“ทำอย่างไรดี?”
สีหน้าของต้วนคงดูตึงเครียดอย่างยิ่ง ด้านนอกมีประมุขเต๋าสี่คนกำลังโจมตีค่ายพิทักษ์เขา กำลังจ้องตาเป็นมัน การที่พวกเขาอยากเคลื่อนย้ายผู้คนในแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวออกไปจากที่นี่นั้น มันเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ต้องท้าวความก่อนว่าในบรรดาประมุขเต๋าทั้งสี่คนนั้น ประมุขเต๋าพันดาวที่เป็นหัวหน้าเป็นผู้แข็งแกร่งประมุขเต๋าช่วงปลายเชียวนะ อีกสามคนที่เหลือก็ไม่อ่อนเช่นกัน มีประมุขเต๋าช่วงกลางสองคน มีประมุขเต๋าเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ขั้นปฐมภูมิ
หากศักยภาพของเลี่ยเทียนฟื้นฟูกลับมาเป็นเหมือนเดิมโดยสิ้นเชิงแล้วค่อยยังดีหน่อย แต่ว่าเขาในวินาทีนี้มีผลการฝึกตนเป็นประมุขเต๋าขั้นปฐมภูมิเท่านั้น
จอมยุทธ์ก็เป็นมนุษย์เช่นกัน มาตรแม้นว่าฝึกถึงแดนประมุขเต๋าแล้ว แต่สันดานเดิมก็ยังเป็นมนุษย์อยู่เหมือนเคย ดังนั้นเมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่อันตรายและเต็มไปด้วยภัยพิบัติ ภายใต้สถานการณ์ที่เปี่ยมล้นไปด้วยภยันตราย ประมุขเต๋าเลี่ยเทียนจึงลังเลใจแล้ว
เขาตกลงรับใช้หลัวซิวหนึ่งหมื่นปีก็จริง แต่ถ้าเกิดให้เขาต้องสิ้นชีพเพราะเหตุนี้ มันกลับไม่ใช่สิ่งที่ประมุขเต๋าเลี่ยเทียนยินดีที่จะทำ
อย่างไรเสียเขาก็รอคอยมายาวนานมาก ๆ ถึงจะหลอมสร้างดั้งเดิมกลับคืนมาได้อย่างยากลำบาก หากไม่ทันได้ระวังดับสลายสูญสิ้นไป แล้วทั้งหมดทั้งมวลนี้จักยังมีความหมายอะไร?
ดูจากสถานการณ์ ณ ตอนนี้ วิธีการแก้ไขสภาวะตกอับที่ดีที่สุดในวินาทีนี้ก็คือให้เลี่ยเทียนออกไปยั่วยุประมุขเต๋าทั้งสี่ จากนั้นต้วนคงค่อยฉวยโอกาสเคลื่อนย้ายผู้คนในแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวออกไป
แต่ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับประมุขเต๋าสี่คนพร้อมกัน ในบรรดาทั้งสี่คนยิ่งมีประมุขเต๋าช่วงปลายคนหนึ่งด้วย มันมีความเสี่ยงที่จะสามารถดับสลายสูญสิ้นได้อยู่
ต้วนคงมองเลี่ยเทียนรอบหนึ่ง เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่ดูลังเลใจของเลี่ยเทียน เขาก็รู้แล้วว่าในใจเลี่ยเทียนคิดอย่างไร น่าเสียดายที่ผลการฝึกตนของเขาเป็นเพียงประมุขเต๋าขั้นปฐมภูมิ หากพุ่งออกไปก็สร้างประโยชน์อะไรไม่ได้ ต้านทานพลังโจมตีจากประมุขเต๋าทั้งสี่ไม่ได้ด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นว่าค่ายพิทักษ์เขาใกล้จะถูกทลายแล้ว ต้วนคงก็กัดฟันแน่น ครั้งก่อนอาณากระบี่หวูจี๋ถูกล้มล้าง เขาเลือกที่จะหลบหนี แต่ครั้งนี้เขาไม่อยากหลบหนีอีกแล้ว
จอมยุทธ์อย่างเรา ฝึกยุทธ์อย่างเอาเป็นเอาตาย ยกระดับแดนผลการฝึกตนไปเพื่ออะไรกัน?
สำหรับต้วนคงแล้ว เมื่อก่อนเขารู้สึกว่าตัวเองฝึกยุทธ์ก็เพื่อทำให้ตัวเองแข็งแกร่ง ทว่ากระทั่งต่อมา ต้วนคงถึงจะเข้าใจอย่างแท้จริงว่าแค่อาศัยการฝึกยุทธ์อย่างเดียว มันไม่สามารถบรรลุเป็นผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงได้
จุดที่ทำให้ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งแข็งแกร่งอย่างแท้จริงนั้น ไม่ใช่ผลการฝึกตนของเขา ไม่ใช่ศักยภาพของเขา แต่เป็นหัวใจของเขา
หัวใจแห่งผู้แข็งแกร่งนั้นไม่เกรงกลัว ไม่หลบหนี เพราะผู้กล้าไม่หวาดหวั่นในเรื่องใด มีเพียงผู้อ่อนแอเท่านั้นถึงจะหลบหนี!
บางทีอาจต้องตาย แต่ต่อให้ต้องตาย ก็ต้องตายอย่างเกรียงไกร!
วินาทีนี้ ต้วนคงรู้สึกว่าเหมือนตัวธรรมของตัวเองได้รับการยกระดับ เขารู้สึกว่าจุดตีบตันที่พันธนาการตัวเองมายาวนานก็เริ่มคลี่คลายแล้ว ตอนนี้หากมอบทรัพยากรการฝึกตนที่เพียงพอให้แก่เขา เขาเชื่อว่าขอแค่ตัวเองปิดขังอีกระยะหนึ่ง ต้องสามารถบรรลุถึงแดนประมุขเต๋าช่วงกลางได้แน่นอน
แต่ทว่าเขาคงไม่มีโอกาสได้ทำเช่นนั้นแล้ว จากการที่มีเสียงตู้มยังสะเทือนเลื่อนลั่นขึ้น ค่ายพิทักษ์เขาก็ถูกโจมตีจนแตกสลาย เงาร่างของประมุขเต๋าทั้งสี่คนปรากฏกลางนภา พลังออร่าที่มากมายมหาศาลได้ปกคลุมทั่วทุกมุมของแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัว
ในขณะที่ต้วนคงเตรียมพร้อมจะทุ่มสุดชีวิตเพื่อต้านทานประมุขเต๋าทั้งสี่อยู่นั้น ตำหนักหลังหนึ่งที่อยู่ข้างวังซิวหลัวก็ระเบิดแตกกะทันหัน มีลำแสงสีขาวที่งดงามตระการดวงหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นฟ้า จากนั้นก็มีเงาร่างของสตรีที่อยู่ในชุดกระโปรงขาวคนหนึ่งปรากฏกลางนภา
ทั้งร่างกายของนางล้วนถูกปกคลุมอยู่ในแสงขาว เส้นผมที่ยาวสลวยสยายออก ศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ดั่งเทพธิดา ออร่าพลังเต๋าที่ลึกลับและแข็งแกร่งตลบฟุ้งออกมา ทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนสามารถสัมผัสได้ถึงพลังแห่งชีวิตอันคึกคักมีชีวิตชีวาที่อัดแน่นไปทั่วฟ้าดิน
“เฮียใหญ่ข้าเป็นผู้บุกเบิกแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัว พวกมึงบังอาจโจมตีเข้ามาที่นี่ ลงนรกให้หมดซะ!”
เสียงที่เยือกเย็นของยู่เอ๋อร์ดังขึ้น หลังจากแดนผลการฝึกตนบรรลุถึงแดนที่แน่นอน พลังออร่าบนตัวนางก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสังเกตเห็นได้ชัด ทำให้ผู้คนยากที่จะนำนางที่ศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ในวินาทีนี้ โยงเข้ากับสาวน้อยขี้เล่นพิเรนทร์ที่ไม่รู้จักโตในอดีต
เห็นเพียงยู่เอ๋อร์ไม่ได้เรียกของขลังภัณฑ์เต๋าใด ๆ ออกมาแต่อย่างใด นางแค่โบกมือครั้งหนึ่ง พลังแห่งชีวิตที่แข็งแกร่งก็กลายเป็นมือใหญ่ที่ราวกับหลอมสร้างมาจากหยก ทำการปกคลุมประมุขเต๋าทั้งสี่คนไว้ใต้ฝ่ามือ
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร……นางเป็นมกุฎเต๋าหรือ? ……”
ประมุขเต๋าพันดาวตกตะลึงมากจนหน้าถอดสี แค่พลังกดอัดที่ฝ่ายตรงข้ามลงมือโจมตี ก็ทำให้จิตใจเขารู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงแล้ว ซึ่งในอดีตเขาจะเกิดความรู้สึกประเภทนี้ก็ต่อเมื่อเผชิญหน้ากับมกุฎเต๋า
เนื่องจากพรสวรรค์อันน่ากลัวที่หลัวซิวแสดงออกมา ทำให้มกุฎเต๋าทั้งสองถึงขั้นไม่สนใจภาพลักษณ์ก็ต้องร่วมมือกันสังหารเขาให้ได้ แต่หารู้ไม่ว่าความเร็วในการเจริญเติบโตของยู่เอ๋อร์น่ากลัวกว่าหลัวซิวไม่รู้ตั้งกี่เท่า นางในวินาทีนี้อยู่ในแดนประมุขเต๋าช่วงปลายแล้ว ศักยภาพที่แท้จริงไม่ด้อยกว่ามกุฎเต๋าเลยแม้แต่น้อย!
สามารถพูดได้อย่างได้ลังเลใจเลยว่า หากหลัวซิวไม่มีดาบโลหิตหักเซียน แม้แต่ศักยภาพของหลัวซิวก็ด้อยกว่ายู่เอ๋อร์ในวินาทีนี้เล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...