม่?” นักยุทธ์ชายเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม

“ถือว่าไม่เลว” หลัวซิวพยักหน้ารับ

“เพียงแค่ผู้อาวุโสพึงพอใจก็ดีแล้ว แต่น่าเสียดายที่เผ่าเซียนหงสาของเราไม่มีบรรพอาจารย์ระดับมกุฎเต๋าปรากฏตัวขึ้นมานานหลายปีแล้ว ด้วยพลังของสระกระดูกอัคคีก็นับวันยิ่ง……”

สำหรับเรื่องของเผ่าเซียนหงสา หลัวซิวคร้านจะเอาใจใส่ เห็นเพียงเขาโบกมือขึ้นหยุดคำพูดของนักยุทธ์ชาย และเอ่ยถาม “ข้าอยากถามถึงคนผู้หนึ่ง”

“ผู้อาวุโสโปรดเอ่ย”

“ในเผ่าเซียนหงสาของพวกเจ้า มีคนที่มีนามว่าเหยียนเยว่เอ๋อร์หรือไม่?”

ในเมื่อเวลาในการฝึกตนของสระกระดูกอัคคีได้ใช้ไปหมดแล้ว จุดประสงค์ในการยกระดับดวงอัคคีชีวีไร้ลักษณ์ก็เป็นไปตามคาดแล้ว หลัวซิวย่อมไม่มีทางลืมเรื่องสำคัญในการมาที่นี่อย่างแน่นอน

เมื่อหลัวซิวพูดชื่อเหยียนเยว่เอ๋อร์ออกมา นักยุทธ์ชายที่อยู่ตรงหน้าก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ปกปิดเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว

“เผ่าของเราไม่มีคนผู้นี้ เป็นไปได้หรือไม่ที่ผู้อาวุโสจะจำชื่อผิด?”

เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของหลัวซิวก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย สีหน้าของอีกฝ่ายที่เปลี่ยนไปนั้น แน่นอนว่าหลัวซิวสังเกตเห็น รวมถึงที่อีกฝ่ายปฏิเสธทันควันว่าเผ่าเซียนหงสาไม่มีคนชื่อเหยียนเยว่เอ๋อร์ ทำให้ในใจของหลัวซิวเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีมาก ๆ ขึ้นมา

“อย่ามาเล่นลิ้นกับข้า จงบอกมา เกิดอันใดขึ้นกับเหยียนเยว่เอ๋อร์กันแน่?”

ภายใต้ความใจร้อน หลัวซิวก็ไม่พูดจาดี ๆ ด้วยอีกต่อไป ยกมือขึ้นมา จับไปที่คอเสื้อของอีกฝ่าย และยกตัวของนักยุทธ์ชายผู้สูงส่งช่วงปลายขึ้นมา

“ผู้อาวุโส… ผู้อาวุโสท่านทำอะไร? พวกเราเผ่าเซียนหงสาไม่มีคนชื่อเหยียนเยว่เอ๋อร์จริง ๆ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ