มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3025

ศึกการต่อสู้ในโลกร้างได้สร้างชื่อเสียงที่ลือนามให้แก่หลัวซิว นายจ้าวซิวหลัวถูกเรียกขานว่าเป็นตำนานแห่งยุคสมัยหนึ่ง จำนวนคนที่นับไม่ถ้วนในโลกเคารพศรัทธาเขาดั่งเทพเจ้า

อย่างไรก็ตามเมื่อมีคนมีความสุข ก็ย่อมมีคนกังวลอยู่แล้ว โดยเฉพาะมกุฎเต๋าบรรพล้นแห่งโลกล้นที่ยิ่งรู้สึกกระวนกระวายใจ

ซึ่งระยะเวลาตั้งแต่มกุฎเต๋าบรรพฮวงถูกสังหาร แล้วก็อาณากระบี่หวูจี๋ก็ถูกล้มล้างได้ผ่านพ้นมายาวนานมาแล้ว

กระทั่งการอุบัติขึ้นมาของวังทะยานเซียน มกุฎเต๋าบรรพล้นถึงจะเข้าใจขึ้นมากะทันว่าตนถูกมกุฎเต๋าสังสารวัฏหลอก

เมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน บรรพจารย์ล้นต้านทานการโน้มน้าวล่อลวงของมกุฎเต๋าสังสารวัฏไม่ไหว บรรลุข้อตกลงร่วมกับมกุฎเต๋าสังสารวัฏ ซึ่งเนื้อหาของข้อตกลงก็คือ บรรพจารย์ล้นต้องช่วยเขากำจัดบรรพโบราณคนอื่น ๆ อย่างลับ ๆ หลังจากภารกิจนี้สำเร็จ มกุฎเต๋าสังสารวัฏสัญญาว่าจะช่วยให้บรรพจารย์ล้นหลุดพ้นจากการหลอมรวมเข้ากับอัญดั้งเดิม แล้วได้รับอิสรภาพ

ผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเต๋าไม่มีทางให้คำปฏิญาณง่าย ๆ และทันทีที่ให้คำปฏิญาณแล้วคืนคำ ก็เท่ากับทรยศตัวธรรมเจตนาเดิมของตน

และการตายของมกุฎเต๋าบรรพดินก็มีความเกี่ยวข้องกับบรรพจารย์ล้นเช่นกัน  ภายใต้คำสั่งของบรรพจารย์ล้น เมื่อปีนั้นตี้ขุยทั้งสามคนที่หลบหนีไปยังโลกล้น ถูกคนในตระกูลหงลงมือกำราบทันที

เมื่อวังทะยานเซียนอุบัติ มกุฎเต๋าบรรพล้นทราบมาว่าบรรพจารย์เสวียนและบรรพจารย์จักรภพต่างเดินทางไปแล้ว เขาถึงจะทราบว่าที่แท้ตัวเองก็คิดเรื่องทุกอย่างตื้นเขินมากเกินไป บรรพจารย์เสวียนและบรรพจารย์จักรภพที่ดูไม่โดดเด่นอะไรตลอดมา ถึงขั้นได้รับวิธีการที่หลุดพ้นจากอัญดั้งเดิม ได้รับอิสรภาพตั้งนานแล้วอย่างนั้นหรือ

หลังจากมกุฎเต๋าสังสารวัฏ มกุฎเต๋าหวูซินและมกุฎมังกรอิมเอี๊ยงไท่ชูกำจัดบรรพจารย์ฮวงและบรรพจารย์ดินทิ้งแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้ลงมือต่อบรรพโบราณที่เหลือเลย นี่จึงทำให้บรรบรรพจารย์ล้นทราบว่าหากต้องการให้มกุฎเต๋าสังสารวัฏปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับตัวเองเมื่อปีนั้น เกรงว่าคงแทบจะเป็นไปไม่ได้แล้ว

สิ่งที่ทำให้บรรพจารย์ล้นยิ่งใจเย็นต่อไปไม่ไหวคือ เขานึกไม่ถึงเลยว่าหลัวซิวจะเจริญเติบโตได้รวดเร็วเช่นนี้ อาศัยดาบโลหิตหักเซียนเล่มเดียว แม้แต่มกุฎเต๋าขั้นสุดยอดก็ยังไม่อยากมีปัญหากับเขา

มกุฎเต๋าบรรพล้นเข้าใจตัวเองดีมาก ๆ ว่าศักยภาพตนเป็นอย่างไร แม้นจะเป็นมกุฎเต๋าเหมือนกัน มกุฎเต๋าที่เหลือเทียบเคียงด้านกลั่นยาและหลอมอาวุธกับเขาไม่ได้เลย แต่ถ้าเกิดพูดถึงศักยภาพแล้วละก็ เขาก็แค่ถือว่าพอถูไถเป็นมกุฎเต๋าขั้นชั้นหนึ่งได้

ปัจจุบันระหว่างบรรพโบราณทั้งแปดสูญเสียความเชื่อมั่นซึ่งกันและกันไปตั้งนานแล้ว หากหลัวซิวจะมาจัดการตัวเองในโลกล้นละก็ แล้วตนควรทำอย่างไรดี?

อาศัยวิชากลั่นยาหลอมอาวุธอันดับหนึ่งในจักรวาล มีประมุขเต๋าจำนวนมากที่เป็นหนี้บุญคุณบรรพจารย์ล้น แต่บรรพจารย์ล้นกลับเข้าใจดีมาก ๆ ว่าหากจะพึ่งพิงให้เหล่าประมุขเต๋ามาช่วยเหลือ ประมุขเต๋าเหล่านั้นก็สร้างประโยชน์อะไรไม่ได้เลย มีแต่จะได้ตายเสียเปล่า

ดังนั้นบรรพจารย์ล้นจึงรีบจัดแจงให้ประมุขเต๋าที่พึ่งพาได้มากที่สุดในตระกูลเดินทางไปยังโลกร้างเที่ยวหนึ่ง

มีน้อยคนมากที่เคยได้ยินชื่อหงเต๋อ แต่ทว่าในจักรวาลสามโลกานี้ กลับไม่มีคนใดที่ไม่เคยได้ยินและไม่รู้จักชื่อและสมญานามนายเจ้าโอสถหมีหลัว

ยาอาวุธทั้งหลายในโลกหล้าล้วนมาจากตระกูลหง มกุฎเต๋าบรรพล้นซ่อนเร้นจากโลกาภายนอกมันนานหลายปี ซึ่งลงมือกลั่นยาหลอมอาวุธน้อยมาก ๆ แต่มกุฎเต๋าบรรพล้นมีลูกชายสองคน และพวกเขาทั้งสองที่อยู่ในตระกูลหงก็เป็นรองเพียงบรรพอาจารย์อย่างบรรพจารย์ล้น

หนึ่งในนั้นก็คือหงเต๋อ หรือนายเจ้าโอสถหมีหลัวที่สืบสานวิถีกลั่นยาของบรรพจารย์ล้นนั่นเอง ส่วนลูกชายอีกคนหนึ่งหงอี้ ได้สืบสานวิถีหลอมอาวุธของบรรพจารย์ล้น ซึ่งถูกสรรเสริญว่าเป็นนายเจ้าเครื่องภัณฑ์อันดับสองในใต้หล้า

และผู้ที่มาเยี่ยมเยียนวังซิวหลัวแห่งโลกร้างในครั้งนี้ก็คือหงเต๋อ

หลัวซิวต้องทราบจุดประสงค์ที่บรรพจารย์ล้นส่งหงเต๋อมาอยู่แล้ว อีกทั้งบรรพจารย์ล้นก็ถือว่าบริสุทธิ์ใจมาก ๆ ไม่เพียงนำวัตถุดิบ ยา ทรัพยากรการฝึกตน รวมไปถึงของขลังอาวุธเทพจำนวนมากมา ยังให้คำสัญญาอีกด้วยว่าอนาคตขอแค่แดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวจัดเสนอยาเซียนและวัตถุดิบให้ ทางตระกูลหงสามารถช่วยกลั่นยาหลอมอาวุธให้โดยที่ไม่หวังค่าตอบแทนใด ๆ เลย

แม้นในแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวจะมีหลัวซิวคอยปกปักรักษา ทั้งยังมีต้วนคง เลี่ยเทียน แล้วก็ยู่เอ๋อร์ แต่ทว่าเบื้องล่างของพวกเขาทั้งสี่คน แดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวกลับขาดแคลนการสนับสนุนจากแกนกลางที่แข็งแกร่ง มีหลายด้านมากที่แดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวไม่สามารถเทียบเคียงกับพวกกองกำลังใหญ่ขั้นสุดยอด

แต่เมื่อมีข้อเสนอดี ๆ ที่บรรพจารย์ล้นยื่นให้ เช่นนั้นปัญหาเหล่านี้ก็จะได้รับการคลี่คลายอย่างง่ายดาย แค่ต้องใช้ระยะเวลาช่วงหนึ่งมาตกตะกอนและสั่งสม แดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวก็สามารถค่อย ๆ บ่มเพาะนักกลั่นยา นักหลอมอาวุธออกมาได้เป็นจำนวนมาก รวมไปถึงผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อ แล้วก็ผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่งที่เป็นพลังแกนกลาง

หลัวซิวไม่มีทางปฏิเสธข้อเสนอที่ดีเลิศเช่นนี้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องที่ตระกูลหงกักขังตี้ขุยทั้งสามคนเมื่อครั้นนั้น หลัวซิวก็ไม่ได้กล่าวถึงเลย การเจรจาดำเนินการไปได้ค่อนข้างราบรื่น

นี่ไม่ได้หมายความว่าเพื่อผลประโยชน์ หลัวซิวจึงไม่สนใจความรู้สึกของผู้คนที่อยู่ข้างกาย ประเด็นหลักก็เป็นเพราะตี้ขุยทั้งสามคนปลอดภัยดี มิเช่นนั้นละก็ ต่อให้บรรพจารย์ล้นชดเชยให้เขามากเพียงใด หลัวซิวก็ไม่มีทางมอบโอกาสที่จะยอมประนีประนอมกับบรรพจารย์ล้นแน่นอน

เมื่อมีวัตถุดิบทรัพยากรจำนวนมาก หลัวซิวจึงทำการจัดวางค่ายรวมจิตไว้รอบแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวอีกหนึ่งค่าย เมื่อเป็นเช่นนี้ พลังจิตอันเข้มข้นของทั้งโลกร้างก็จะมารวมตัวกันที่แดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัว

สถานที่ที่ก่อตั้งวังซิวหลัวคือจุดศูนย์กลางของโลกร้าง ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีพลังจิตเข้มข้นที่สุดในโลกร้างตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เมื่อมีค่ายรวมจิตค่ายนี้ ทำให้ระดับความเข้มข้นของพลังจิตในแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวยกระดับขึ้นอีกขั้น

เมื่อเป็นเช่นนี้ ความเร็วในการฝึกตนของศิษย์ในแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวก็จะรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และการบ่มเพาะผู้แข็งแกร่งของกองกำลังอื่น ๆ ในโลกร้างก็จะทำได้ยากขึ้น เช่นนี้จึงสามารถทำให้การปกครองของแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวมั่นคงมากยิ่งขึ้น

ในเมื่อหลัวซิวกลายเป็นประมุขแห่งโลกร้าง เช่นนั้นเขาย่อมต้องควบคุมโลกร้างอยู่ในกำมือตนดี ๆ อยู่แล้ว ให้แดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวกลายเป็นเจ้าแห่งวงการที่แท้จริง มีเพียงทำเช่นนี้ ต่อให้สักวันเขาจะจากไป แดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวก็จะไม่ค่อย ๆ เสื่อมถอยเพียงเพราะไม่มีเขา

หลัวซิวมีวรยุทธ์ระดับประมุขเต๋าต่าง ๆ นานาเยอะมาก วรยุทธ์ระดับผู้สูงส่งยิ่งมีเยอะมากจนนับไม่ถ้วน ยิ่งกว่านั้นคือเพื่อยกระดับความกระตือรือร้นของศิษย์ที่อยู่ใต้สำนัก รวมไปถึงดึงดูดให้อัจฉริยะจำนวนมากเข้าร่วมกองกำลัง หลัวซิวยังนำคัมภีร์เซียนหลอมจิตวางไว้ในหอไตรด้วย

“ยังไม่มีข่าวคราวหรือ?”

ภายในวังซิวหลัว หลัวซิวขมวดคิ้วลง ลวี่โหลวกำลังยืนอยู่ด้านล่างด้วยความเคารพนอบน้อม

เมื่อครู่หลัวซิวได้สอบถามข้อมูลที่เกี่ยวกับการตามหาเฟยเสว่ ยู่หรงแล้วก็ช่าจื่อเยียน แต่ทว่าเวลาล่วงเลยไปยาวนานเช่นนี้แล้ว กำลังที่สามารถระดมได้ก็ระดมแล้ว แต่ก็ยังไม่พบเบาะแสร่องรอยใด ๆ อีกเช่นเคย

จ้าวอาณัติแห่งสวรรค์ไม่มีความจำเป็นต้องนำเรื่องประเภทนี้มาหลอกตัวเอง ดังนั้นหลัวซิวจึงสามารถยืนยันได้ว่าพวกเฟยเสว่น่าจะยังอยู่ในโลกร้างอยู่ แต่ทว่าเนื่องจากโลกร้างกว้างใหญ่มากเกินไป หากพวกนางจงใจอำพรางตัว การที่อยากตามหาพวกนางให้เจอนั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายจริง ๆ

“ตามหาต่อ เพิ่มรางวัลตอบแทนให้สูงขึ้น ผู้ใดสามารถเสนอเบาะแส หลังจากตรวจสอบว่าเป็นความจริงแล้วจะมอบยาเซียนระดับผู้สูงส่งหนึ่งขวดเป็นรางวัลตอบแทน หากมีคนสามารถให้การช่วยเหลือตามหาแล้วเจอตัวพวกนาง ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรการฝึกตนหรือวรยุทธ์พลังอมตะ ก็สามารถเลือกได้เต็มที่!”หลัวซิวโบกมือครั้งหนึ่ง ให้ลวี่โหลวลงไปจัดแจง

ลวี่โหลวตอบตกลงคำหนึ่ง ก่อนจะก้มคำนับแล้วถอยออกไปจากวังซิวหลัว หลังจากออกมา นางก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง หน้าอกที่อวบอิ่มขึ้น ๆ ลง ๆ นางค้นพบว่าจากการที่ผลการฝึกตนของเจ้าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งอยู่ยิ่งสูง มาตรแม้นว่าเจ้าศักดิ์สิทธิ์จะไม่ประสงค์ร้าย ขอแค่นางเผชิญหน้ากับเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความกดดันที่ส่งตรงมาจากส่วนที่ลึกที่สุดของวิญญาณดั้งเดิม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ