มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3024

สำหรับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของยู่เอ๋อร์ ไม่ว่าจะเป็นมกุฎเต๋าหวูซินหรือมกุฎเต๋าสังสารวัฏต่างก็คาดไม่ถึงเลย แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกช็อกมากกว่านั้นคือ น้องสาวคนนี้ของหลัวซิวก็มีศักยภาพระดับมกุฎเต๋าอย่างนั้นหรือ

“ยู่เอ๋อร์ ไอ้หมอนั่นที่อยู่ฝั่งนั้นฝากให้เจ้าจัดการด้วยล่ะ”

หลัวซิวตบไหล่ยู่เอ๋อร์ แล้วใช้นิ้วชี้ไปทางมกุฎเต๋าหวูซิน

ในบรรดามกุฎเต๋าทั้งสองคนนี้ มกุฎเต๋าสังสารวัฏเป็นผู้ที่อันตรายที่สุดอย่างไร้ข้อสงสัยเลย หลัวซิวจึงไม่มีทางให้ยู่เอ๋อร์ไปเผชิญหน้ากับเขาอยู่แล้ว

“ข้าจักปฏิบัติตามคำสั่งของเฮียใหญ่เจ้าค่ะ”ยู่เอ๋อร์พยักหน้า จากนั้นเงาร่างนางก็กระพริบครั้งหนึ่ง แล้วปรากฏตรงหน้ามกุฎเต๋าหวูซิน ทำให้เขาไม่สามารถร่วมมือกับมกุฎเต๋าหวูซินเพื่อจัดการหลัวซิว

“ดูท่าเท้าข้างหนึ่งของเจ้าก็ก้าวเข้าสู่แดนเซียนแล้วนี่ บัดนี้เหลือเพียงเจ้าและข้าแล้ว เช่นนั้นข้าก็ขอลิ้มลองศักยภาพของกึ่งเซียนหน่อยก็แล้วกัน”

หลัวซิวพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นประโยคหนึ่ง จากนั้นก็ฟาดฟันดาบโลหิตหักเซียนที่อยู่ในมือออกไป

เตี๊ยงง!

เสียงเหล็กกระทบการดังก้องอยู่ในห้วงดารา คลื่นพลังที่สามารถมองเห็นได้ด้วยเนื้อตาเปล่าแพร่กระจายออกไปในห้วงดาราที่มืดมน เหล่าดารารกร้างว่างเปล่าที่อยู่ห่างไกลออกไปล้วนได้รับผลกระทบ ระเบิดกลายเป็นฝุ่นผงภายในพริบตา

กงล้อวัฏจักรธรรมสั่นเทิ้มจนเสียงดังหึ่ง ๆ ท้ายที่สุดแล้วผลการฝึกตนของมกุฎเต๋าสังสารวัฏก็ไม่ได้บรรลุถึงแดนเซียนอย่างแท้จริง นับได้แค่กึ่งเซียน อีกทั้งต่อให้เขาบรรลุเป็นเซียนแล้ว การที่อยากให้กงล้อวัฏจักรธรรมบรรลุเป็นภัณฑ์เซียน ก็จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบระดับเซียนจำนวนมากมากลั่นใหม่อีกครั้งเช่นกัน

ฉะนั้นระดับของกงล้อวัฏจักรธรรมจึงไม่สามารถเทียบเคียงกับดาบโลหิตหักเซียนได้เลยด้วยซ้ำ หลังจากประสานงากันอย่างดุเดือดครั้งหนึ่ง สีหน้าของมกุฎเต๋าสังสารวัฏก็เปลี่ยนไป เห็นเพียงด้านบนของกงล้อวัฏจักรธรรมถูกดาบโลหิตฟันจนเกิดเป็นรอยร้าวหนึ่งจุด

“ให้ตายเถอะ เหตุใดศักยภาพของมันจึงแข็งแกร่งเช่นนี้?”

หลังจากก้าวเข้าสู่แดนกึ่งเซียนสำเร็จ เดิมทีสภาพจิตใจของมกุฎเต๋าสังสารวัฏนั้นดีเยี่ยมมาก ๆ ทว่าสภาพจิตใจของเขาในวินาทีนี้กลับย่ำแย่ถึงขีดสุด

เมื่อเปรียบเทียบกับครั้นเมื่ออยู่ในวังทะยานเซียน เขาสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยว่าศักยภาพของหลัวซิวมีการก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด พลานุภาพของดาบโลหิตหักเซียนก็ทรงพลังมากกว่าเดิม

ซึ่งนี่ก็ไม่ได้หมายความว่ามกุฎเต๋าสังสารวัฏไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลัวซิว แต่ทว่าหากเขาต้องการสยบหลัวซิวละก็ เกรงว่าตัวเองก็ต้องแลกกับราคาที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน ยิ่งกว่านั้นคือตนมีโอกาสบาดเจ็บสาหัส จนส่งผลกระทบต่อเส้นทางการบรรลุเป็นเซียน

ผลลัพธ์เช่นนี้ย่อมไม่ใช่สิ่งที่มกุฎเต๋าสังสารวัฏสามารถยอมรับได้อยู่แล้ว สำหรับเขาแล้ว ไม่มีสิ่งใดที่สำคัญไปกว่าการที่ตนได้บรรลุเป็นเซียน

เมื่อคิดเช่นนี้ได้ มกุฎเต๋าสังสารวัฏก็เกิดความคิดที่จะถดถอย แม้นศักยภาพของหลัวซิวจะเพิ่มขึ้นเร็วมากเพียงใด ก็ยังห่างจากระดับเซียนอีกไกลแสนไกลเลย แต่ตนกลับเหลือเพียงครึ่งก้าวสุดท้าย ขอแค่สามารถก้าวข้ามผ่านครึ่งก้าวสุดท้ายไปได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ อย่าว่าแต่หลัวซิวกระจอก ๆ คนหนึ่งเลย แม้นมกุฎเต๋าประมุขเต๋าทั้งปวงในจักรวาลสามโลกาจักรวมเข้าด้วยกัน ก็ไม่มีค่าอะไรเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา

ตัวสำนึกของมกุฎเต๋าสังสารวัฏได้แผ่สำรวจสนามรบอีกฝั่งรอบหนึ่ง พบว่ามกุฎเต๋าหวูซินผูกติดอยู่กับหลัวหานยู่โดยสมบูรณ์ นึกไม่ถึงเลยว่าศักยภาพของน้องสาวคนนี้ของหลัวซิว จะสามารถเทียบเคียงกับมกุฎเต๋าขั้นสุดยอดอย่างมกุฎเต๋าหวูซินได้อย่างนั้นหรือ!

“ยึดกุมดาบโลหิตหักเซียน นายจ้าวซิวหลัวไม่ธรรมดาจริง ๆ ข้าเชื่อว่าอนาคตเราจะได้พบกันอีกแน่นอน”

มกุฎเต๋าสังสารวัฏไม่ได้ลงมือโจมตีต่อ เห็นเพียงเขาก้าวเท้าออกไปก้าวหนึ่ง ร่างกายหลอมรวมเข้ากับกงล้อวัฏจักรธรรม ก่อนจะผันเป็นรุ้งยาวดวงหนึ่งภายในพริบตา แล้วหายไปจากห้วงดาราที่อยู่ห่างไกลออกไป

หลัวซิวรู้อยู่ว่าสาเหตุที่มกุฎเต๋าสังสารวัฏถอยกลับนั้น ไม่ได้เป็นเพราะเกรงกลัวตนเอง ทว่าสำหรับมกุฎเต๋าสังสารวัฏ การบรรลุเป็นเซียนถึงจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ทันทีที่มกุฎเต๋าสังสารวัฏบรรลุเป็นเซียน หากตนไม่มีอุบายอะไรที่สามารถต่อกรกับเขาได้ ผลที่ตามมาต้องหนักหนาจนไม่อาจคาดเดาได้แน่นอน

เมื่อเห็นว่ามกุฎเต๋าสังสารวัฏถอยกลับไปแล้ว มกุฎเต๋าหวูซินย่อมไม่จำเป็นต้องรบติดพันต่อ ไม่รอให้หลัวซิวเร่งเดินทางมาร่วมมือกับยู่เอ๋อร์ เขาก็กระตุ้นหอคอยเสวียนเหลืองบินหนีไปแล้ว

หากอาศัยความเร็วในการเคลื่อนที่ของเข็มทิศสาส์นเต๋า สามารถไล่ตามมกุฎเต๋าหวูซินทันก็จริง แต่หลัวซิวก็เข้าใจเช่นกันว่าหากมกุฎเต๋าขั้นสุดยอดคนหนึ่งจักหลบหนีละก็ แม้นเขาและยู่เอ๋อร์ร่วมมือกันก็รั้งฝ่ายตรงข้ามไว้ไม่ได้แน่นอน

แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นผู้ชนะในศึกครั้งนี้ มกุฎเต๋าทั้งสองคนจูงมือมาพร้อมกัน แต่กลับถูกโจมตีจนต้องถดถอย ในช่วงเวลาช่วงหนึ่งในอนาคต ผู้แข็งแกร่งที่นับไม่ถ้วนในจักรวาลสามโลกา ล้วนต้องจับจ้องและตะลึงต่อศักยภาพอำนาจของแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวแน่นอน

……

ถึงมกุฎเต๋าทั้งสองจะไม่แพร่งพรายเรื่องราวนี้ออกไป แต่ว่าศิษย์ในแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวมีเยอะมาก ข่าวคราวจึงแพร่งพรายออกไปในโลกร้างอย่างรวดเร็ว

ถัดจากนั้นจากโลกร้างเป็นจุดศูนย์กลาง ข่าวคราวดังกล่าวก็ค่อย ๆ แพร่งพรายไปยังกองกำลังใหญ่อื่น ๆ ในจักรวาลสามโลกา

ภายในเวลาชั่วขณะ ทั้งจักรวาลก็สั่นคลอน!

ต้องท้าวความก่อนว่านั่นคือมกุฎเต๋าสองคนเลยนะ อีกทั้งยังเป็นมกุฎเต๋าสองคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดามกุฎเต๋าทั้งหลายด้วย แดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวถึงขั้นสามารถโจมตีพวกเขาจนถดถอย นี่จึงทำให้เหล่ามกุฎเต๋าคนอื่น ๆ ที่ทราบข่าวคราวต่างต้องประเมินศักยภาพและภูมิฐานของแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวใหม่อีกครั้งอย่างอดไม่ได้

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา คนจำนวนมากล้วนคิดว่าหลัวซิวยึดครองโลกร้างได้เพราะอาศัยช่วงจังหวะที่มกุฎเต๋าทั้งแปดติดอยู่ในวังทะยานเซียน ทันทีที่มกุฎเต๋ากลับมา แดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวต้องถูกล้มล้างแน่นอน ซึ่งผู้คนในจักรวาลล้วนคิดเช่นนี้

อย่างไรก็ตามผลลัพธ์กลับทำให้ผู้ตะลึงงันหนักมาก ทำให้ผู้คนที่คิดว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวไม่มีภูมิฐานอะไรล้วนหุบปากไป

ในขณะเดียวกัน นายจ้าวซิวหลัวก็แทบจะกลายเป็นตำนานของจักรวาลสามโลกา!

เมื่อได้ยินคำถามดังกล่าว หลัวซิวก็หัวเราะอย่างเยือกเย็นในใจ ดูท่ามกุฎเต๋าหวูจี๋ยังไม่ค่อยตายใจสินะ โลกาอนัตตาอู๋จี๋นั่นเป็นฐานที่มั่นของเขา ต่อให้หลัวซิวจักมั่นใจในศักยภาพของตัวเอง แต่ก็ไม่กล้าย่างกรายเข้าไปง่าย ๆ แน่นอน

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลัวซิวเป็นคนที่รู้ว่าอะไรควรไม่ควรดีมาก เขาไม่ได้โอหังถือดีอย่างโงหัวไม่ขึ้น เพียงเพราะศักยภาพของตัวเองยกระดับเร็วเกินไป ต้องท้าวความก่อนว่าเมื่อปีนั้น ครั้นมกุฎเต๋าสังสารวัฏวางแผนขัดขวางมกุฎเต๋าหวูจี๋ก็อยู่นอกโลกอนัตตาอู๋จี๋เช่นกัน แต่ไม่ใช่บนพสุธาห้วงดาราของโลกอนัตตาอู๋จี๋

“ขอบพระคุณสำหรับความห่วงใยของศิษย์พี่และอาจารย์ แต่ทว่าศิษย์น้องข้ายังมีธุระอีกมากมายที่ต้องจัดการ อนาคตหากมีโอกาสละก็ จักกลับไปเยี่ยมเยียนเหล่าศิษย์พี่และอาจารย์แน่นอนขอรับ”หลัวซิวยิ้มพลางตอบกลับ

แม้นจากศักยภาพในปัจจุบันของเขาจักไม่เกรงกลัวมกุฎเต๋าหวูจี๋แล้ว แต่จิตใจหลัวซิวก็ยังไม่อยากแตกหักกับฝ่ายตรงข้ามอย่างแท้จริง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ถึงมกุฎเต๋าหวูจี๋จะมองเขาเป็นหมากตัวหนึ่ง แต่ถ้าเกิดไม่มีมกุฎเต๋าหวูจี๋ ก็คงไม่มีเขาในวันนี้

แม้นจะมองในมุมมองที่เข้าข้างมกุฎเต๋าหวูจี๋สุด ๆ มกุฎเต๋าหวูจี๋ก็มีบุญคุณที่ถ่ายทอดศิลปะวิชาให้เขาไม่มากก็น้อย เป็นอาจารย์ผู้มีพระคุณของเขา แม้นทั้งสองจะต้องแตกหักกัน ก็ไม่สามารถลบล้างความสัมพันธ์อาจารย์และลูกศิษย์ออกไปได้

ภายในวังซิวหลัว หลัวซิวและหยุนอี้พูดคุยกันต่ออีกครู่หนึ่ง หยุนอี้ก็พยายามโน้มน้าวแบบอ้อม ๆ เพื่อให้หลัวซิวกลับไปเที่ยวหนึ่ง แต่ก็ถูกหลัวซิวปฏิเสธด้วยถ้อยคำสุภาพอยู่ดี

หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมง หยุนอี้ก็ออกจากวังซิวหลัว ควบคุมภัณฑ์เต๋าหกเหินมาถึงห้วงดารานอกโลกร้าง

เขาหันกลับไปมองโลกร้างรอบหนึ่ง ราวกับสายตาสามารถมองทะลุหมอกหนาทึบที่ไร้ขอบเขต มองเห็นวังซิวหลัวที่อยู่ห่างกันไกลแสนไกล

“ศิษย์พี่ใหญ่พูดถูก เขามองทะลุปรุโปร่งแล้ว น่าขำที่ข้ายังมองไม่ทะลุปรุโปร่ง”จู่ ๆ หยุนอี้ก็ยิ้มเยาะตนเอง

ในฐานะที่เป็นผู้ที่มีความสามารถในการตระหนักรู้อันดับหนึ่งในบรรดาศิษย์เต็มตัวทั้งหลายของมกุฎเต๋าหวูจี๋ หยุนอี้ย่อมไม่ใช่คนโง่อยู่แล้ว เขาติดตามมกุฎเต๋าหวูจี๋มายาวนานเช่นนี้ แล้วเขาจะสัมผัสไม่ได้ได้อย่างไรว่าอาจารย์แค่มองศิษย์อย่างพวกเขาเป็นหมากบนกระดาน?

อย่างไรก็ตามพวกเขาทุกคนล้วนถูกมกุฎเต๋าหวูจี๋รับเป็นศิษย์ในยามที่พวกเขาอยู่ในช่วงที่ตกต่ำที่สุดของชีวิต มกุฎเต๋าหวูจี๋เหมือนผู้มีพระคุณที่ชุบชีวิตพวกเขากลับคืนมาใหม่ ต่อให้ทราบความจริงเรื่องนี้ แต่ในใจก็ไม่ยอมปักใจเชื่ออยู่ดี

หยุนอี้รู้สึกมาโดยตลอดเลยว่าต่อให้ถูกอาจารย์มองเป็นหมากตัวหนึ่ง แม้นวันหนึ่งตัวเองจะถูกหลอกใช้ ถูกทอดทิ้งแล้ว เขาก็ไม่โกรธไม่แค้นอะไร ถือซะว่าเป็นการตอบแทนพระคุณที่อาจารย์มีต่อตัวเอง

แต่การปรากฏตัวของหลัวซิวกลับค่อย ๆ ทำให้ความคิดบางอย่างของเขาและฉินจ้านเปลี่ยนแปลงไป บุญคุณที่อาจารย์ชุบชีวิตตัวเองกลับคืนมาใหม่เป็นบุญคุณที่ยิ่งใหญ่ก็จริง แต่วิธีการในการตอบแทนบุญคุณ จำเป็นต้องควบคุมชะตาชีวิตของคนอื่นเหมือนควบคุมหมากบนกระดานจริง ๆ หรือ?

ถ้าเกิดเป็นอดีต หยุนอี้ไม่เคยคิดมากขนาดนี้มาก่อน ทว่าวิธีการทำของหลัวซิวกลับบอกกับเขาว่ายังมีวิธีการอื่น ๆ ที่สามารถตอบแทนบุญคุณได้อยู่

เมื่อลองถามใจตัวเองดู เขาก็ไม่อยากเป็นหมากที่ไม่สามารถควบคุมชะตาชีวิตของตัวเองได้เช่นกัน แต่ทว่าศักยภาพของเขายังไม่สามารถหลุดพ้นจากการควบคุมของอาจารย์เหมือนหลัวซิว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ