มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3026

“ไม่ เจ้าไม่มีโอกาสนั้นแล้ว”

หลัวซิวก้าวออกไปหนึ่งก้าว อาณาจักรไร้ลักษณ์อันแข็งแกร่งที่ปกคลุมพื้นที่หนึ่งร้อยเมตรในตอนแรก ขยายกว้างขึ้นหลายเท่าตัวในรวดเดียว

เข็มทิศสาส์นเต๋าปรากฏหลักศีรษะเขา สิ่งที่ภัณฑ์เซียนชิ้นนี้ชำนาญที่สุดไม่ได้มีเพียงความเร็วในการเคลื่อนที่ มันก็สร้างประโยชน์ด้านการควบคุมห้วงเวลาได้ดีมากเช่นกัน

หลังจากเรียกเข็มทิศสาส์นเต๋าออกมาแล้ว ห้วงเวลารอบกายจีหงก็ราวกับแข็งทื่อไป เหมือนดั่งกรงขัง ต้องการกักขังเขาเอาไว้ภายใน

ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น ภายใต้ผลกระทบจากเข็มทิศสาส์นเต๋า การเคลื่อนที่ของเวลาก็ช้าลงด้วย

“วิถีห้วงเวลา!”

สีหน้าของจีหงเปลี่ยนไปอีกครั้ง เขายอมรับว่าหลัวซิวแข็งแกร่งกว่าตัวเองไม่น้อยจริง ๆ แต่ก็ยังเชื่อมั่นอยู่ดีว่าอนาคตตนต้องแข็งแกร่งกว่าเขาแน่นอน แต่เขานึกไม่ถึงเลยว่านายจ้าวซิวหลัวคนนี้จะสามารถฝึกวิถีห้วงเวลาขึ้นมาได้ถึงแดนที่สูงขนาดนี้ด้วยอย่างนั้นหรือ

ศักยภาพของวิถีห้วงเวลาสูงส่งมากเกินไป แต่เขากลับฝึกเพียงวิถีปริภูมิ ประสบความสำเร็จด้านวิถีปริภูมินิดหน่อยก็คิดว่าตัวเองแน่ หรือว่าจีหงข้าเป็นเพียงกบในกะลาตัวหนึ่งจริง ๆ?

จีหงสัมผัสจิตสังหารจากตัวหลัวซิวไม่ได้แต่อย่างใด ดังนั้นเขาจึงทราบว่าฝ่ายตรงข้ามแค่อยากจับกุมตัวเอง อยากสืบทราบประวัติความเป็นมาของเขา

อย่างไรก็ตามจีหงกลับไม่มีทางทำให้เขาสมดังหวัง เนื่องจากกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังเขาไม่ใช่กองกำลังทั่วไป มาตรแม้นว่าเป็นเหล่ามกุฎเต๋าที่มีชีวิตคงอยู่มายาวนานก็รู้จักแค่เปลือกนอก ซึ่งรู้จักกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังเขาไม่มากนัก

“แคว็ก!”

จีหงบีบทำลายฮู้ชิ้นหนึ่งอย่างเด็ดเดี่ยว เนื่องจากเขารู้อยู่ว่าหากอาศัยศักยภาพความสามารถของตน เขาไม่มีทางหลุดพ้นไปจากเงื้อมมือของนายจ้าวซิวหลัวคนนี้แน่นอน

ตั้งแต่ฝึกตนจนบรรลุเป็นประมุขเต๋าเป็นต้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่จีหงเจออุปสรรคเช่นนี้ แต่อุปสรรคเช่นนี้ไม่ได้ทำลายความมั่นใจเขาแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามกลับทำให้เขาได้เข้าใจว่าอะไรคือเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือเมฆยังมีเมฆ บทเรียนในครั้งนี้จะทำให้เขาตั้งใจฝึกตนอย่างทุ่มสุดกำลังสามารถ อนาคตเขาต้องอยู่เหนือคนดังกล่าวให้ได้ แล้วกอบกู้อำนาจบารมีของตัวเองกลับคืนมา

“ฮู้เซียนอีกแล้ว”

หลัวซิวแห้ว ไม่ใช่แค่จีหงคนเดียวเท่านั้น แม้แต่เวินเซิ่งทั้งสามคนก็วาร์ปหายไปเช่นกัน การที่สามารถสร้างประสิทธิผลเช่นนี้ได้นั้น ต้องเป็นฮู้ระดับเซียนแน่นอน

ตอนแรกเริ่มเขาก็รู้สึกสงสัยความเป็นมาของเวินเซิ่งทั้งสามคนแล้ว อย่างไรเสียเจ้าสามคนนั้นก็ล้วนไม่ธรรมดา กองกำลังทั่วไปบ่มเพาะยอดฝีมืออย่างพวกเขาออกมาได้ยากมาก

แต่หลัวซิวก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่าเจ้าสามคนนั้นที่อยู่ในกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา เหมือนจะมีบทบาทเป็นเพียงผู้ติดตามเท่านั้น จีหงในเมื่อครู่นี้เป็นประมุขเต๋าขั้นปฐมภูมิ แต่กลับมีศักยภาพที่เทียบเท่าประมุขเต๋าช่วงปลาย พอจะพูดได้เลยว่าเป็นอัจฉริยะเก่งกาจอันดับสองที่หลัวซิวเคยพบเจอ

ส่วนอันดับหนึ่งย่อมต้องเป็นยู่เอ๋อร์อยู่แล้ว ถึงจีหงจะเก่งกาจ แต่เมื่อเปรียบเทียบพรสวรรค์กับยู่เอ๋อร์ ก็ไม่ต่างอะไรจากการเอาไก่ป่าเปรียบเทียบกับหงส์

“ขอบพระคุณเจ้าศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่งที่ลงมือช่วยเหลือ”ต้วนคงก้มคำนับอย่างเคารพนอบน้อม เขารู้อยู่ว่าเมื่อครู่ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะเจ้าศักดิ์สิทธิ์ลงมือ เขาคงถูกผู้ที่มีนามว่าจีหงนั่นฆ่าตายตั้งนานแล้ว

หลัวซิวพยักหน้าแล้วพูด: “สถานภาพในปัจจุบันของจักรวาลสามโลกาค่อนข้างวุ่นวาย กองกำลังแข็งแกร่งจำนวนมากที่ไม่เคยได้ยินก็เริ่มทยอยอุบัติขึ้นมาเช่นกัน ต่อไปเจ้าจักทำอะไรก็ระมัดระวังหน่อย หากมีผู้ที่คาดเดาศักยภาพไม่ได้มาเยือน เจ้าพยายามอย่าออกจากค่ายพิทักษ์เขาจะดีกว่า”

“รับทราบ ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ”ต้วนคงตอบกลับ

“ผลการฝึกตนของเจ้าก็ถึงจุดตีบตันแล้ว ดูท่าช่วงนี้ตัวธรรมของเจ้ามีการบรรลุสินะ แม้แต่แดนยุทธ์ก็ยกระดับขึ้นมาไม่น้อย กลับไปปิดขังเพื่อบรรลุสู่แดนประมุขเต๋าช่วงกลางเถิด”

หลัวซิวพลิกมือหยิบกล่องหยกใบหนึ่งออกมา ก่อนจะโยนกล่องไปให้ต้วนคง

ต้วนคงรับกล่องมาอย่างรู้สึกแปลกใจ ก่อนที่ตัวสำนึกจะสัมผัสไข่มุกเต๋าชั้นยอดสามเม็ดที่อยู่ในกล่องหยกได้อย่างรวดเร็ว!

ไข่มุกเต๋าชั้นยอดเป็นทรัพยากรที่ผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเต๋าใช้ฝึกตนเชียวนะ เป็นทรัพยากรที่แม้แต่ผู้แข็งแกร่งมกุฎเต๋าก็ขาดแคลน อย่างไรเสียในบรรดามกุฎเต๋าทั้งหลาย นอกเหนือจากมกุฎเต๋าสังสารวัฏแล้ว มกุฎเต๋าคนอื่น ๆ ที่เหลือล้วนยังบรรลุไม่ถึงขั้นสูงสุดของมกุฎเต๋า ถ้าเกิดได้รับจำนวนไข่มุกเต๋าชั้นยอดที่เพียงพอ ก็จะสามารถทำให้พวกเขาค่อย ๆ ฝึกถึงขั้นสูงสุดของมกุฎเต๋า

ไข่มุกเต๋าชั้นยอดเป็นทรัพยากรที่แม้แต่มกุฎเต๋ายังไม่พอใช้ จึงแสดงให้เห็นเลยว่ามันล้ำค่าและหายากมากเพียงใด ถึงจะมีแค่สามเม็ด แต่ถ้าเกิดต้วนคงใช้มันบรรลุสู่ประมุขเต๋าช่วงกลาง ก็เป็นจำนวนที่เหลือเฟือมากแล้ว อีกทั้งไข่มุกเต๋าชั้นยอดไม่เพียงสามารถทำให้เขาบรรลุ ยังสามารถทำให้รากฐานที่ไม่มั่นคงหลังจากผลการฝึกตนมีการบรรลุมั่นคงขึ้นด้วย ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาไปเคี่ยวเข็ญทำให้รากฐานมั่นคงอีก

หลัวซิวไม่เคยขี้เหนียวต่อผู้ที่ติดตามตนอย่างจงรักภักดีอยู่แล้ว เรื่องราวบางอย่างที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลัวซิวมองเห็นความจงรักภักดีของต้วนคง ฉะนั้นถึงได้มอบไข่มุกเต๋าชั้นยอดให้เขาสามเม็ด

ทว่าเลี่ยเทียนกลับแตกต่างกัน สาเหตุที่เลี่ยเทียนยินดีช่วยเขาต่อต้านศัตรูตัวฉกาจอยู่ที่นี่นั้น เป็นเพราะเลี่ยเทียนเคยสาบานด้วยตัวธรรม ดังนั้นเลี่ยเทียนจึงแทบจะไม่มีความจงรักภักดีใด ๆ ต่อหลัวซิวเลย และไม่ได้รู้สึกผูกพันอะไรต่อแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัว

ฉะนั้นต่อให้หลัวซิวยังเหลือน้ำอมฤตเทียนอีอีกนิดหนึ่ง เขาก็ไม่ได้มอบให้เลี่ยเทียนเพื่อไปฟื้นฟูดั้งเดิมของตน

หลังจากกลับไปถึงแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัว ต้วนคงก็ปิดขังทันที หลัวซิวก็ไม่มีความคิดที่จะนำกิจธุระของแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวฝากให้เลี่ยเทียนดูแลจัดการ ดังนั้นจึงไปกำชับกับยู่เอ๋อร์ว่า ในช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่ หากมีความจำเป็นละก็ ให้นางเป็นผู้ลงมือจัดการปัญหาบางอย่างได้เลย

ยู่เอ๋อร์ไม่มีทางปฏิเสธการจัดแจงของหลัวซิวอยู่แล้ว ต่อให้ระยะเวลาในการฝึกตนของตัวเองจะลดลง นางก็จะจัดการกิจธุระที่หลัวซิวฝากฝังไว้ให้นางเสร็จสิ้นก่อนแน่นอน

หลังจากออกจากวังซิวหลัว หลัวซิวก็เดินทางไปโลกจักรภพเที่ยวหนึ่ง และได้เจอกับจ้าวอาณัติแห่งสวรรค์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ