สำหรับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของยู่เอ๋อร์ ไม่ว่าจะเป็นมกุฎเต๋าหวูซินหรือมกุฎเต๋าสังสารวัฏต่างก็คาดไม่ถึงเลย แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกช็อกมากกว่านั้นคือ น้องสาวคนนี้ของหลัวซิวก็มีศักยภาพระดับมกุฎเต๋าอย่างนั้นหรือ
“ยู่เอ๋อร์ ไอ้หมอนั่นที่อยู่ฝั่งนั้นฝากให้เจ้าจัดการด้วยล่ะ”
หลัวซิวตบไหล่ยู่เอ๋อร์ แล้วใช้นิ้วชี้ไปทางมกุฎเต๋าหวูซิน
ในบรรดามกุฎเต๋าทั้งสองคนนี้ มกุฎเต๋าสังสารวัฏเป็นผู้ที่อันตรายที่สุดอย่างไร้ข้อสงสัยเลย หลัวซิวจึงไม่มีทางให้ยู่เอ๋อร์ไปเผชิญหน้ากับเขาอยู่แล้ว
“ข้าจักปฏิบัติตามคำสั่งของเฮียใหญ่เจ้าค่ะ”ยู่เอ๋อร์พยักหน้า จากนั้นเงาร่างนางก็กระพริบครั้งหนึ่ง แล้วปรากฏตรงหน้ามกุฎเต๋าหวูซิน ทำให้เขาไม่สามารถร่วมมือกับมกุฎเต๋าหวูซินเพื่อจัดการหลัวซิว
“ดูท่าเท้าข้างหนึ่งของเจ้าก็ก้าวเข้าสู่แดนเซียนแล้วนี่ บัดนี้เหลือเพียงเจ้าและข้าแล้ว เช่นนั้นข้าก็ขอลิ้มลองศักยภาพของกึ่งเซียนหน่อยก็แล้วกัน”
หลัวซิวพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นประโยคหนึ่ง จากนั้นก็ฟาดฟันดาบโลหิตหักเซียนที่อยู่ในมือออกไป
เตี๊ยงง!
เสียงเหล็กกระทบการดังก้องอยู่ในห้วงดารา คลื่นพลังที่สามารถมองเห็นได้ด้วยเนื้อตาเปล่าแพร่กระจายออกไปในห้วงดาราที่มืดมน เหล่าดารารกร้างว่างเปล่าที่อยู่ห่างไกลออกไปล้วนได้รับผลกระทบ ระเบิดกลายเป็นฝุ่นผงภายในพริบตา
กงล้อวัฏจักรธรรมสั่นเทิ้มจนเสียงดังหึ่ง ๆ ท้ายที่สุดแล้วผลการฝึกตนของมกุฎเต๋าสังสารวัฏก็ไม่ได้บรรลุถึงแดนเซียนอย่างแท้จริง นับได้แค่กึ่งเซียน อีกทั้งต่อให้เขาบรรลุเป็นเซียนแล้ว การที่อยากให้กงล้อวัฏจักรธรรมบรรลุเป็นภัณฑ์เซียน ก็จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบระดับเซียนจำนวนมากมากลั่นใหม่อีกครั้งเช่นกัน
ฉะนั้นระดับของกงล้อวัฏจักรธรรมจึงไม่สามารถเทียบเคียงกับดาบโลหิตหักเซียนได้เลยด้วยซ้ำ หลังจากประสานงากันอย่างดุเดือดครั้งหนึ่ง สีหน้าของมกุฎเต๋าสังสารวัฏก็เปลี่ยนไป เห็นเพียงด้านบนของกงล้อวัฏจักรธรรมถูกดาบโลหิตฟันจนเกิดเป็นรอยร้าวหนึ่งจุด
“ให้ตายเถอะ เหตุใดศักยภาพของมันจึงแข็งแกร่งเช่นนี้?”
หลังจากก้าวเข้าสู่แดนกึ่งเซียนสำเร็จ เดิมทีสภาพจิตใจของมกุฎเต๋าสังสารวัฏนั้นดีเยี่ยมมาก ๆ ทว่าสภาพจิตใจของเขาในวินาทีนี้กลับย่ำแย่ถึงขีดสุด
เมื่อเปรียบเทียบกับครั้นเมื่ออยู่ในวังทะยานเซียน เขาสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยว่าศักยภาพของหลัวซิวมีการก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด พลานุภาพของดาบโลหิตหักเซียนก็ทรงพลังมากกว่าเดิม
ซึ่งนี่ก็ไม่ได้หมายความว่ามกุฎเต๋าสังสารวัฏไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลัวซิว แต่ทว่าหากเขาต้องการสยบหลัวซิวละก็ เกรงว่าตัวเองก็ต้องแลกกับราคาที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน ยิ่งกว่านั้นคือตนมีโอกาสบาดเจ็บสาหัส จนส่งผลกระทบต่อเส้นทางการบรรลุเป็นเซียน
ผลลัพธ์เช่นนี้ย่อมไม่ใช่สิ่งที่มกุฎเต๋าสังสารวัฏสามารถยอมรับได้อยู่แล้ว สำหรับเขาแล้ว ไม่มีสิ่งใดที่สำคัญไปกว่าการที่ตนได้บรรลุเป็นเซียน
เมื่อคิดเช่นนี้ได้ มกุฎเต๋าสังสารวัฏก็เกิดความคิดที่จะถดถอย แม้นศักยภาพของหลัวซิวจะเพิ่มขึ้นเร็วมากเพียงใด ก็ยังห่างจากระดับเซียนอีกไกลแสนไกลเลย แต่ตนกลับเหลือเพียงครึ่งก้าวสุดท้าย ขอแค่สามารถก้าวข้ามผ่านครึ่งก้าวสุดท้ายไปได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ อย่าว่าแต่หลัวซิวกระจอก ๆ คนหนึ่งเลย แม้นมกุฎเต๋าประมุขเต๋าทั้งปวงในจักรวาลสามโลกาจักรวมเข้าด้วยกัน ก็ไม่มีค่าอะไรเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
ตัวสำนึกของมกุฎเต๋าสังสารวัฏได้แผ่สำรวจสนามรบอีกฝั่งรอบหนึ่ง พบว่ามกุฎเต๋าหวูซินผูกติดอยู่กับหลัวหานยู่โดยสมบูรณ์ นึกไม่ถึงเลยว่าศักยภาพของน้องสาวคนนี้ของหลัวซิว จะสามารถเทียบเคียงกับมกุฎเต๋าขั้นสุดยอดอย่างมกุฎเต๋าหวูซินได้อย่างนั้นหรือ!
“ยึดกุมดาบโลหิตหักเซียน นายจ้าวซิวหลัวไม่ธรรมดาจริง ๆ ข้าเชื่อว่าอนาคตเราจะได้พบกันอีกแน่นอน”
มกุฎเต๋าสังสารวัฏไม่ได้ลงมือโจมตีต่อ เห็นเพียงเขาก้าวเท้าออกไปก้าวหนึ่ง ร่างกายหลอมรวมเข้ากับกงล้อวัฏจักรธรรม ก่อนจะผันเป็นรุ้งยาวดวงหนึ่งภายในพริบตา แล้วหายไปจากห้วงดาราที่อยู่ห่างไกลออกไป
หลัวซิวรู้อยู่ว่าสาเหตุที่มกุฎเต๋าสังสารวัฏถอยกลับนั้น ไม่ได้เป็นเพราะเกรงกลัวตนเอง ทว่าสำหรับมกุฎเต๋าสังสารวัฏ การบรรลุเป็นเซียนถึงจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ทันทีที่มกุฎเต๋าสังสารวัฏบรรลุเป็นเซียน หากตนไม่มีอุบายอะไรที่สามารถต่อกรกับเขาได้ ผลที่ตามมาต้องหนักหนาจนไม่อาจคาดเดาได้แน่นอน
เมื่อเห็นว่ามกุฎเต๋าสังสารวัฏถอยกลับไปแล้ว มกุฎเต๋าหวูซินย่อมไม่จำเป็นต้องรบติดพันต่อ ไม่รอให้หลัวซิวเร่งเดินทางมาร่วมมือกับยู่เอ๋อร์ เขาก็กระตุ้นหอคอยเสวียนเหลืองบินหนีไปแล้ว
หากอาศัยความเร็วในการเคลื่อนที่ของเข็มทิศสาส์นเต๋า สามารถไล่ตามมกุฎเต๋าหวูซินทันก็จริง แต่หลัวซิวก็เข้าใจเช่นกันว่าหากมกุฎเต๋าขั้นสุดยอดคนหนึ่งจักหลบหนีละก็ แม้นเขาและยู่เอ๋อร์ร่วมมือกันก็รั้งฝ่ายตรงข้ามไว้ไม่ได้แน่นอน
แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นผู้ชนะในศึกครั้งนี้ มกุฎเต๋าทั้งสองคนจูงมือมาพร้อมกัน แต่กลับถูกโจมตีจนต้องถดถอย ในช่วงเวลาช่วงหนึ่งในอนาคต ผู้แข็งแกร่งที่นับไม่ถ้วนในจักรวาลสามโลกา ล้วนต้องจับจ้องและตะลึงต่อศักยภาพอำนาจของแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวแน่นอน
……
ถึงมกุฎเต๋าทั้งสองจะไม่แพร่งพรายเรื่องราวนี้ออกไป แต่ว่าศิษย์ในแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวมีเยอะมาก ข่าวคราวจึงแพร่งพรายออกไปในโลกร้างอย่างรวดเร็ว
ถัดจากนั้นจากโลกร้างเป็นจุดศูนย์กลาง ข่าวคราวดังกล่าวก็ค่อย ๆ แพร่งพรายไปยังกองกำลังใหญ่อื่น ๆ ในจักรวาลสามโลกา
ภายในเวลาชั่วขณะ ทั้งจักรวาลก็สั่นคลอน!
ต้องท้าวความก่อนว่านั่นคือมกุฎเต๋าสองคนเลยนะ อีกทั้งยังเป็นมกุฎเต๋าสองคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดามกุฎเต๋าทั้งหลายด้วย แดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวถึงขั้นสามารถโจมตีพวกเขาจนถดถอย นี่จึงทำให้เหล่ามกุฎเต๋าคนอื่น ๆ ที่ทราบข่าวคราวต่างต้องประเมินศักยภาพและภูมิฐานของแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวใหม่อีกครั้งอย่างอดไม่ได้
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา คนจำนวนมากล้วนคิดว่าหลัวซิวยึดครองโลกร้างได้เพราะอาศัยช่วงจังหวะที่มกุฎเต๋าทั้งแปดติดอยู่ในวังทะยานเซียน ทันทีที่มกุฎเต๋ากลับมา แดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวต้องถูกล้มล้างแน่นอน ซึ่งผู้คนในจักรวาลล้วนคิดเช่นนี้
อย่างไรก็ตามผลลัพธ์กลับทำให้ผู้ตะลึงงันหนักมาก ทำให้ผู้คนที่คิดว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวไม่มีภูมิฐานอะไรล้วนหุบปากไป
ในขณะเดียวกัน นายจ้าวซิวหลัวก็แทบจะกลายเป็นตำนานของจักรวาลสามโลกา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...