ตั้งแต่โบราณกาลมา การปรากฏของทุกซากโบราณสถานชาวเซียนล้วนจะทำให้ผู้คนฮือฮาไม่น้อย หลัวซิวจึงเชื่อมั่นในเรื่องนี้มาก ๆ
ซึ่งเป็นเฉกเช่นเดียวกับภัณฑ์เซียนอย่างขวดเซียนอัคคีหลอมจิตที่เขาได้รับจากสถานสาสน์เต๋าของนักเซียนหลอมจิต ทั้งยังได้รับการถ่ายทอดสืบสานของเซียน เบื้องล่างที่แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่ง และยิ่งมีโอกาสได้สัมผัสกับความแข็งแกร่งของพลังแห่งเซียน 15 นาที
สามารถพูดได้เลยว่าหากไม่มีโชคโอกาสที่ได้รับจากสถานปรักเซียนของแดนบรรพกาล หากไม่มีรากเซียนน้ำไฟ เขาก็ไม่มีทางฝึกตนได้เร็วเช่นนี้ หากไม่มีเข็มทิศสาส์นเต๋าละก็ ตอนนั้นเขาก็ไม่มีทางหนีการไล่ล่าของมกุฎเต๋าเทียนชู รวมไปถึงผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าจำนวนมากที่อยู่ใต้บังคับบัญชาเทียนชูพ้นแน่นอน
หลัวซิวเข้าใจดีมาก ๆ ว่าหากเขาอยากทลายพันธนาการ ก้าวเข้าสู่ระดับประมุขเต๋า โชคโอกาสทั่วไปไม่สามารถทำให้เขาทำเช่นนั้นได้ด้วยซ้ำ มีเพียงโอกาสที่คงอยู่ในซากโบราณสถานชาวเซียนถึงจะสามารถทำให้เขามีโอกาสบรรลุ
ในจักรวาลสามโลกา ณ ปัจจุบันนี้ ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเข็มทิศสาส์นเต๋าต้องเร็วที่สุดแน่นอน เมื่อกระตุ้นด้วยผลการฝึกตนในปัจจุบันของหลัวซิว มาตรแม้นว่ามกุฎเต๋าควบคุมของขลังนภาเวหาระดับภัณฑ์เซียนชิ้นหนึ่ง ก็ไล่ตามเขาได้ยากมาก
อ้างอิงจากตำแหน่งพิกัดที่ระบุบนม้วนหยก หลังจากหลัวซิวเข้าใกล้อาณาจักรดาราที่ตั้งของดาราหยุนหลง เขาก็เห็นว่าในห้วงดารามีของขลังนภาเวหาจำนวนมากกำลังเร่งเดินทางไปยังทิศทางของดาราหยุนหลง
ดาราหยุนหลงไม่มีชื่อเสียงที่โด่งดังมากเท่าไหร่นัก แต่ปัจจุบันกลับสามารถดึงดูดผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์ต่างพากันเดินทางมาได้มากมายเช่นนี้ ซึ่งมันต้องเป็นเพราะซากโบราณสถานชาวเซียนอย่างไร้ข้อสงสัยแน่นอน
หลังจากมาถึงดาราหยุนหลง หลัวซิวถึงจะทราบเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับซากโบราณสถานชาวเซียนมากขึ้น เล่ากันว่าซากโบราณสถานชาวเซียนแห่งนี้คือพระราชวังหลังหนึ่ง ซึ่งมีนามว่าวังทะยานเซียน
อดีตบนดาราหยุนหลงไม่มีวังทะยานเซียนแต่อย่างใด เมื่อไม่นานมานี้มีผู้แข็งแกร่งของสองตระกูลต่อสู้กันในเขตพื้นที่ที่รกร้างว่างเปล่าอย่างรุนแรง เข่นฆ่ากันอย่างดุเดือด ทำให้เขตพื้นที่แห่งนั้นถูกทำลายจนยับเยินปนปี้
บางทีอาจเป็นเพราะผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นต่อสู้กันจนเกิดเป็นปฏิกิริยาห่วงโซ่ จู่ ๆ แผ่นดินใหญ่ของดาราหยุนหลงก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง วังทะยานเซียนโผล่ออกมาจากผิวดิน แล้วลอยอยู่กลางนภา
ผู้ยึดกุมวังทะยานเซียนคือผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่งคนหนึ่ง เขาก็เข้าใจดีมากเช่นกันว่าตนไม่มีทางได้ยึดครองวังทะยานเซียนคนเดียวแน่นอน ทว่าผู้สูงส่งหยุนหลงคนนั้นกลับฉลาดมาก ออกคำสั่งให้คนปิดผนึกบริเวณรอบ ๆ วังทะยานเซียนเป็นเวลาแรก ขอแค่มีคนอยากไปแสวงหาโชคโอกาสในวังทะยานเซียน เช่นนั้นก็จำเป็นต้องชำระค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่ว
นอกเหนือจากนี้ ผู้สูงส่งหยุนหลงยังใช้มหาอิทธิฤทธิ์เคลื่อนย้ายคูเมืองแห่งหนึ่งมาละแวกใกล้เคียงของวังทะยานเซียนด้วย ผู้แข็งแกร่งจำนวนมากที่ถูกซากโบราณสถานชาวเซียนดึงดูดมาล้วนต้องมาพักอาศัยที่นี่ จึงทำให้เขาทำกำไรได้เยอะมากเลยทีเดียว
คูเมืองดังกล่าวมีนามว่าเมืองฉวินเซียน ซึ่งมีความหมายแฝงว่าเที่ยวเสาะหาร่องรอยเซียน
หลังจากมาถึงดาราหยุนหลง หลัวซิวก็ต้องเดินทางไปเมืองฉวินเซียนเป็นเวลาแรกอยู่แล้ว เขาเชื่อว่าจากการบังเกิดของซากโบราณสถานชาวเซียน หากพวกฉื้อหลงก็อยู่บนดาราหยุนหลง พวกเขาต้องเดินทางมาที่นี่ด้วยแน่นอน
หลัวซิวไม่ได้ไปวังทะยานเซียนแต่อย่างใด เนื่องจากสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เขาเดินทางมาดาราหยุนหลงก็คือการตามหาคน รองลงมาถึงจะเป็นเรื่องการสำรวจปรักเซียน
เมืองฉวินเซียนไม่ใหญ่เท่าไหร่นัก จากตัวสำนึกของหลัวซิว สามารถแผ่คลุมทั้งเมืองได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นหลังจากเขามาถึงที่นี่ ก็ทำการแผ่ขยายตัวสำนึกออกไปทันที ถึงแม้สถานที่ที่เป็นทำนองเดียวกันกับร้านค้า โรงเตี๊ยมจะมีค่ายกลต้องห้ามจัดวางอยู่บ้าง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับพลังตัวสำนึกระดับประมุขเต๋าของเขา ก็ถูกทะลวงอย่างง่ายดายอยู่ดี
ส่วนค่ายกลต้องห้ามที่เป็นทำนองเดียวกันกับการเตือนภัยนั้น เมื่ออาศัยลักษณะพิเศษที่ไร้รูปไร้เงาของวิถีไร้ลักษณ์ ค่ายกลเหล่านั้นก็จับไม่ได้เช่นกัน
ไม่นานนัก หลัวซิวก็ทำการตรวจสอบทั้งเมืองฉวินเซียนไปรอบหนึ่ง แต่กลับไม่พบพวกฉื้อหลง ซิงเฉินและลวี่โหลว
“นายน้อย พวกฉื้อหลงคงไม่ได้ไปวังทะยานเซียนแล้วหรอกกระมัง?”ต้วนคงพูด
ตั้งแต่วังทะยานเซียนบังเกิดขึ้น แม้นมันจะถูกผนึกไปแล้ว ทว่าขอแค่ชำระค่าใช้จ่ายก็สามารถเข้าไปได้แล้ว เล่ากันว่ามีคนจำนวนไม่น้อยได้รับสมบัติจากภายใน ฉะนั้นถึงได้ดึงดูดให้ผู้แข็งแกร่งจากสถานที่ต่าง ๆ มารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้
“มีความเป็นไปได้นี้อยู่จริง ๆ เช่นนั้นเราก็ไปดูที่วังทะยานเซียนด้วยแล้วกัน”หลัวซิวพยักหน้า จากนั้นคนกลุ่มหนึ่งก็ออกไปจากเมืองฉวินเซียน ก่อนจะบินตรงไปยังตำแหน่งทิศทางของวังทะยานเซียน
แม้นเมืองฉวินเซียนจะถูกก่อตั้งอยู่ในละแวกใกล้เคียงของวังทะยานเซียน แต่ในความเป็นจริงกลับห่างไกลจากวังทะยานเซียนมาก ๆ สาเหตุหลักเป็นเพราะพลังออร่าที่แพร่กระจายออกมาจากวังทะยานเซียนมากมายลึกซึ้งจนไม่อาจคาดเดาได้ มีเพียงถอยออกมาในระยะที่แน่นอนแล้ว ถึงจะสัมผัสพลังออร่านั้นไม่ได้
“นายน้อย!”
ในขณะที่หลัวซิวเบิ่งมองวังทะยานเซียน ความคิดหวนรำลึกถึงอดีตอยู่นั้น ก็มีเสียงที่ร้อนรนดึงขึ้นกะทันหัน ทำให้เขาฟื้นตื่นขึ้นมาจากการหวนรำลึก
หลัวซิวมองต้วนคงที่อยู่ข้างกายด้วยสายตาที่สงสัยรอบหนึ่ง เขาไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ถึงขั้นทำให้เจ้าต้วนคงนี่ร้อนรนได้เช่นนี้
มองไปยังทิศทางที่ต้วนคงชี้ไป หลัวซิวแผ่ขยายตัวสำนึกออกไป จากนั้นก็เห็นว่ามีคนจำนวนไม่น้อยรวมตัวกันในตำแหน่งที่อยู่ห่างไม่ไกลจากวังทะยานเซียน คนกลุ่มหนึ่งกำลังมุงดูเสาไม้กางเขนหนึ่งเสา และบนไม้กางเขนมีร่างมนุษย์ที่ร่างกายเต็มเปี่ยมไปด้วยเลือดแขวนติดอยู่ร่างหนึ่ง
เมื่อตัวสำนึกของหลัวซิวมองเห็นคนที่ถูกตอกติดอยู่บนไม้กางเขน ใบหน้าเขาก็เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารที่เข้มข้นอย่างควบคุมไม่ได้เช่นกัน
สัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่แผ่กระจายออกมาจากตัวนายน้อย ไม่ต้องให้หลัวซิวออกคำสั่ง ตี้ขุยก็พุ่งออกไปภายในพริบตา ช่วยคนที่ถูกตอกติดอยู่บนไม้กางเขนลงมา แล้วป้อนยารักษาตัวให้เขาหนึ่งเม็ด
“หยุด! เจ้าคือผู้ใด? เจ้าทราบหรือไม่ว่าสาเหตุที่คนดังกล่าวถูกตอกอยู่ที่นี่นั้น เป็นเพราะมันรุกรานภูเขาเทียนเผิงของเรา?”
ชายวัยกลางคนคนหนึ่งตวาดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ผลการฝึกตนของเขาคือมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อขั้นสูง
“ไอ้คนไม่รู้จักความเป็นความตาย!”
ตี้ขุยทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีหนึ่ง ง้างมือปล่อยฝ่ามือออกไป ชายวัยกลางคนแห่งภูเขาเทียนเผิงนั่นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา หากไม่ใช่เพราะตี้ขุยจงใจออมมือ จากผลการฝึกตนผู้แกร่งเลิศของเขา เพียงฝ่ามือเดียวก็สามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามดับสลายสูญสิ้นไปได้แล้ว
ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ทำให้ผู้คนที่มุงดูอยู่รอบ ๆ ตกตะลึงพรึงเพริดจริง ๆ ทว่าขอแค่เป็นคนที่รู้จักภูเขาเทียนเผิง ล้วนแต่จะทราบว่าภูเขาเทียนเผิงไม่ได้รุกรานง่าย ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...